ใครจะเป็นผู้ชนะ 2014 Vuelta a Espana?

เกริ่นกันไปหลายครั้งแล้วว่าสนามแกรนด์ทัวร์แห่งสเปนครั้งนี้รวมดาวนักปั่นระดับ VIP มากกว่ารายการอื่นๆ ตลอดทั้งปีทำให้น่าจะเป็นสนามแข่งที่ดุเดือดที่สุดก็ว่าได้ครับ แต่ฉันใดก็ฉันนั้นในหมู่โฉมงามย่อมมีความสวยระดับนางฟ้าไม่กี่คน วันนี้เราจะมาดูกันว่านักปั่นชื่อดังคนไหนฟอร์มดี มีลุ้นคว้าแชมป์ที่สุดกัน

ก่อนจะเข้าเรื่องก็ต้องบอกก่อนว่าเส้นทางปีนี้หลากหลายใช้ได้ทีเดียว แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Tour of Spain ไว้ไม่เปลี่ยนแปลงกับสเตจที่มีเส้นชัยบนยอดเนินและเขามากกว่า 9 สเตจ แถมบางลูกนั้นก็ชันระดับเลข 2 หลัก 10-24% และที่เส้นชัยทุกๆ วันนั้นยังมี Time Bonus ให้ผู้ชนะ การันตีว่านักปั่นที่มีแรงฮึดยอมถีบระเบิดพลังเฮือกสุดท้ายเพื่อคว้าแชมป์สเตจจะได้รางวัลกลับบ้านมากกว่าแค่รอยจูบจากสาวโพเดี้ยม และเจ้า Time Bonus ตัวนี้อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญในการพลิกแชมป์รายการเลยทีเดียว

1. Nairo Quintana (Movistar)

ไม่ต้องมองหาใครไกลกับโปรไฟล์ภูเขามากขนาดนี้ต้องเหมาะกับคนนี้แน่นอน ไนโร คินทานา แชมป์จิโรคนปัจจุบันจาก Movistar ที่คว้าแชมป์รายการถึงแม้จะป่วยในช่วงแรกของการแข่งขันกว่าครึ่งหนึ่ง ล่าสุดเพิ่งจะชนะรายการ Vuelta a Burgos โชว์ฟอร์มการไต่เขาแถมยังทำผลงานสเตจ Time Trial ได้เป็นอันดับสอง และยังไม่มีอาการเหนื่อยล้าจากการลงแข่งตูร์ เดอ ฟรองซ์เหมือนคู่แข่งคนอื่นๆ DT ยกให้คนนี้เป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งแน่นอน

Sidekick: Alejandro Valverde
Movistar ไม่ได้ส่งเอซมาคนเดียว แต่มาถึงสองคนนั่นก็คืออเลฮานโดร วาวเวอเด้ที่ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไรในตูร์ เดอ ฟรองซ์ มาลงสนามบ้านเกิดครั้งนี้เหมือนเป็นแผนสำรองของทีมมากกว่า ล่าสุดเขาครองเสื้อผู้นำเวลารวมจากการทำเวลาได้ดีในสเตจ 2 ปัญหาของวาวเวอเด้คือเขาอาจจะล้าเกินในช่วงสัปดาห์สุดท้ายและไต่เขาคงไม่สู้คินทานา อย่างไรก็ดีอาวุธลับของวาวเวอเด้คือการระเบิดขึ้นเนินและเขาสั้นๆ ทีทำให้เขาได้ Time Bonus มากกว่าคนอื่นๆ เสมอ และเป็นตัวแปรที่ทำให้เขาได้แชมป์ Vuelta มาแล้วหนึ่งสมัยในปี ก็จะเป็นคนที่ประมาทไม่ได้เหมือนกัน

