Omega Pharma-Quickstep อาจจะไม่ใช่ทีมในใจของใครหลายๆ คนแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา OPQS คือทีมที่น่าเกรงขามที่สุดใน Peloton วันนี้เรามาย้อนรอยรีวิวผลงานของทีมในฤดูกาล 2013 ที่ผ่านมากันครับ

[separator type=”double”]

The Brief

ถ้าย้อนไปสัก 3-4 ปีก่อน ชื่อ Omega Pharma-Quickstep อาจจะเป็นแค่ลมผ่านหูเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเป้าหมายหลักของ OPQS คือเอาชนะสนามคลาสสิคในช่วงต้นปีเท่านั้น พ้นจากนั้นก็แทบไม่มีผลงานเลย! แต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในทีมครับ OPQS กลายเป็นทีมที่คว้าชัยชนะได้เยอะที่สุดมาสองปีต่อกัน ผู้จัดการทีม Patrick Lefever เปลี่ยนโฟกัสจากการเป็น King of the Classics มาเป็นหนึ่งในทีมที่ “รอบด้าน” ที่สุดใน Peloton ขนาดนี้ด้วยการซื้อตัวนักปั่นระดับเทพแทบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น Tony Martin (TT), Mark Cavendish (Sprint), Rigoberto Uran และ Michael Kwiatkowski (GC), ไหนจะหน้าเก่าสายโหดอย่าง Tom Boonen (Classics) บวกกับหน้าใหม่ฟอร์มแรงอย่าง Niki Terpstra และ Zdnek Stybar เรียกได้ว่ามีขุนผลพร้อมชนทุกสภาพการแข่งตั้งแต่ต้นจนจบฤดูกาล

 

The Result

ด้วยทุนมหาศาลและนักปั่นชื่อดังฝีเท้าดีคับทีม ไม่แปลกที่ OPQS จะคว้าไป 55 ชัยชนะ (จากผลงานนักปั่น 11 คน) ถึงแม้ Mark Cavendish จะไม่สามารถพิชิตเสื้อเขียวและเก็บมาได้แค่ 2 สเตจจาก Tour de France แต่แกก็ได้ทีมซัพพอร์ทที่ยอดเยี่ยมใน Giro คว้าเสื้อแดงเจ้าความเร็วมาได้ในที่สุด ส่วน Tony Martin ก็ชนะเกือบทุกสเตจและพาทีมคว้าแชมป์โลก ITT และ TTT ได้เป็นสมัยที่สอง ส่วนเด็กใหม่อย่าง Matteo Trentin ก็ได้แชมป์สเตจที่ Tour de France, Kwiatkowski โชว์ฟอร์มดีตลอดทั้งปีคว้าอันดับ 2 Best Young Rider ในรายการเดียวกัน และสปรินเตอร์หน้าใหม่ Ginni Meersman กวาดแชมป์สเตจรายการเล็กแทบทุกสนามที่แกลง แต่สิ่งที่ทีมพลาดที่สุดในปีนี้คงไม่พ้นสนามคลาสสิคที่ Tom Boonen ไม่สามารถป้องกันแชมป์ Flanders และ Roubaix ได้ตามที่เขาหวังไว้จากอาการบาดเจ็บหัวเข่า

 

The Good

1. Mark Cavendish โชว์สเต็ปเทพในสเตจ 13 Tour de France

ถ้ามีคนถามว่า OPQS เป็นทีมแบบไหน? สเตจ 13 TDF ปีนี้คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดครับ OPQS เป็นทีมนักแข่งคลาสสิค กล้าได้กล้าเสีย และเลือกที่จะชิงโอกาสในการแข่งแทนที่จะควบคุมทีมอื่นอย่างเบ็ดเสร็จเหมือน Sky ในสเตจ 13 TDF ปีนี้ที่เป็นทางราบยาวและลมข้างกรรโชกแรง OPQS โชว์ทักษะการปั่นต้าน Crosswind ฉีกกลุ่ม peloton เป็นเสี่ยงๆ ตัดคู่แข่งอย่าง Kittel ไปอยู่ท้ายกลุ่ม ตอนท้าย Saxo-Tinkoff ขึ้นมาต่องานเร่งเครื่องขึ้นไปอีก ในขณะที่ Chris Froome เลือกที่จะรออยู่กลุ่มสองแล้วเข้าเส้นชัยแบบเซฟๆ Cavendish กับ Chavanel สปรินต์สุดชีวิตฉีกตัวขึ้นไปเกาะกับขบวน Saxo แล้วเล่นแผนนกต่อสับขาหลอก Peter Sagan ส่ง Cavendish เก็บแชมป์สเตจไป – กล้าเสี่ยงและอ่านเกมขาดพร้อมกับฝีเท้าที่แกร่งพอจะพิชิตคู่แข่ง ถึง Cav จะได้มาแค่ 2 สเตจแต่วันนั้นแสดงให้เห็นถึงทักษะการแข่งและกลยุทธ์ที่เหนือชั้นของทีมจากเบลเยี่ยมครับ

2. เด็กใหม่ไฟแรง Michal Kwiatkowski

เห็นหน้าติ๋มๆ แบบนี้แต่ DT อยากบอกว่าจับตามองไอ้หนูคนนี้ให้ดีครับ ถ้าใครตามดูผลการแข่งตลอดทั้งปีจะรู้ว่าน้องแกไม่ธรรมดา! เป็นนักปั่นที่รอบด้านไม่แพ้ Sagan ขึ้นเขาได้ ปั่นคลาสิคได้ ท้าชิงตัวเต็ง GC ก็ได้ Time Trial ก็ไม่เลว ผลงานปีนี้เบาะๆ ก็แค่แชมป์เสือหมอบโปแลนด์ ที่ 4 Tierrano-Adriatico ที่ 2 Volta Algarve ที่ 4 Amstel Gold ที่ 5 Fleche Wallonne และที่ 11 Tour de France!! และถ้าดูผลงานตามสเตจย่อยๆ น้องคนนี้สปรินต์ได้แรงไม่แพ้คนอื่นด้วย นอกจาก Kwiatkowski แล้ว OPQS ยังมี Matteo Trentin และ Zdnek Stybar ที่ฟอร์มแรงและดูว่าอนาคตคงพัฒนาต่อไปได้อีกเยอะครับ

 

The Bad

1. Paris-Roubaix

ถึง Boonen จะหายตัวไปตลอดทั้งปีจากอาการบาดเจ็บ แต่ Roubaix ปีนี้ทำให้เราได้เห็นถึงฝีเท้าการพิชิต Cobble ของเด็กใหม่ในทีม – Zdnek Stybar และ Stijn Vandenbergh ที่ไล่ตาม Cancellara ได้จนถึงช่วงสุดท้ายของการแข่งในขณะที่คนอื่นๆ ถ้าไม่นับความซวยที่ทั้งคู่ล้มจากการชนคนดูข้างทาง ผลการข่ง Roubaix ปีนี้อาจจะไม่ใช่อย่างที่เราเห็นกันก็ได้ ปีหน้าถ้า Boonen ฟอร์มยังไม่ขึ้น OPQS ก็พร้อมส่งสองคนนี้เข้าท้าชิงแน่นอน

2. Cavendish พ่ายในปารีส

Mark Cavendish ไม่เคยแพ้ใครบนถนนฌ็องเซลิเซ่ สเตจสุดท้ายของการแข่ง Tour de France จนได้รับสมญานามว่าเป็น The King of Paris ทว่าปีนี้เขาพ่ายให้กับเด็กใหม่ไฟแรงอย่าง Marcel Kittel บนถิ่นของตัวเอง ในหนังสือเล่มใหม่ของ Cav แกบอกว่าปีหน้าจะไปฟิตซ้อมใหม่มาเอาคืนครับ

 

The Future

OPQS เป็นทีมที่ซื้อนักปั่น High Profile เยอะที่สุดในปีนี้ ประกอบไปด้วย Mark Renshaw (Belkin), Alessandro Petacchi (Lampre), Rigoberto Uran (Sky), Jan Bakelants (RSLT) และ Wout Poels (Vacansoleil) ในขณะที่เสียนักปั่นฝีมือดีอย่าง Chavanel และ Velits ไป สำหรับทีมยักษ์ทีมนี้มีหลายคำถามที่น่าสนใจในฤดูกาลหน้าครับ

1. Boonen จะกลับมาทวงบัลลังก์คลาสสิคได้หรือเปล่า? ศึกชิงความเทพของ Boonen และ Cancellara ถือเป็นเรื่องระดับตำนาน ต้องรอดูกัน

2. Michal Kwiatkowski จะได้ชัยชนะใหญ่ๆ หรือเปล่า? หรือจะกร่อยเหมือน Edvald Boassan Hagen (Sky) ที่เก่งรอบด้านเหมือนกัน แต่ยังไม่ชนะสนามใหญ่และเป็นได้แค่ super domestic?

3. หัวลาก Leadout ใหม่จะทำงานช่วย Cav ได้ดีขนาดไหน? Petacchi, Renshaw, Steegman เป็น best of the best ในเกมการสปรินต์ แต่คู่แข่งนั้นก็เก่งไม่แพ้กันโดยเฉพาะ Argos และ Lotto – Cav เองจะยังสู้ไหวหรือเปล่า?

4. จะเอาไงกับ Uran!? วันก่อนอ่านสัมภาษณ์ Patrick Lefever เจ้าของทีม แกบอกว่า OPQS ไม่ใช่ทีมสปรินเตอร์ Cavendish ต้องแบ่งที่ให้กับ Uran ใน Tour de France คือแกจะให้ทีมมีผลงานหลายๆ อย่างครับทั้งคลาสสิค สปรินต์ และ Grand Tour แต่ว่าแผนนี้มันจะเวิร์กหรือเปล่า? Cavendish หนี Sky มาอยู่กับ OPQS ก็เพราะอยากได้ซัพพอร์ท 100% เจอแบบนี้จะทำยังไง? Uran เองก็เป็นคนที่ไม่ต้องอาศัยคนช่วยมาก แกมีสไตล์การปั่นของแกเอง ไม่เหมือนใคร ปีนี้จับพลัดจับผลูยังได้ที่ 2 Giro d’Italia แต่ถ้าต้องแบ่งมดงานกันแบบนี้ อาจจะทำทำได้ไม่ดีเลยสักอย่างก็เป็นได้

OPQS เป็นทีมที่ค่อนข้างน่าสนใจตรงที่มีตัวเทพจุติรวมกันอยู่หลายคน แต่จะเป็นเหมือน BMC มั้ยที่เทพคาสวรรค์ ไม่มีผลงาน? ต้องรอดูกันครับ ที่แน่ๆ ทีมนี้น่าจะเอนเตอร์เทนเราได้ตลอดทั้งฤดูกาลตั้งแต่ Spring Classic ยันชิงแชมป์โลกแน่นอน

DT ตัดเกรด

A-