วันนี้สมาคมจักรยานสิงคโปร์ (Singapore Cycling Federation) หรือ SCF ประกาศสองเป้าหมายสำคัญ นั่นคือการส่งนักปั่นชาวสิงคโปร์ลงแข่ง Tour de France และคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์จักรยานให้ได้ภายในปี 2030
เพื่อให้ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จทาง SCF ก็ได้จัดตั้งโครงการ ProCyclingSG ที่จะใช้สร้างนักปั่นสิงคโปร์ชุดใหม่ที่จะพัฒนาความสามารถไปยิ่งกว่าเดิม
โครงการนี้จะทำการคัดเลือกกลุ่มนักปั่นสิงคโปร์จากชุดทีมชาติ เพื่อเข้าฝึกการซ้อมพิเศษจาก GreenEdge Cycling – ทีมสตาฟฟ์และผู้บริหารทีม Mitchelton-Scott ในปัจจุบัน ซึ่งเคยมีผลงานในแกรนด์ทัวร์มากมายหลายรายการ ล่าสุดเป็นการคว้าแชมป์ Vuelta a Espana โดยไซมอน เยทส์ในปี 2018
ทาง SCF ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือกับ GreenEdge 5 ปีเต็ม ซึ่งทาง GreenEdge ก็จะช่วยเหลือ จัดหาโค้ช นักปั่นจากทีม Mitchelton-Scott ที่มากประสบการณ์มาช่วยฝึก แนะนำนักกีฬาสิงคโปร์โดยตรง
นอกจากนี้ทางทีม Mitchelton-Scott ก็อาจจะคัดเลือกนักปั่นสิงคโปร์บางคนเข้าไปร่วมทีมในระดับ stagiaire (นักปั่นทดลอง) ให้กับทีมในสนามโปรทัวร์ด้วย ที่สำคัญคือนักปั่นสิงคโปร์ชุดนี้ก็จะได้เข้าไปฝึกร่วมกับทีม Mitchelton-Scott ในยุโรปในสภาพการฝึกซ้อมเดียวกัน
ทาง SCF มีเป้าหมายระยะสั้นคือสร้างทีมนักปั่นสิงคโปร์จำนวน 11 คน ที่ประกอบด้วย
- นักปั่นอาชีพแบบ full time 2 คน
- นักปั่นอาชีพจากทีมอื่นที่มาร่วมแข่ง 2 คน
- นักปั่นกึ่งอาชีพ 4 คน (part time)
- นักปั่นเยาวชนที่เพิ่งเริ่มต้นปั่นจักรยานแข่งขัน 3 คน
นักปั่น full time ของทีมจะซ้อมอย่างน้อย 25-30 ชั่วโมงในทุกๆ สัปดาห์ และต้องเข้าแข่งจักรยานอย่างน้อย 12 สนาม และเข้าค่ายเก็บตัวซ้อมอย่างน้อย 4 ค่ายตลอดหนึ่งปี
นักปั่น full time จะได้รับเงินเดือน และทาง SCF จะออกค่าใช้จ่ายในการไปฝึกซ้อมและแข่งขันให้ทั้งหมด
- ภายในปี 2023 ProCyclingSG ตั้งเป้าจะสร้างทีมระดับ UCI Continental (ดิวิชัน 3)
- ภายในปี 2026 มีเป้าคว้าอันดับโพเดียมในศึกจักรยานทางไกล (Road Race) ในสนาม Asian Games
- ภายในปี 2030 ทีมจะต้องชนะเหรียญทอง Asian Games ให้ได้ และต้องมีนักปั่นที่ได้ร่วมลงแข่ง Tour de France ให้ได้ในปีเดียวกัน
ก็ดูเป็นแผนการที่น่าสนใจทีเดียว การที่ทีมจากเอเชียจะสร้างนักกีฬาและทีมจักรยานที่สามารถแข่งขันในระดับโปรทัวร์คู่กับนักแข่งจากยุโรปได้เป็นเรื่องท้าทายพอสมควร จากที่ทางเอเชียไม่ได้มีสนามแข่งระดับสูงให้นักกีฬาได้เข้าร่วม และยังขาดองค์ความรู้ในการแข่งระดับโปรทัวร์ แต่การได้รับความช่วยเหลือจาก GreenEdge Cycling ก็น่าจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ทั้งหมด
และทางสิงคโปร์เองก็จัดให้การพัฒนานักปั่นเป็นโครงการระยะยาว มีการสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐและมีเงินทุนช่วยเหลือ โดยมีเป้าหมายระหว่างทางที่ดูมีความเป็นไปได้ ก็น่าสนใจว่าภายใน 10 ปีนี้ทางสิงคโปร์จะพัฒนาได้ถึงขั้นไหน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของวงการจักรยานเอเชียครับ
ที่มา/ ภาพ: Singapore Cycling Federation