The Inside Line: การเดิมพันของคินทานา

ใน The Inside Line หลายเดือนที่ผ่านมาเราพูดถึงธุรกิจวงการจักรยานถนนและจักรยานอาชีพมาพอสมควรแล้ว สัปดาห์นี้อยากกลับมาที่เรื่องการแข่งขันกันสักหน่อยครับ เพราะช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจทีเดียว

ฤดูกาลแข่งขันปี 2017 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาและล่าสุดไนโร คินทานากัปตันทีมสนามแกรนด์ทัวร์ของทีม Movistar ก็เริ่มโชว์ผลงานโดดเด่นกันตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียวด้วยการคว้าแชมป์สนาม Volta a Valenciana ในสเปน (วิดีโอข้างล่างคือสเตจที่เขาได้แชมป์) พร้อมประกาศว่าปีนี้เขาอยากจะลงทั้งสนาม Giro d’Italia และ Tour de France หรือสองแกรนด์ทัวร์แรกของปี

ที่ผ่านมาคินทานา คว้าแชมป์ Giro d’Italia มาแล้วหนึ่งครั้ง และ Vuelta a Espana มาแล้วอีกหนึ่งครั้ง และปัจจุบันเขาอายุเพียง 27 ปีเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นตัวเต็งสนามแกรนด์ทัวร์ที่ผลงานดีที่สุดและอายุน้อยที่สุดในยุคนี้ก็ว่าได้

ถึงเขาจะยังไม่ได้แชมป์ Tour de France แต่ถ้าเราดูสถิติการแข่งขันของเขาตั้งแต่ปีที่แล้วดีๆ อาจจะเห็นว่าเขาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดคนหนึ่งในเปโลตองตอนนี้ครับ ข้อมูลจากเว็บไซต์ Procyclingstats ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2016 คินทานาได้ยืนบนโพเดี้ยมหรือได้แชมป์ทุกสเตจเรซ (สนามแข่งแบบหลายวันต่อกัน)​ ที่เขาลงแข่งขัน หรือพูดง่ายๆ ไม่เคยได้ต่ำกว่าอันดับสามในทุกรายการที่เขาเลือกแข่ง สนาม Valenciana นี้เป็นแชมป์สเตจเรซครั้งที่ 13 ของเขา

ปราศจากข้อสงสัยว่าคินทานาเป็นตัวเต็งแกรนด์ทัวร์ที่น่ากลัว แต่คำถามสำคัญสำหรับฤดูกาลนี้คือ การเลือกลงแข่ง Giro-Tour คู่กันนั้นจะริดรอนโอกาสในการคว้าแชมป์ Tour de France ซึ่งเราจัดว่าเป็นรายการที่เกียรติยศอยู่เหนือกว่า Giro (และเป็นสนามที่เขายังไม่เคยชนะหรือเปล่า?)

นักปั่นคนสุดท้ายที่เบิ้ลแชมป์ Giro-Tour ในปีเดียวกันคือ มาร์โค พานตานี ในปี 1998 และหลังจากนั้นมาไม่เคยมีใครทำได้อีกเลย

เหตุผลก็เพราะว่าทั้งสองรายการนั้นอยู่ห่างกันแค่เดือนเดียว เป็นเรื่องยากมากที่จะปรับสภาพฟอร์มนักกีฬาให้สูงสุดพร้อมชนะทั้งสองรายการ ส่วนมากนักปั่นอาจะฟอร์มดีใน Giro จนมีโอกาสได้แชมป์ แต่คอนทาดอร์กลับฟอร์มตกลงอย่างเห็นได้ชัดใน Tour de France — ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแข่งขันสนามที่คุณต้องแข่งต่อกัน 21 วันสองรายการในระยะห่างแค่เดือนเดียว

อีกหนึ่งปัจจัยคือ นักปั่นสมัยนี้นั้นมีระดับการแข่งขันที่สูงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ด้วยพัฒนาการทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา เทคโนโลยีอุปกรณ์จักรยาน และโภชนาการต่างๆ ตัวเต็งแต่ละคนเลือกเป้าหมายที่อยากจะชนะในแต่ละปีและทุ่มสุดตัว จนแทบไม่มีพื้นที่ว่างให้นักปั่นที่อยากจะจับปลาสองมือ แบ่งรับแบ่งสู้ ไม่เชื่อถามอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ที่อยากจะหวดสองแชมป์ Giro-Tour ในปี 2015 เขาชนะรายการแรก แต่พ่ายรายการที่สองย่อยยับ

ผมมีโอกาสได้ไปเยี่ยมค่ายเก็บตัวทีม Movistar ในเมืองมายอร์ก้าประเทศสเปนเมื่อต้นปี เลยยิงคำถามไปยังโค้ชของทีมว่า คินทานาจะ “ไหว” หรือเปล่า แล้วมันจะลดโอกาสของเขาไหมในการคว้าแชมป์ตูร์ เมื่อคู่แข่งและแชมป์สามสมัยอย่างคริส ฟรูม (Team Sky) พุ่งเป้าไปที่การสร้างฟอร์มเพื่อ Tour de France อย่างเดียว มันไม่ต่างอะไรกับคินทานา “ต่อให้” ฟรูมและตัวเต็งแกรนด์ทัวร์คนอื่นๆ

โค้ชทีมตอบว่า ปีที่แล้วที่เขาให้อเลฮานโดร วาวเวอเด้ กัปตันอีกหนึ่งคนของทีมลงแข่งแกรนด์ทัวร์ทั้งสามรายการ ทีมพบว่าวาวเวอเด้มีฟอร์มปั่นที่ดีขึ้นในรายการที่สองที่เขาลง (นั่นคือ Tour de France) แม้แต่คินทานาเองที่ลง Tour de France และ Vuelta a Espana ในปีก่อนก็ยังได้แชมป์ Vuelta ทีมเลยมั่นใจว่าการลงสองสนามจะทำให้ผลงานในสนามที่สองดีกว่าสนามแรก ทีมย้ำว่าจะลงแข่ง Giro เพื่อโอกาสชนะ แต่ไม่ “ซีเรียส” ถ้าไม่ได้แชมป์รายการ กลับกัน ทีมพุ่งเป้าไปที่ผลงานใน Tour de France มากกว่า

แต่กระนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ครับ คินทานาเองมีผลงานที่ดีขึ้นทุกปี และการที่เขาอายุน้อยกว่าคู่แข่งคนสำคัญก็หมายความว่าร่างกายเขาอาจจะมีเวลาฟื้นตัวได้เร็วกว่าคนอื่นๆ ถ้าดูฟอร์มการแข่งและพัฒนาการของเขาจากปีที่แล้ว เช่นในสเตจ 15 Vuelta ปีก่อนที่คินทานาและคอนทาดอร์ออกโจมตีกลุ่มหนีทิ้งห่างคู่แข่งอย่างฟรูม จนได้เวลานำมากพอให้คินทานาได้ครองแชมป์รายการ มันแสดงถึงสัญชาตญาณการแข่งและการอ่านเกมที่เด็ดขาด ซึ่งปกติไม่ใช่อะไรที่เราคาดหวังนักจากนักปั่นสมัยนี้ การโจมตีวันนั้นทำให้คริส ฟรูม (Team Sky) ต้องเสียแชมป์รายการไปแบบที่ไม่มีใครคาดคิด

ประกอบกับทีม Movistar ที่มีลูกทีมที่จัดว่าแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาทีมตัวเต็งแล้ว โอกาสเบิ้ลสองแชมป์ก็ดูจะไม่ยากเกินไป

ถามว่าเส้นทาง Giro ครั้งที่ 100 นี้เหมาะกับคินทานามั้ย? อุปสรรคสำคัญคงเป็นสเตจ Time Trial ที่ยาวกว่าปกติ แต่ก็ยังพอมีสเตจภูเขายาวๆ ยากๆ ให้ได้ใช้ความถนัดเหมือนกัน ปัญหาสำคัญของคินทานาคือคู่แข่งมากกว่าครับ เพราะมีตัวเต็งหลายคนที่หวังลงเอาแชมป์ Giro อย่างเดียว ไม่เผื่อแรงไปลงตูร์ เช่นแชมป์เก่า วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida), ฟาบิโอ้ อารู (Astana), ทอม ดูโมลาน์ (Sunweb), เกอเรนท์ โทมัส (Sky), และ ทีเจย์ แวนการ์เดอเรน (BMC)

ในตูร์นั้นก็ไม่ได้ง่ายไปกว่ากัน แน่นอนว่ามีทั้งคริส ฟรูม (Sky), อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo) และริชีย์ พอร์ท (BMC) ที่กำลังมาแรง

แน่นอนว่าแชมป์เมื่อต้นปีในสเปนนั้นเป็นสัญญาณที่ดีครับ อย่างไรก็ดี ตัวอย่างมีให้เห็นแล้วว่าการเดิมพันสูงแบบนี้ผลจะออกมาเป็นยังไง ถ้าทำได้คินทานาจะเป็นนักปั่นคนเดียวในรอบ 19 ปีที่เบิ้ลแชมป์ Giro-Tour ได้สำเร็จ แต่ถ้าล้มเหลว เขาอาจจะไม่ได้ยืนบนโพเดี้ยมสักรายการ

ผลจะออกมาเป็นยังไงก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ

The Inside Line ตอนนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกใน นสพ กรุงเทพธุรกิจ 14 กุมภาพันธ์ 2560

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *