บทวิเคราะห์ Gent-Wevelgem มาช้าสักนิดนึง สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทีมงาน DT ยกทีมไปปั่นกันที่ภูเก็ตเลยไม่ว่างมาเขียนกัน แต่เป็นสนามที่สนุกครับ จะไม่พูดถึงก็กะไรอยู่
ปีเตอร์ ซากาน (Tinkoff) แชมป์โลกจักรยานถนนคนปัจจุบันในที่สุดก็คว้าแชมป์แรกในฐานะเจ้าของเสื้อสีรุ้งได้สักทีในสนาม Gent-Welvelgem หลังจากที่ได้อันดับสองต่อเนื่องในสนามต่างๆ มาตลอดฤดูกาล (5 ครั้ง)
จังหวะตัดสินเกมวันนี้มาจากการโจมตีของแคนเชอลาราบนเนินที่ยาวและชันที่สุดของรายการ – Kemmelberg ซึ่งมีแค่ซากาน และเซป ฟานมาร์ค (LottoNL) ที่ตามมาได้ ด้านหลังเป็น BMC และ Etixx-Quickstep ที่พยายามฟอร์มเบรคอเวย์กลุ่มที่สองเพื่อไล่จับสามคนด้านหน้า แต่สุดท้ายก็โดนรวบ จน Etixx ต้องใช้นักปั่นทั้งทีมมาไล่จับกลุ่มเบรคตัวเต็ง
สามเกลอด้านหน้าที่หนีไป ไปรวบจับคุซเนทซอฟ – เบรคอเวย์คนเดียวที่เหลือรอดของวันซึ่งเป็นหนึ่งในลีดเอาท์ของคริสทอฟ (Katusha) ถึงจะเกาะมาได้แต่ด้วยการที่เขาไม่ใช่ตัวเต็ง ทั้งซากาน แคนเชอลารา และฟานมาร์คเลยไม่ได้บังคับให้เขาขึ้นเวียนช่วยทำเกม
ด้านหลัง Etixx ยังคงไล่จับอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อตัวเต็งระดับแชมป์โลกเสือหมอบ เทพเจ้าสนามคลาสสิค และม้ามืดไฟแรงช่วยกันผลัดเวียน ระยะห่างระหว่างกลุ่มหนีกับกลุ่มไล่กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากราวๆ 30 ไปจนถึง 45 วินาที ลูกทีม Trek ขึ้นมาตั้งใจลดความเร็วกลุ่มเพื่อให้แคนเชอลาราหนีรอด ในขณะที่ทีมอื่นๆ ซึ่งปรากศจากตัวเต็งรับหน้าที่ผู้โดยสาร บังคับให้ Etixx ที่ไม่มีนักปั่นในเบรคอเวย์ต้องทำงานอยู่ทีมเดียว
เข้าสู่ช่วง 5 กิโลเมตรสุดท้าย Etixx ก็ต้องถอดใจ เลิกไล่เพราะเข้าใจสถานการณ์ดีว่าไม่สามารถไล่ได้ทันแน่ๆ ส่วนซากาน ฟานมาร์ค และคุซเนทซอฟ เริ่มกดดันให้แคนเชอลาราเป็นคนนำกลุ่ม กลุ่มหนียังพอเล่นเกมหยั่งเชิง ชะลอความเร็วดูท่าทีกันได้ใน 2 กิโลเมตรสุดท้ายเมื่อเปโลตองยังอยู่ห่างไปกว่าครึ่งนาที
ซากานรู้ตัวดีว่าที่ผ่านมาในสถานการณ์แบบนี้ เขาช่วยลากกลุ่มเยอะไป จนไม่เหลือแรงสปรินต์ (E3 ที่แพ้เควียทคอฟสกี้ก็จบแบบนี้) ฟานมาร์คดูเหนื่อยและคุซเนทซอฟรอสปรินต์หนีทุกคน ส่วนแคนเชอลาราก็ออกท่าทีรำคาญที่ไม่มีใครอยากลากใคร
คุซเนทซอฟเปิดสปรินต์เป็นคนแรก และซากานขึ้นตามได้ทันที กลายเป็นว่าแชมป์โลกมีลีดเอาท์ช่วยบังลมในการสปรินต์ไปโดยปริยาย และซากานก็ออกแซงม้ามืด Katusha ในจังหวะสุดท้ายคว้าแชมป์ Gent-Wevelgem ได้เป็นครั้งที่สอง ฟานมาร์คเองโยนจักรยานเข้าเส้น แซงคุซเนทซอฟคว้าที่สองไปแค่ครึ่งล้อ ส่วนแคนเชอลาราทำได้เพียงอันดับสี่ เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ภายหลังว่าเป็นตะคริวตั้งแต่ห้ากิโลสุดท้าย และไม่มีแรงจะไล่ตาม
ด้านหลังกลุ่มเบรคอเวย์ เดอแมค์ (FDJ) สปรินต์ได้อันดับ 5 และกาวิเรีย (Etixx-Quickstep) อันดับ 6 แวน เอเอเวอร์มาร์ต (BMC) ที่ยังไม่หายป่วยดีได้อันดับ 9
DT Comment
- สำหรับซากานแล้ว แชมป์สนามนี้คือชัยชนะครั้งแรกของฤดูกาล ถึงจะถูกล้อถูกแซวว่าเป็นที่สองมาต่อเนื่อง ไม่น่าจะชนะได้ง่ายๆ แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะลืมไปคือ ซากานเป็นหนึ่งในนักปั่นที่แกร่งที่สุดในปีนี้ โดยเฉพาะในสนามคลาสสิค ทั้งใน Omloop, KBK, E3, และ San Remo เขาเป็นคนเดียวที่ติด Top 10 ทุกรายการ และบางรายการเขาเป็นคนที่เปิดเกมฟอร์มกลุ่มเบรคอเวย์ที่เป็นตัวเต็งของรายการนั้นๆ สนาม Gent วันนี้เขาดูมั่นใจเป็นพิเศษ สังเกตได้จากช่วงสุดท้ายก่อนสปรินต์ที่ตัดสินใจได้เฉียบคมขึ้นกว่าสนามก่อนๆ ครับ และน่าจะฟอร์มพีคพอเหมาะกับ Tour of Flanders (รายการที่เขาอยากชนะที่สุดในปีนี้) วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้พอดี
- แคนเชอลาราเอง ถึงจะแพ้ แต่ก็มีผลงานในสนามคลาสสิคที่ดีต่อเนื่อง เขาได้แชมป์ 4 ครั้งในฤดูกาลนี้ และได้ที่ 4 ทั้งใน E3 และ Gent ถ้าไม่ติดเรื่องตะคริว เขาน่าจะได้โพเดี้ยม Gent แน่นอน ฟอร์มพร้อมแข่ง Flanders อย่างไม่ต้องสงสัย
- ฟานมาร์คเริ่มโชว์ฟอร์มคลาสสิคอีกครั้งหลังจากที่เงียบหายไปนาน ผลงานที่ดีที่สุดคืออันดับสอง Roubaix ในปี 2013…สนามนี้เขาบอกว่าพอใจกับผลงานพอสมควรแต่รู้ตัวว่ายังไม่แข็งแรงเท่าทั้งซากานและแคนเชอลารา
- ที่น่าเป็นห่วงคือ Etixx-Quickstep เพราะเป็นอีกครั้งที่ทีมที่น่าจะแข็งแกร่งที่สุดในรายการกลับพลาดการมาร์คเบรคอเวย์ของซากานและแคนเชอลารา รู้ตัวอีกทีก็ต้องยกทีมทั้งทีมมาไล่ตาม ซึ่งก็ยังตามไม่ทัน ส่วนตัวผมว่า EQS ขาดผู้นำที่เด็ดขาด ซึ่งปกติจะเป็นโบเน็นที่ฟอร์มดีและเป็นตัวชี้แผนการของทีม แต่เมื่อโบเน็นไม่สตรองพอ และมีนักปั่นหลายคนที่เคยเป็นแชมป์รายการสใหญ่ทั้งนั้น (สตีบาร์ – Strade Bianche, เทรนทิน แชมป์สเตจตูร์, เทิร์ปสตร้า แชมป์ Roubaix, กาวิเรีย สปรินเตอร์ฟอร์มดี) ทำให้ทีมอาจจะขาดความชัดเจนและความเฉียบคมระหว่างแข่ง จะอย่างไรก็ดี เห็นได้ชัดว่าแผนนี้ไม่เวิร์กมาแทบทุกสนามที่ลงแข่ง EQS คงต้องทำอะไรสักอย่างก่อนเริ่ม Roubaix และ Flanders ครับ
Video: Full Race (3 ชั่วโมง)