2. Christopher Froome (Sky)

วูเอลต้าเป็นสนามที่เปลี่ยนชีวิตฟรูม เพราะในปี 2011 ที่เขาคว้าอันดับสองนั้นทีม Sky เกือบจะไม่จ้างเขาต่อเพราะไม่มีผลงานเลยตั้งแต่เข้าทีมมา ฟรูมบาดเจ็บกระดูกข้อมือร้าวจากตูร์ เดอ ฟรองซ์และยังไม่ได้ลงแข่งสนามไหนๆ เลยก่อนวูเอลต้า รักษาตัวและฝึกซ้อมอย่างเดียว ถ้าฟอร์มมา เพราะยังไม่ได้ล้าจากตูร์ก็จะเป็นหนึ่งในนักปั่นที่น่ากลัวที่สุดในรายการครับ ดีกรีการไต่เขาของฟรูมนั้นชัดเจนว่าไม่แพ้คินทานา หรือดีกว่าด้วยซ้ำในตูร์ 2013 ที่เขาได้แชมป์ และยังได้เปรียบเรื่องการปั่น Time Trial อีกกว่า 40 กิโลเมตร (ระยะทางรวม) ซึ่งฟรูมมีภาษีดีที่สุดในบรรดาตัวเต็งทุกคน ปัญหาเดียวของฟรูมคือลูกทีมที่อาจจะไม่แกร่งและเริ่มล้าจากการแข่งตลอดทั้งปีโดยเฉพาะมิเคล เนียเว และวาซิลิ คิริเยนกาที่ลงตูร์จนจบ ริชีย์ พอร์ทคู่หูไม่ได้มาลงด้วย คนที่พึ่งได้ในสเตจภูเขาคงเป็นพีท เคนย์นอทและเนียเว

3. Joaquim Rodriguez (Katusha)

ไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีที่สุดสำหรับ “เพียวริโต้” เพราะป่วยจนไม่ได้ลงจิโร และในตูร์ก็เสียเสื้อจ้าวภูเขา ฟอร์มตกกว่าปีที่แล้วที่เขาคว้าอันดับ 3 อย่างเห็นได้ชัด เพราะงั้นวูเอลต้าเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับนักไต่เขาชาวสเปนคนนี้ ปัญหาคืออายุไม่น้อยกับวัยเกือบจะ 30 กลางๆ แถมยังเจอคู่แข่งที่โหดที่สุดในรอบปีเสียด้วย เป็นคนที่น่าจับตามอง แต่คงไม่อาจยกให้เป็นตัวเต็งเบอร์ต้นๆ ได้ครับ โรดริเกรซมีแดนนี โมเรโน คู่หูนักไต่เขาสไตล์เดียวกันมาเป็นแบ๊คอัปและกำลังฟอร์มดีทีเดียว

4. Rigoberto Uran (OPQS)

ที่ 2 จิโรปีนี้ และล่าสุดที่ 4 สเตจ TT ในรายการ Tour de’lAin OPQS ไม่ได้ส่งผู้ช่วยอูรานมามากเท่าไร เป็นชุดเดียวกับที่ลงจิโรเมื่อต้นปี แต่อูรานเองก็ปั่นสไตล์ไร้ผู้ช่วยมานานตั้งแต่ไหนแต่ไรเพราะเป็นไม้รองให้กับทีม Sky มาตลอด อาจจะไม่แกร่งระดับแชมป์รายการแต่ถ้าติดโพเดี้ยมรับรองว่าเชียร์ขึ้น จุดอ่อนอาจจะยังเป็นสเตจ TT ที่คู่แข่งระดับฟรูมน่าจะกินได้เป็นนาทีครับ

5. Alberto Contador (Tinkoff-Saxo)

อาการกระดูกสะบ้าร้าวจากตูร์ เดอ ฟรองซ์ไม่ใช่บาดแผลที่จะหาย 100% ได้ในเวลาไม่ถึง 5 สัปดาห์ แต่คอนทาดอร์กับจิตใจนักสู้ตลอดกาลของเขาก็พาแชมป์แกรนด์ทัวร์ระดับพระกาฬคนนี้มาลงสนามบ้านเกิดอีกครั้ง คอนทาดอร์บอกว่าอยากได้แชมป์สเตจในสัปดาห์สุดท้ายที่ภูเขาเยอะๆ แต่เดี๋ยวเราก็รู้ว่าเขาหลอกบลัฟหรือยังเจ็บไม่หายจริงๆ

6. Chris Horner: แชมป์เก่าของเราไม่สบายและทีมสั่งไม่ให้ลงแข่ง ก็คงไม่ได้เห็น “ลุง” ป้องกันแชมป์ในสไตล์เนิบๆ เนียนๆ ของแกเป็นที่น่าเสียดายครับ

Criterium Dauphine Libere 2014 stage -8

7. Andrew Talansky (Garmin)

อีกหนึ่งคนที่ต้องการจะล้างตาหลังจากที่ล้มบาดเจ็บจนต้องถอนตัวอย่างน่าเสียดายในตูร์ เดอ ฟรองซ์ปีนี้ แต่เป็นตัวเต็งที่ผมว่าเรายังไม่เห็นฟอร์มชัดเจนเท่าไร ตั้งแต่ได้แชมป์ Criterium du Dauphine เขาก็เงียบไปเลย อย่างไรก็ดี Garmin ไม่ได้ปล่อยทาลานสกีมาคนเดียว ทีม “จัดเต็ม”​ ขนมาทั้งแดน มาร์ติน และไรเดอร์ เฮซเชดาลที่น่าจะช่วยทำเกมสับขาหลอกคู่แข่งหรือกระทั่งคว้าเสตจวิน ทั้งคู่ก็ฟอร์มกำลังดีทีเดียวหลังจากที่เก็บตัวซ้อมเตรียมลงแข่งสนามชิงแชมป์โลกหลังจบรายการนี้

8. Wilco Kelderman (Belkin)

ดาวรุ่งอีกหนึ่งคนที่ฟอร์มกำลังดีแบบหาตัวจับยากด้วยผลงานอันดับ 7 ในจิโรปีนี้ที่เป็นแกรนด์ทัวร์ครั้งที่สองของเขาเท่านั้น แต่เห็นได้ชัดว่ายังขาดประสบการณ์เพราะเป็นคนที่ออกยิงคู่แข่งเยอะที่สุดในรายการแต่จังหวะและรูปเกมที่เขาพยายามชงนั้นยังไม่ค่อยจะสมบูรณ์สักเท่าไร เคลเดอร์แมนน่าจะเล็ง Top 10 แต่ก็มีลุ้น Top 5 เหมือนกัน อาจจะไม่ใช่ระดับคินทานาแต่คิดว่าคงไม่เสียเวลาให้คู่แข่งในเลเวลเดียวกับเขามากครับ ปั่น TT ได้ดีซะด้วย ล่าสุดทำได้ถึงอันดับ 5 ใน Tour of Utah และมาคราวนี้มีนักไต่เขาฝีเท้าดีอย่าง โรเบิร์ท เฮซิงค์และลอเรนส์ เทน แดมมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ

9. Cadel Evans (BMC)

เอวานส์ประกาศว่าเขาไม่ได้ลงแข่งในฐานะหัวหน้าทีม (ซึ่งเป็นหน้าที่ของซามูเอล แซนเชซ) แต่กับผบงานสองแชมป์สเตจใน Tour of Utah และประสบการณ์การแข่งบวกกับกลยุทธ์ระดับพระกาฬ ทีมอื่นต้องคอยระวัง “น้า” คาเดลให้ดีทีเดียว คาเดลอาจจะรีไทร์ในฤดูกาลหน้าเพราะฉะนั้นสนามนี้เขาอาจจะส่งท้ายด้วยการคว้าแชมป์สเตจวินก็เป็นได้

10. Warren Baguil (Giant-Shimano)

เจ้าของผลงาน 2 แชมป์สเตจจากจิโรปีที่แล้ว วาร์เรน บากิลคือนักปั่นสไตล์ GC เพียงคนเดียวของ Giant-Shimano เป็นคนที่กล้าได้กล้าเสียและพร้อมจะโจมตีคู่แข่งตลอดเวลา หลังจากวูเอลต้าปีที่แล้วผลงานเขาก็เงียบๆ ไป ปีนี้คงได้เห็นกันว่าชัยชนะของเขาในปีก่อนจะเป็นแค่ “โชค” หรือเปล่า

