Sep Vanmarcke ม้ามืด อันดับสองแห่ง Paris-Roubaix

นักปั่นเกือบทุกคนในโลกคงดีใจไปตลอดชีวิตถ้าเขามีโอกาสได้คว้าอันดับสองรายการเกียรติยศ Paris-Roubaix สักครั้งในชีวิต แต่ Sep Vanmarke นักปั่นวัย 24 ปีจากทีม Blanco กลับผิดหวังและเสียใจจนหลั่งน้ำตาหลังจากที่แพ้ Fabian Cancellara ไปเพียงแค่ไม่กี่ช่วงรถ วันนี้เรามาทำความรู้จักดาวรุ่งคลาสสิคคนนี้กันครับ

Profile: Sep Vanmarcke

ออกเสียง: เซป ฟานมาร์ค
อายุ: 24 ปี
วันเกิด: 28 กรกฏาคม 1988
สัญชาติ: เบลเยี่ยม
สัดส่วน: สูง 190cm / หนัก 77 กิโลกรัม
สังกัดทีม: Blanco Procycling
อดีตทีม: Topsport (2010), Garmin (2011-2012)

 

ผิดหวัง

ภายหลังการแข่ง Sep Vanmarcke ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว Cyclingnews

“ก่อนที่เราจะลงแข่ง ผมคงดีใจแล้วที่ได้ที่สอง แต่ในความเป็นจริงผมขึ้นนำทุกคนจนถึง 50 เมตรสุดท้าย อีกสักสองสามอาทิตย์ผมคงดีใจกับอันดับสอง แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่าผิดหวังจริงๆ”

“ผมคงนอนไม่หลับไปอีกหลายคืน ในหัวคงจำลองการสปรินต์หน้าเส้นชัยอีกสักพันครั้ง ผมรู้ว่าทุกคนชื่นชมและยินดีกับอันดับสอง แต่ผมก็ยังคิดว่ามันคงดีกว่าถ้าเราจะได้เป็นผู้ชนะ”

“ผมนำ Cancellara อยู่ตลอด และเขาก็สลัดผมไม่หลุดในช่วง 4 กิโลเมตรสุดท้าย ในหัวผมเต็มไปด้วยภาพตัวเองรอรับรางวัลก้อนหินโบราณ [cobble] และนั่นมันทำให้ผมเจ็บใจยิ่งกว่าอะไร เมื่อ Cancellara เอาชนะผมใน 20 เมตรสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ Cancellara ไม่ได้ไร้เทียมทานเหมือนเมื่อหลายปีก่อน ผมตามเขาแค่ช่วงรถเดียว แต่สุดท้ายผมก็ทำไม่ได้”

 

ดาวรุ่งสนามคลาสสิค

Sep Vanmarcke เป็นดาวรุ่งนักปั่นผู้เชี่ยวชาญสนามคลาสสิค มีผลที่น่าจับตามองมาพอสมควรเลยครับ ถึงแม้จะอายุเพียง Vanmarcke เทิร์นโปรเมื่อเข้าย่าง 21 ปี และเกือบจะสปรินต์ชนะ Bernhard Eisel ใน Gent-Wevelgem ได้อันดับสองไป​ซึ่งทำผลงานได้ดีกว่า Philippe Gilbert, George Hincapie, Daniel Oss และ Jurgen Roelandts ในปี 2011 เขาเริ่มแข่ง Paris-Roubaix เป็นครั้งแรกและทำหน้าที่ Domestique ผู้ช่วย Johan Van Summeren และ Thor Hushovd ลากและป้องกันหัวหน้าทีมจนถึงช่วงสุดท้ายของการแข่ง ในปีนั้น Van Summeren คว้าแชมป์​ Roubaix ในขณะที่ Van Marcke เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 20 – ดีกว่าตัวเต็งหลายๆ คนเสียอีก

หยั่งเชิง Tom Boonen
หยั่งเชิง Tom Boonen ในศึก Omloop

ในปี 2012 ฟอร์ม Sep Vanmarcke ร้อนแรงขึ้นไปอีกหนึ่งดีกรีด้วยการสปรินต์เอาชนะซุปเปอร์สตาร์สนามคลาสสิค Tom Boonen ในรายการ Omloop Het Nieuwsblad ทว่าโชคไม่ดี Vanmarcke ติดเชื้อไว้รัสหลังจากการแข่ง หมดโอกาสสร้างผลงานในสนามคลาสสิคฤดูกาล 2012

ปีนี้ Van Marcke ล้มบาดเจ็บในการแข่งขัน Tierrano-Adriatico ทีม Blanco คิดว่าเขาไม่น่าจะลงแข่งไหวเสียด้วยซ้ำ และฝากฝังความหวังของทีมไว้กับ Lars Boom ซึ่งถูก Cancellara สับขาหลอกและทิ้งห่างไปอย่างน่าเสียดาย

 

ผลงานการแข่ง
ผลงานการแข่ง

 

โค้งสุดท้าย

Van Marcke บรรยายถึงช่วงสุดท้ายของการแข่งระหว่างที่เขาขึ้นนำคู่กับ Fabian Cancellara

“วันนี้ผมรู้ตัวดีว่าสมองไม่ปรอดโปร่ง ไม่พร้อมแข่งสักเท่าไร เพราะหลังจากที่ล้มใน Tierrano ผมต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อพัฒนาฟอร์มการแข่งให้ทัน Paris-Roubaix วันนี้ถึงผมจะยางรั่วต้องหยุดจอดไปสองสามครั้งและล้มไปทีนึง แต่ก็ยังกลับมาเกาะกลุ่มนำทัน”

“4 กิโลเมตรสุดท้าย ผมเริ่มเชื่อมั่นว่าจะเอาชนะ Cancellara ได้แน่ๆ เรื่องเดียวที่ผมกังวลคือ Cancellara จะเปิดเกมหนี ผมพยายามเกาะไม่ให้หลุด Cancellara ถามผมหลายครั้งว่ารู้สึกยังไง ซึ่งจังหวะนั้นผมก็ไม่เหลืออะไรแล้ว หมดก๊อก และผมก็มั่นใจว่า Fabian ก็หมดก๊อกเหมือนกัน ยังไงก็ไม่มีใครหนีใครได้แน่ๆ ผมมั่นใจว่าสปรินต์ชนะ ยังไงก็ต้องตาม Cancellara ไปให้ถึง Velodrome”

“ในจังหวะสุดท้าย Cancellara ติดกับดัก ผมบังคับให้เขาขึ้นไปอยู่บนแบงก์กิ้ง แต่ผมตัดสินใจพลาด ผมออกสปรินต์เร็วเกินไป ถ้าผมอดใจรอไม่ยอมสปรินต์ผมยิ่งจะมีโอกาศชนะมากขึ้น แต่ผมก็ออกตัวก่อน ทำไมหละ? คงเป็นเพราะผมตื่นเต้นและขาดประสบการณ์ ใจร้อนเกินไป ผมรู้ดีว่าผมควรจะดีใจที่ได้อันดับสอง แต่ยังไงก็รู้สึกผิดหวังและเสียดายอยู่ดี…”

“After watching the race again, a short night, and 1000 new sprints in my head I still lost Paris-Roubaix yesterday. I can’t change it. But all the proud people and nice messages are helping me to see that 2nd place in a positive way”

“I think I raced smart, had some bad luck, didn’t make big mistakes, not even in the sprint. @f_cancellara was just a little bit stronger.”

RBA Finish line

Vanmarcke of Belgium rides ahead of Cancellara of Switzerland as they cycle on a cobble-stoned section during the Paris-Roubaix cycling race from Compiegne to Roubaix

 

สรุป

Sep Vanmarcke เป็นนักปั่นดาวรุ่งที่หลายๆ คนอาจจะไม่รู้จักมาก่อน ถ้าใครเคยดูเขาแข่งสนามคลาสสิคเล็กๆ จะพอรู้ว่าน้องคนนี้แกมีไหวพริบตัดสินใจได้เฉียบขาด เสียเพียงอย่างเดียวว่าโชคไม่ค่อยเข้าข้าง บาดเจ็บระหว่างการแข่งสำคัญๆ เสมอ แต่ถ้าดูกันที่หน่วยก้านแล้วคนนี้ถือว่าเป็นนักปั่นคลาสสิคที่น่ากลัวเลยครับ ร่างกายสูงใหญ่ และกำลังใจดี VanMarcke บอกว่าเขาเกิดมา “เพื่อปั่นสนามคลาสสิค” เป็นเป้าหมายเดียวในชีวิตและมั่นใจว่าจะกลับมาพิชิต Paris-Roubaix ได้แน่ๆ ก็ต้องคอยดูกันว่าน้องคนนี้จะก้าวตามรอยเทพนักปั่นคลาสสิคชาวเบลเยี่ยมรุ่นพี่Tom Boonen แชมป์สี่สมัยได้หรือเปล่า

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

6 comments

  1. เก่งจริงๆ !
    คงไม่ดีใจเท่าไหร่ เพราะคนทั่วไปก็จะจดจำแต่เพียงที่หนึ่งเมื่อเวลาผ่านไป แต่ประสพการณ์อีกยาวไกล เทียบกับมือเก่ายางแคนเซราร่าได้ ยางรั่วไปหลายที โชคกลั่นแกล้งขนาดนี้ยังลูบเครามือเก๋าเจนสนามได้ขนาดนั้นก็ถือว่าสุดยอดมากแล้วจริงๆครับ

  2. ขอบคุณมากๆครับแอ๊ดมิน ความเห็นผมนะคับ ผมก็คิดเหมือนเจ้าตัวแกเลย คือแกออกตัวสปิ้นเร็วเกินไป ถ้ารอจังหวะอีกนิดแล้วยก รับรองล้อหน้าเข้าเส้นก่อนน้าแคนแน่นอน เป็นกำลังใจให้คับ ผมจะคอยเชียร์เค้าคับ Vanmarcke

    1. ประสบการณ์และความใจเย็นช่วยได้จริงๆ เสียดานแทนครับ แต่คนนี้รีเทิร์นแน่นอน

  3. ผมเป็นแฟน น้าแคน. แต่วินาทีนั้น ใจผมส่วนหนึ่งก็อยากให้ Vanmarcke เข้าเส้นครับ

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *