อเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar) กลายเป็นนักปั่นคนแรกของโลกที่คว้าแชมป์รายการ La Fleche Wallonne ได้ถึง 4 สมัย พิชิตยอดเนินชัน Mur de Huy เส้นชัยของรายการได้เป็นคนแรก แซงหน้าแดน มาร์ติน และจูเลียน อลาฟิลลิป สองนักปั่นตัวเต็งจาก Etixx-Quickstep นำห่างเกือบช่วงตัว
นอกจากจะเป็นแชมป์สมัยที่ 4 แล้วยังเป็นแชมป์รายการ 3 ปีติดต่อกันตั้งแต่ 2014-2016 นอกจากกัปตันทีมจะแกร่งกว่าใครแล้ว ลูกทีม Movistar ยังเดินเกมรุกหนักตลอดการแข่งขัน คุมระยะห่างเบรคอเวย์ให้อยู่ในะระยะรวบได้ตลอดเส้นทาง 196 กิโลเมตร
หลายทีมพยายามฉีกหนีการควบคุมของ Movistar หวังชนะเดี่ยวก่อนหน้ากลุ่มเปโลตองขึ้นเนินลูกสุดท้าย ทิม เวลเลนส์ (Lotto-Soudal) เบรคอเวย์ที่ 5 กิโลเมตรสุดท้าย แต่ Movistar ไม่ปล่อยห่าง รวบจับได้ในที่สุด
ขึ้นเนิน Mur de Huy ที่ 1000 เมตรหน้าเส้นชัย แดน มาร์ติน (Etixx-Quickstep) พยายามแหวกขึ้นนำกลุ่มและเปิดเกมกระชากทิ้งตัวเต็งเป็นคนแรก วาวเวอเด้ออกตัวที่ 400 เมตรสุดท้าย และมีอลาฟิลลิป (Etixx-Quickstep) ตามประกบ แต่แชมป์เก่าขึ้นแซงได้อย่างไม่ยากเย็นและเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกเหลือเวลาฉลองชัยชนะสบายๆ
มาร์ติน: “ผมรู้ว่าถ้าผมจะชนะวาวเวอเด้ได้ ผมต้องออกตัวในช่วง 250 เมตรสุดท้าย ผมคิดว่าปีนี้ผมปั่นดีกว่าปีก่อนมาก ปีก่อนๆ ผมต้องแหวกกลุ่มมาจากข้างหลังตลอด แต่ครั้งนี้ผมขึ้นมาหน้ากลุ่มได้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ แต่สงสัยจะยังแข็งแรงไม่พอ หมดแรงก่อนที่ 100 เมตรสุดท้าย แต่ผมก็พยายามจะชนะ ผมมาแข่งวันนี้เชื่อว่าตัวเองต้องชนะครับ”
วาวเวอเด้: “ทีมเราปั่นดีมากครับวันนี้ ดีจริงๆ เราามัคคีเดินเกมกันได้สมบูรณ์แบบตั้งแต่เริ่มจนจบ ทุกคนปั่นเต็มที่และตามปิดระยะห่างที่อันตรายทุกครั้งไม่มีพลาด ทำให้ผมวางใจไม่ต้องเครียดได้ตลอดการแข่งขัน ก่อนจะขึ้นเนิน Mur de Huy รอบสุดท้าย มันเหมือนเกมลองใจกัน โรดริเกรซ (Katusha) ออกยิงก่อน และมาร์ติน (Etixx) ตามไปติดๆ ผมรู้สึกว่าแรงยังดีเลยตามประกบ และผลมันก็ออกมาดีครับ”
DT Comment
- วาเวอเด้ฟอร์มดีมาตลอดในเดือนนี้ เพิ่งจะคว้าแชมป์สเตจเรซ 3 วันเมื่อสัปดาห์ก่อนพร้อมได้แชมป์อีกสองสเตจ ในสภาพเส้นทางที่คล้ายๆ Flehe Wallonne ถ้าจะมีอะไรที่เขาเหนือกว่าคนอื่น ไม่ใช่เพราะแรงอย่างเดียว แต่เป็นความใจเย็นและประสบการณ์ที่กล้าจะรอให้คู่แข่งยิงหนีก่อนแล้วกะรวบทีเดียวแบบเอาอยู่ ไม่ต้องกลัวหมดพลังก่อนถึงเส้นชัย (เหมือนมาร์ติน)
- แน่นอนจะทำอย่างนี้ได้ไม่ง่ายครับ เพราะการจะขึ้นมาอยู่หน้ากลุ่มพร้อมออกลุยหรือตามคู่แข่งได้ต้องแกร่งพอและมีทีมซัพพอร์ทที่ดี
- Etixx ทำดีที่สุดแล้ว แผนคือถ้ามาร์ตินร่วงก็พร้อมให้อลาฟิลลิป Counter วาวเวอเด้ แต่แน่นอน เอซ Movistar ยังแกร่งเกินไป อย่างน้อย EQS ก็รวบโพเดี้ยมคู่ก็คงทำได้ดีที่สุดแค่นี้
- วาวเวอเด้กับ Fleche Wallonne เหมือนเกิดมาคู่กัน ไม่มีทีมไหนตัดแรง Movistar ได้เลยในช่วงสุดท้าย และเส้นทางก็ไม่เอื้อให้เบรคอเวย์รอด เป็นทางตรงเกือบทั้งรายการแล้วไปจบบนยอดเขาก็ง่ายที่จะคุมเกมด้วย
- แชมป์ครั้งนี้ของวาวเวอเด้น่าจะบ่งบอกถึงฟอร์มที่พร้อมลง Liege วันอาทิตย์นี้และน่าจะดีสำหรับการเดบิวต์ลงสนาม Giro d’Italia เป็นครั้งแรกของเขาในเดือนหน้าด้วยครับ