11. Fabio Aru (Astana)

ดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดในจิโรปีนี้ อารูเดินเกมเดียวกับคินทานาและอเรดอนโดที่พักยาวหลังจากแข่งจิโรเสร็จ อารูไต่เขาได้ไม่แพ้คู่แข่ง (แต่ไม่ใช่ทุกวัน) ยังขาดประสบการณ์และแทคติคเล็กน้อยแต่พรสวรรค์นั้นมีแน่ๆ ปัญหาคือดูเหมือนฟอร์มจะไม่เต็มที่เท่าไรหลังได้อันดับ 64 ใน Tour of Poland ก็ต้องดูกันว่าจะเป็นยังไงครับกับหนุ่มซิซิเลียนคนนี้

นอกจาก Top 10 ที่กล่าวถึงแล้วยังมีอีกหลายคนที่น่าจับตามองครับ นักปั่นกลุ่มนี้ไม่ได้หวังแชมป์รายการแต่อย่างน้อยๆ ขออันดับ Top 10 ก็ยังดี จับตามองทีบอท์ พินอท์ (FDJ), คาร์ลอส เบทันเคอร์ (AG2R), เยอร์เกน แวนเดน โบรก (Lotto) เอสเตบาน ซาเชซ​ และอดัม เยทส์ (OGE) ปิดท้ายด้วยไฮมาร์ ซูเบลเดียจาก Trek Factory Racing

 

สปรินเตอร์

เส้นทางในปีนี้มีสเตจทางราบแบบจริงๆ ไม่มีลูกเล่นอย่างเนินดักคอที่กิโลเมตรสุดท้ายหรือเส้นชัยบนเนินแค่ 4 สเตจ เท่านั้นเทียบกับ 9 สเตจในตูร์ เดอ ฟรองซ์ทำให้สปรินเตอร์ชื่อดังหลายๆ คนไม่มาลง อย่างไรก็ดียังมีอีกหลายคนที่คอยจะปิดท้ายสเตจทางราบให้เราดูแบบสนุกๆ ครับ

เนเซอร์ บูฮานี (FDJ) คว้าชัยไปแล้วหนึ่งสเตจและมีโอกาสที่จะได้อีกหลายเสตจเพราะว่ากันตามหน่วยก้านเขาเป็นเพียวสปรินเตอร์ที่เร็วที่สุดในรายการ เป็นเจ้าของเสื้อจ้าวความเร็วในจิโร และมากับทีมลีดเอาท์ที่ค่อนข้างพร้อม ถ้าไม่ใช่ทางสปรินต์ขึ้นเนินชันๆ ก็น่าจะหาตัวจับยากพอสมควร

PIC349896492

รองลงมาเรามีปีเตอร์ ซากาน (Cannondale), จอห์น เดเกนโคลบ์ (Giant), ไมเคิล แมธธิวส์ (OGE), โมเรโน ฮอฟแลนด์ (Belkin), เจอรัลด์ ซิโอเลค (MTN) และฟิลลิป จิลแบร์ (BMC) ที่สามารถเล่นเกมรุกในสเตจสปรินต์บนเนินได้ดีกว่าใคร คู่ที่น่าสนใจคือซากานปะทะแมธธิวส์ เพราะเป็นนักปั่นสไตล์เดียวกันเลย ปัญหาคือซากานดูจะกรอบๆ ไปแล้วเพราะแข่งมาตลอดทั้งปีแทบไม่ได้พัก

ที่เหลือก็ยังมีขาแรงจากทีมอื่นที่อาจจะไม่ท๊อปฟอร์มเหมือนนักปั่นข้างต้น แต่ลองดู ทอม โบเนน (OPQS), ยูเฮนี ฮูทาโรวิช (AG2R), แอนเดรีย กอร์ดีนี (Astana), โรเบอร์โต เฟอร์รารี (Lampre), ฟาบิโอ เฟลลิน (Trek) และแดนิเอลลี เบนาตตี (Tinkoff)

DT แจกดาว

แชมป์รายการ (GC)
☠☠☠☠☠   – Nairo Quintana
 – Chris Froome
 – Joquim Rodriguez, Alejandro Valverde, Rigoberto Uran, Fabio Aru
 – Julien Aredondo, Alberto Contador, Dani Moreno, Samuel Sanchez, Andrew Talansky

สปรินเตอร์ (จ้าวความเร็ว)
 – Nacer Bouhani
 – John Degenkolb
 – Michale Matthews, Moreno Hofland
 – Roberto Ferrari, Tom Boonen, Andrea Guaradini

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *