ทีม BMC ยังคงโชว์ความเป็นหนึ่งในศาสตร์การปั่นจับเวลาทีม (Team Time Trial) ด้วยการคว้าแชมป์สเตจแรกสนาม Vuelta a Espana เคลียร์เส้นทาง 7.4 กิโลเมตรด้วยเวลา 8:10 นาที คิดเป็นความเร็วเฉลี่ย 54.367 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะที่ทีมตัวเต็งอีกหลายๆ ทีมเลือกเพลย์เซฟ ไม่ทำความเร็วเต็มที่ไม่เสี่ยงล้มบนเส้นทางอันตราย
หลังจากที่มีนักปั่นและทีมแข่งหลายๆ ทีมประท้วงเรื่องเส้นทางการแข่ง ผู้จัดจึงไม่นับอันดับเวลารวมจากสเตจแรก ทำให้บางทีมเลือกที่จะไม่แข่งเต็มที่เพราะไม่มีการชิงเวลารวมในสเตจนี้
GreenEdge และ Tinkoff-Saxo เปิดเกมรุกเต็มที่ แต่ก็ยังช้ากว่า BMC 1 วินาที Lotto-NL Jumbo คว้าอันดับ 4 ตามหลัง +8 วินาที และ Etixx-Quickstep อดีตทีมแชมป์โลก Team Time Trial พ่ายให้ BMC ไป 10 วินาที
ส่วนทีม Big 4 อย่าง Movistar, Astana และ Sky เลือกเพลย์เซฟ ไม่เสี่ยงให้เอซทีมล้ม Movistar จบการแข่งขันด้วยอันดับ 9 (+24 วินาที), Astana อันดับ 13 (+30 วินาที) และ Sky อันดับ 20 รองสุดท้าย (+1:09 นาที)
ปีเตอร์ เวลิทส์จาก BMC จะเป็นนักปั่นคนแรกที่ได้สวมเสื้อผู้นำเวลารวม จากที่เขาเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก แต่เนื่องจากสเตจนี้ไม่นับเวลา GC การชิงเสื้อผู้นำที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นในสเตจ 2 เท่านั้น
ในฐานะทีมแชมป์โลก Team Time Trial, ทีเจย์ แวนการ์เดอเรน กัปตันทีม BMC กล่าวว่า “เรามีความรับผิดชอบในฐานะแชมป์โลก ที่ต้องปั่นให้เต็มที่ กลยุทธ์เราสมบูรณ์แบบครับ เรารู้ดีว่าเส้นทางแคบๆ สั้นๆ แบบนี้เราหมุนเปลี่ยนหัวลากได้ไม่บ่อย เราเลยเลือกแค่ 5 คนที่เร็วที่สุดในทีมเป็นคนทำเวลา คนที่เหลือให้เริ่มลากคนละกิโลเมตร แล้ว 5 คนสุดท้ายซัดเต็มที่จนถึงเส้นชัย ผมดีใจมากครับ และดีใจที่เวลิทส์จะได้ใส่เสื้อผู้นำ”
ขณะเดียวกันทีม Sky ให้สัมภาษณ์ว่าทีมเลือกจะไม่เสี่ยง เกอเรนท์ โทมัส ซุปเปอร์ โดเมสติกของทีมกล่าว “แผนของเราคือปั่นให้ปลอดภัยที่สุด มันแย่ครับที่เราจะต้องมาแข่งในเส้นทางที่เสี่ยงแบบนี้ ไม่มีทีมไหนอยากปั่นช้าหรอก แต่ผู้จัดไม่ควรทำสเตจอันตรายแล้วมายกเลิกการแข่งชิงเวลากันแบบนี้ เราเลยเลือกปั่นช้าดีกว่าครับ”
ผลการแข่งขัน
วิดีโอไฮไลท์