ไปสัมภาษณ์คนน่าสนใจทั้งทีมีหรือที่ DT จะพลาดไม่เก็บรูปเสือหมอบสวยๆ ของแขกรับเชิญ เชื่อว่าเสือหมอบรุ่นนี้ BMC SLR01 คงเป็นคันที่ผู้อ่าน DT ชินตากันพอสมควรครับ เพราะบ้านเราก็มีคนใช้เยอะทีเดียว มาดูกันดีกว่าว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร
แน่นอนว่า BMC รุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวกับที่โปรทีม BMC ควบทั้ง Philippe Gilbert, Thor Hushovd และ Cadel Evans – เป็นเฟรมสไตล์ tradtitional เน้นความเบาและสบายต่างกับตระกูล TMR ที่เป็นเสือหมอบแอโรเน้นความลู่ลมเป็นหลักถึงแม้ BMC จะออกรุ่นใหม่ปี 2014 มาหยกๆ ที่ทั้งเบากว่าเดิมและสติฟกว่าเดิม (และแพงกว่าเดิม) แต่ดีไซน์หลักๆ ก็ยังคงความคลาสสิคสไตล์ BMC ไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปมาก
Q: สเป็ค BMC คันนี้เป็นยังไงครับ
A: เฟรม BMC SLR01 2013 ไซส์ 54 ชุดเกียร์ Shimano Ultegra Di2 ชุดจาน Rotor Q-Rings ใบแอโร ล้อ Nich ATEM ขอบอ้วนยางงัดสูง 40mm และ ATEM 56 ยางฮาฟเอาไว้แข่งครับ ยาง Continental 4000s สเต็ม PRO แฮนด์ Syntace Anatomic
Q: ตอนนี้อยากจะเปลี่ยนหรือเพิ่มอะไรมั้ยครับ?
A: ก็มองไปถึงชุดขับ Shimano Dura-Ace นะ แต่มันยากเพราะเฟรมตัวนี้มันเป็น Di2 รองรับแต่เกียร์ไฟฟ้า ((เฟรม SLR 2014 จะรองรับทั้ง mechanical และ electronic แต่ ปี 2013 เราต้องเลือกว่าจะเอาแบบไหน)) ก็อาจจะต้องขยับไปเป็น Dura-Ace Di2 แต่มันก็จะแพงไป ที่เปลี่ยนอยากเป็นแฮนด์หรือเบาะพวกนี้มากกว่า เพราะอยากลองครับ พวกอุปกรณ์ contact point ผมอยากจะลองให้ครบทุกยี่ห้อเลย เพราะคิดว่ามันน่าจะช่วยเราได้ดีครับ ถ้าวันนึงได้เจอเบาะที่มันนั่งแล้วไม่เจ็บเลยอะไรแบบนี้ก็คงจะดี
Q. ตอนนี้แฮปปี้กับรถดีมั้ยครับ?
A: ก็ชอบนะครับ ส่วนตัวเลยเทียบกับ Neilpryde Alize ที่เคยใช้ตัวนั้นมันจะกระด้างมาก กดแล้วไปเลย แต่ BMC จะไม่ใช่ทำนองนั้น แต่มันขี่สบายกว่า ไม่ใช่ไม่พุ่งนะ ชอบการยืนระยะไปได้ไกลๆ ของ BMC ที่ขี่แล้วไม่เมื่อยครับ ถ้าจะซื้อเฟรมใหม่ก็ไม่อยากให้แพงเกินแสนบาท มันก็จะเกินตัวเราไป
Q: อยากจะลองปั่นรถ Time Trial มั้ยครับ?
A: เป็นความคิดที่อาจจะไกลสักหน่อย แต่ก็อยากนะ ผมว่าตัวผมอาจจะยังไม่พร้อมเพราะการขี่รถ TT มันก็ทรมานร่างกายใช้ได้เลย ล่าสุดไปงาน A Day Bike Fest ก็ได้ฟังที่พี่ตั้ม Velocity เขาพูดถึงการฟิตติ้งรถ TT สั้นๆ คือ จะฟิตติ้งยังไงก็ได้ให้คนปั่นทำความเร็วออกมาได้มากที่สุด ถึงเส้นชัยแล้วตายช่างมัน! ช่าง BMC คุณ Ronald ก็บอกว่าการปั่น TT คือการทำร้ายตัวเองมากเลยนะ ก็เลยคิดว่าไม่พร้อม แต่มันก็คงท้าทายดีครับ
Q: ถ้างบไม่จำกัด มีจักรยานในฝันที่อยากจะขี่มั้ยครับ?
A: (เงียบ….) ถามยังงี้แล้วคิดยากเลยเพราะอยากลองเยอะมาก! แต่เคสแบบนี้ผมมองสองแบบนะ ถ้าเป็นเสือหมอบสายแข่งคาร์บอน ผมสนใจตัว BMC Impec พวกนี้ความแพงของมันนี่ดียังไง แต่อีกแบบหนึ่งก็คือจักรยานโครโมลี (ที่ไม่ใช่วินเทจ) ที่เป็นรถคัสตอมสั่งตัด ดูคลิปพวกวิดีโอของ Rapha เห็นใช้กันแต่รถโครโมลี มันคงน่าจะขี่สนุกดีนะ แบบอยากลองปั่นกรุงเทพ-เชียงใหม่ ไปกลับ ขี่รถโครโมลีดีๆ คงสบายน่าดู
Q: ประสบการณ์ที่ประทับใจที่สุดบน BMC คันนี้?
A: น่าจะเป็นตอนที่ผมสามารถปั่นได้ครบ 100 กิโลเมตรคนเดียว ที่ผ่านมาเคยปั่นได้ 100 กิโลนะ แต่ไปกับกลุ่มใหญ่คือมีพักหรือผลัดกันบังลม แต่อันนี้คือปั่นคนเดียวไม่จอดเลย 100 กิโลเมตร จากบ้านแถวบางนาไปสุวรรณภูมิแต่ก็ลัดเลาะอ้อมไปเรื่อย แล้วก็วนในสนามบินแล้วกลับบ้าน อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับหลายๆ คนนะครับ แต่ผมก็ภูมิใจ
ผมว่าจริงๆ แล้วมันก็อยู่ที่เราว่าจะปั่นได้ขนาดไหน บางคนมองว่าเฮ้ยคุณใช้ของแพง ของดีนี่หว่าเลยทำได้ แต่มันไม่ใช่หรอก มันคือตัวคุณเองนั่นแหละ เพราะบนจักรยานเราเป็นคนควบคุมทุกอย่างเองครับ.
ข้อมูลน่าสนใจมากครับ