ผมว่านักปั่นหลายๆคนไม่ได้มีรองเท้าปั่นจักรยานแค่คู่เดียวแน่ๆ ส่วนใหญ่คู่แรกเราจะซื้อตอนที่ยังไม่มีความรู้ว่ามันเข้ากับสรีระเท้าเราดีหรือเปล่า ผมเองก็เช่นกันดูรองเท้าคู่แรกที่ผมซื้อมาพร้อมกับเสือหมอบคันแรกก็เกือบปีแล้วครับ ตอนนั้นก็อย่างว่าหละครับร้านแนะนำอะไรก็ซื้อเลย เพราะทุกอย่างใหม่หมด คือแบบอยากซื้อทุกอย่างจบในร้านเดียว ร้านเค้ามีขายอะไรก็เอายี่ห้อนั้น จะได้ให้เค้าเซ็ตปรับตั้งให้เรียบร้อยไปเลย

รองเท้าคู่แรกที่ได้มาเป็นยี่ห้อ Louis Garneau ก็ถือว่าใช้ได้ แต่ปัญหาคือใช้ๆ ไปซักระยะผมว่ารองเท้ามันเริ่มไม่กระชับ เดาได้ว่ามันน่าจะขยายเหมือนกับรองเท้ากีฬาที่เคยใช้ แต่ก็นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหาจริงๆ ก็คือปั่นแล้วนิ้วเท้าข้างซ้ายชาเวลาที่ต้องปั่นนานๆ อันที่จริงก็ได้รับคำแนะนำมาจากหลายๆ ร้านว่าไปลองปรับคลีทดู ลองแล้วก็ยังไม่หายชาสักทีทีนี้ ก็คิดดู เอ เอาไงดีเนี่ย เปลี่ยนรองเท้าละกันเผื่อว่าจะหาย

ปัญหาอีกอย่างคือทรงรองเท้า Louis Garneau มันไม่ค่อยเข้ากับสรีระเท้าของผม ปลายเท้ามันไม่ชนกับรองเท้าครับ แล้วก็มีที่พอเหลือให้นิ้วเท้าขยับได้ค่อนข้างเยอะมากครับ คือประมาณว่ารองเท้ามันหน้ากว้างครับ ก็เลยเป็นที่มา ในการซื้อ Shimano R320 ที่เราจะรีวิวกันวันนี้ ตอนแรกก็มีหลายตัวเลือกเช่น Mavic Sidi Specialized แต่ก็พอจะซื้อก็ไม่มีไซส์ ใจจริงอยากได้รุ่นที่เป็นสลิงระบบ BOA ของ Sidi กับ Spe ครับ แต่เห็นรีวิวเมืองนอกแล้วเค้าบอกว่ามันใช้ไปสักพักแล้วมันจะมีปัญหา ส่วนของ Mavic นี้ก็หาอะไหล่ยากครับ

สุดท้ายก็เลยมาจบที่ Shimano เพราะที่ร้านที่ซื้อบอกว่าเอามาอบได้นะ ตอนแรกก็ เอ๊ะ อบรองเท้า ! งง รองเท้า อบได้ ด้วยเหรอ!! แล้วอบไงอ่ะ พี่ที่ร้านเอาเข้าไมโครเวฟหรือครับ!? พอพี่เค้าอธิบายพร้อมกับเอาเครื่องให้ดูก็ oK ครับ แต่ว่าเท้าผมจะสุกมั้นเนี่ย ตอนแรกไปสะดุดตาสีฟ้าครับแต่ที่ร้านบอกว่าเป็น limited edition หมดไปแล้ว เลยเอาสีขาวเจ้า R320 เป็นรองเท้าเสือหมอบตัวท๊อปของ Shimano พื้นคาร์บอนซึ่งจะสติฟตอบรับการออกแรงเราได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าพื้นวัสดุผสมที่เราเห็นในรองเท้ารุ่นเริ่มต้นครับ

ดีไซน์และการออกแบบ

ตามสไตล์ Shimano รองเท้าคู่นี้จะดูเรียบๆ ไม่ค่อยมีลูกเล่นเหมือนอย่างกับ Mavic และ SIDI งานการประกอบเรียบร้อยดี ตามแบบฉบับญี่ปุ่นที่เน้นคุณภาพมากับความเรียบร้อย หยิบออกมาจากกล่องก็พบว่ามีถุงใส่รองเท้าแถมมาด้วยครับ หนังที่ใช้เป็นหนังสังเคราะห์ที่ Shimano เรียกว่า Rovenica Ultrafine Synthetic Leather ดูมีราคาใช้ได้ เจ้านี้มีช่องระบายอากาศค่อนข้างเยอะทั้งด้านบนและด้านล่าง ส่วนสายรัด Strap ก็แน่นหนาดีครับ

การใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ดูทนทานดี และแผ่นรองเท้าหรือ insole ที่ให้มาก็ดีมากครับ สามารถเปลี่ยนแผ่นรองอุ้งเท้าได้ด้วย ใส่ตอนแรกรู้สึกเลยว่าตรงที่รองอุ้งเท้าแน่นกระชับสบายดี ผมว่าทรงอุ้งเท้ามันเหมาะสำหรับคนที่มีทรงเท้าแบบปรกติ อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนเท้าแบนสักเท่าไร

พื้นรองเท้าเป็นคาร์บอน แข็งแรง สามารถอบให้เข้ากับเท้าเราได้ แต่ว่าแนะนำให้ใส่สักเดือนนึงแล้วค่อยเอามาอบ

การใช้งาน

ลองใส่ครั้งแรกก็รู้สึกกระชับดี สบายฝ่าเท้ามาก (ผู้เขียนใส่ปั่นไปแล้ว 3 – 4 ครั้ง) แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรูปทรงเท้าของแต่ละคนด้วย สำหรับรองเท้า Shimano จะมีให้เลือกทั้งแบบเท้าแคบและเท้ากว้าง ผมใช้คลีท Shimano สีเหลืองซึ่งสามารถขยับได้ 6 องศา เป็นรุ่นที่ขยับได้มากสุด ความรู้สึกในการปั่น กระชับดีกว่าคู่เก่าที่หน้ากว้างเกินรูปเท้าผมนิดนึง

แต่……… ปัญหาเกิดครับ!!! อาการเท้าชามาอีกแล้ว หากปั่นทางตรงนานๆ หรือนั่งนานๆ แบบเส้นทางที่สนามบินสุวรรณภูมิก็จะเริ่มชา แต่หากปั่นที่เส้นทางที่มีทางเลี้ยวหรือได้พักฟรีขา ได้ขยับก้นอาการชาก็จะลดลงได้เยอะ ซึ่งก็น่าจะเกิดจากเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณปลายเท้าไม่พอทำให้เกิดอาการชาที่ปลายเท้าได้ครับ การนั่งและกดทับเป็นเวลานานก็คงมีผลด้วย หากมีการขยับหรือยกก้นขึ้นบ้างเป็นระยะอาการก็จะหายไปหรือเกิดช้า (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวครับบางท่านอาจจะแตกต่างออกไปตามสรีระ ท่วงท่าการปั่นและฟิตติ้งรองเท้า ส่วนตัวผมได้ทำ Bike Fitting แล้ว แต่อาการชายังคงอยู่ครับ คราวหน้าอาจจะลองเปลี่ยนเบาะดูครับ เผื่อจะช่วยได้เดี๋ยวจะมารีวิวให้ฟังกันอีกที)​

ความคุ้มค่า

ถ้าเทียบกับราคาผมว่าพอรับได้ ราคาเน็ตที่ซื้อมาเหลือเก้าพันปลายๆ แต่ก็ได้เป้นรุ่นท๊อปสุดของ Shimano น้ำหนักเบาและสามรถอบให้เข้ากับเท้าได้ ผมให้ 8 คะแนน ครับ หักไปสอง เพราะเรื่องของ Design และแก้ปัญหาเท้าชาผมไม่ได้ (อาจจะไม่เกี่ยวกับรองเท้า) คงไม่มีรองเท้าจักรยานที่สมบูรณ์แบบเพราะเท้าแต่ละคนไม่เหมือนกันรูปทรงเท้าก็ไม่เหมือนกัน ใช่ว่าเป็นตัวท๊อปหรือเป็นยี่ห้อหรูจะเข้ากับเท้าเรา หลายคนใส่รองเท้ารุ่นเริ่มต้นราคาไม่แพงสบายกว่ารองเท้ารุ่นท๊อปก็มีเยอะไป ถ้าในอนาคตวงการจักรยานอาจจะมีรองเท้าที่สั่งตัดตามเท้าได้ก็คงช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้เยอะ

สรุป

สำหรับผมรองเท้า Shimano R320 ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องเท้าชาอย่างที่หวังไว้แต่แรก แต่ก็สามารถช่วยให้ปั่นสบายเท้าได้ระดับนึง หากปั่นระยะยาวแล้วมีการขยับตัวบ่อยก็จะทำให้อาการเท้าชาหายไปได้บ้างคือเลือดมันเดินดีขึ้น มีรุ่นพี่ผมท่านนึงกล่าวว่าปั่นเสือหมอบต้องอดทน ขี่มันไปเรื่อยๆ แล้วอาการเจ็บชาต่างๆ มันจะหายไปเอง บางทีเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับรถและอุปกรณ์ด้วย คงจะหวังให้ซื้อของดีมาแล้วเข้ากับตัวเราได้ลงตัวเหมือนต่อเลโก้ก็คงไม่ได้เสมอไป

สำหรับรีวิวนี้ก็อาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่กำลังเลือกซื้อรองเท้านะครับ สิ่งสำคัญที่สุดในการซื้อรองเท้าคือต้องลองใส่เองครับ เอาให้พอใจแล้วค่อยตัดสินใจจ่ายเงินถึงจะได้รองเท้าเหมาะกับเราที่สุด ขอขอบคุณพื้นที่ของ DT ในการแชร์ประสปการณ์ของผมครั้งนี้ครับ คราวหน้าผมจะมารีวิวหมวก Giro Air Attack ให้ได้ชมกันครับ

8/10

หาซื้อได้ตามร้านที่จำหน่ายสินค้า Shimano ทั่วไป ราคาตั้ง 12,500

DT Note: รีวิวตัวนี้เป็นผลงานของคุณเอ็มเจ้าของ Canyon Ultimate CF SLX ที่ลง User’s Bike เราไปเมื่อเดือนที่แล้วครับ ต้องขอบคุณคุณเอ็มที่ส่งรีวิวมาแบ่งปั่นเพื่อนๆ ด้วยครับ!