เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 12?
เป็นอีกหนึ่งวันที่การแข่งร่วมสองร้อยกิโลเมตรตัดสินกันที่ 200 เมตรสุดท้ายครับ คริส ฟรูม (Sky) ขึ้นเขาลูกสุดท้าย Peyragudes ที่เส้นชัยอยู่บนยอดเขาเป็นคนที่สามของกลุ่ม ข้างหน้าฟรูมเป็นเพื่อนร่วมทีมสองคน เรียกได้ว่าเป็น perfect day สำหรับทีม Sky ที่คุมเกมตั้งแต่เริ่มกิโลเมตรแรกจนจบรายการ ในขณะที่ทีมอื่นๆ โดนตัดแรงด้วยเพซของ Sky กัปตันทีมถูกทิ้งให้รับมือเกมของ Sky อยู่คนเดียว ทุกอย่างดูราบรื่นและน่าจะเป็นอีกวันที่ฟรูมป้องกันเสื้อเหลืองได้สำเร็จ…
กับวันที่เราคาดว่าจะเป็นวันของเบรคอเวย์ แต่เบรคอเวย์คนสุดท้าย สตีฟ คัมมิงส์ (Dimension Data) ก็โดนรวบจับก่อนจะทำเป้าหมายได้สำเร็จ กลุ่มหนีไม่เคยหนีได้ห่างเปโลตองเกิน 4 นาที เรารู้ทีหลังว่าทีม Sky ตั้งใจจะให้ฟรูมได้แชมป์สเตจ เลยไม่ปล่อยเบรคอเวย์หนีเกินระยะรวบจับ ผลที่เกิดขึ้นด้วยเพซเร็วนรกนี้ทำให้ไนโร คินทานา (Movistar) และอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo) หลุดกลุ่มไปก่อนเพื่อนและเสียเวลาไปอีกคนละ 2 นาที ++ รวมถึงยาค็อบ ฟูลก์แซง (Astana) ที่หลุด top 10 GC เสียเวลาไปร่วม 30 นาที
บน Porte de Bales เขาลูกที่สี่ของวัน Sky ส่งวาซิล คิริเยงก้าและมิฮาล เควียทตอฟสกี้เซ็ตความเร็ว ลูกต่อมา Peyresourde เป็นหน้าที่ของมิเคล เนียเว และมิเคล แลนด้า ระหว่างนี้มีการโจมตีของวาร์เรน บากิลล์ (Sunweb) และอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo) แต่ก็ถูกปิดอย่างรวดเร็วโดยทีม Sky ถึงเขาลุกสุดท้าย Peyragudes ความยาว 2.4 กิโลเมตรกับความชันเฉลี่ยร่วม 10% ฟรูมยังเหลือแลนด้าที่ปั่นได้ดีไม่แพ้หัวหน้าทีมคู่แข่ง
เป็นแทคติคมาตรฐานของทีม Sky ที่ใช้โดเมสติกราคาแพงและแข็งแกร่งทอนแรงคู่แข่งด้วยความเร็วต่อเนื่อง ทีม Sky พบว่าการปั่นในสไตล์ Time Trial ขึ้นเขานั้นไปได้กว่าการโจมตีแบบกระชากต่อเนื่องเหมือนที่นักแข่งสมัยก่อนนิยมทำ และมันก็ได้ผลมาตลอด 3 ครั้งที่ฟรูมได้แชมป์ Tour de France ซึ่งเขาไม่เคยเสียเสื้อเหลืองเลยหลังจากที่คว้าเสื้อในสเตจภูเขาแรกของรายการทั้งสามครั้ง
Sky ต่อยอดการเซ็ตเพซเร็วนรกด้วยฟอร์มเด็ดขาดของฟรูมทุกครั้ง แต่ไม่ใช้ครั้งนี้ครับ เพราะปีนี้ฟรูมดูไม่ใช่นักไต่เขาที่ฟอร์มดีที่สุดในรายการ บนแรมป์ทางขึ้นเส้นชัยกับความชันระดับ 20% ที่ 800 เมตรสุดท้าย จอร์จ เบ็นเน็ต (LottoNL) เปิดเกมหนีกลุ่ม แต่มิเคล แลนด้าไล่ปิดเกม จากนั้นฟาบิโอ้ อารู (Astana) โจมตีซ้ำ ซึ่งมีแค่ริกโอเบอร์โต้ อูราน (Cannondale) และโรเมน บาเดต์ (AG2R) ที่ตามทัน คริส ฟรูมหลุดกลุ่มแรงตกอย่างเห็นได้ชัด
ในกลุ่มหน้า อารูที่ออกสปรินต์ขึ้นเนินก่อนเพื่อนเริ่มจ่ายดอกเบี้ย แรงตกปล่อยให้บาค์เดต์และอูรานขึ้นแย่งตำแหน่งแชมป์สเตจและ time bonus 10 วินาที เป็นบาเดต์ที่คว้าชัยชนะได้สำเร็จ อูรานได้อันดับสอง และอารูได้อันดับสาม คริส ฟรูม เข้าเป็นอันดับที่เจ็ด แต่เสียเวลาให้อารูไปถึง 20 วินาที ทำให้เข้าเสียเสื้อเหลืองให้เอซ Astana และเป็นครั้งแรกที่ฟรูมเสียเสื้อเหลืองระหว่างแข่งบนเสตจภูเขา
ผลการแข่งขัน
วาทะนักปั่น
คริส ฟรูม (Sky): “เป็นวันที่ยากครับ ทีมทำงานสมบูรณ์แบบ ผมแค่ไม่มีแรงจะปิดจ็อบ ไม่มีข้อแก้ตัวครับ ต้องยินดีกับบาเดต์ที่ได้แชมป์สเตจและอารูที่ได้เสื้อเหลืองด้วย”
ฟาบิโอ้ อารู (Astana): “ที่หน้าเส้นชัยผมดูในจอโปรเจ็คเตอร์เห็นฟรูมหลุดกลุ่มเราไปแล้ว ผมคำนวนในหัวคร่าวๆ ผมน่าจะได้เสื้อเหลือง มันรู้สึกดีมากเลยครับที่ได้เสื้อเหลืองมาจากฟรูม ผมเชื่อว่าผมปิดงานในเส้นชัยชันๆ แบบนี้ได้ดี เพราะงั้นการทำได้ตามที่เราคิดมันเป็นเรื่องที่ช่วยสร้างความมั่นใจได้ดีมากครับ ตอนแรกผมคิดว่าผมน่าจะได้แชมป์สเตจด้วย แต่สเตจวันนี้มันยากและยาว แต่ยังไงก็พอใจกับผลงานวันนี้ครับ”
อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo): “เป็นวันที่ยากอีกวันครับ ผมพยายามตามกลุ่มแต่เพซมันเร็วมาก เส้นทางก็ยาวและภูเขาก็เยอะ ตอนนี้ผมหวังได้แค่สเตจวิน อันดับ GC คงเป็นไปไม่ได้แล้ว ร่างกายผมไม่ค่อยดีครับ แค่จบสเตจได้ก็เป็นเรื่องยากแล้ว”
โรเมน บาเดต์ (AG2R): “มันเป็นชัยชนะครั้งที่สามในสามปีที่ผมแข่งตูณ์มาครับ ผมจะฉลองมันเพราะมันมีความหมายมากกับทีมของผม ต่อจากนี้ผมพุ่งเป้าไปที่การชิงอันดับเวลารวมได้แล้ว…ต่อจากนี้เราไม่รู้ว่า Astana จะป้องกันเสื้อยังไง เราจะระมัดระวังครับ ฟรูมเองก็เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว และยังเหลืออีกหลายสเตจกว่าจะถึงปารีส”
สตีฟ คัมมิงส์ (Dimension Data): “ผมแค่ต้องการส่วนผสมที่ลงตัวครับเพื่อชนะสเตจ แต่ Sky คุมเกมได้กระชับมาก ผมแทบไม่มีระยะห่างให้หนีเลย เมื่อคุณหนีออกมาแล้วคุณทำได้แค่ทุ่มให้หมดตัว ช่วงสุดท้ายก็ยากมาก สุดท้ายผมไม่เหลือแรงพอ ผมไม่หงุดหงิดนะ มันก็เป็นธรรมชาติของการแข่งขัน ผมไม่แน่ใจว่าแผนของ Sky คืออะไร สงสัยเขาอยากได้แชมป์สเตจ ผมว่าถ้าเขาต้องการแค่ผล GC เขาไม่ต้องไล่เราขนาดนั้นก็ได้ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับแผนของเขานั่นแหละ ทีมเขาฉลาดกว่าผมเยอะ”
ดราม่า: ทำไมอูรานโดนเพิ่มเวลา +20 วินาที?
อัปเดต: ข่าวล่าสุดจาก Cyclingnews รายงานว่า UCI ตัดสินใจกลับคำตัดสิน ไม่ปรับเวลาทั้งอูรานและเบ็นเน็ตครับ
หลังจบสเตจมีเรื่องไม่คาดคิดครับ เมื่อคณะกรรมการ UCI ตัดสินให้อูราน (Cannondale) และเบ็นเน็ต (LottoNL) รับโทษเพิ่มเวลารวมคนละ 20 วินาที เพราะรับน้ำดื่มจากผู้ชมข้างทาง ดราม่าเกิดขึ้นเมื่อภาพรีเพลย์โชว์ให้เห็นว่าบาค์เดต์ก็รับน้ำในจุดเดียวกับทั้งสองคนแต่ไม่โดนหักเวลาใดๆ ทั้งสิ้น!!
กฏ UCI ข้อ 2.3.027 กล่าวว่า: “ห้าไม่ให้นักปั่นรับเสบียงในช่วงทางขึ้นเขาและทางลงเขาในช่วง 50 กิโลเมตรแรก และ 20 กิโลเมตรสุดท้ายของการแข่งขัน” อย่างไรก็ดีในสเตจนี้ กรรมการอนุญาตให้นักปั่นรับเสบียงได้ที่ 10 กิโลเมตรสุดท้ายเพราะเส้นทางยาวและอากาศร้อนกว่าปกติ
กรรมการกล่าวว่าอูรานและเบ็นเน็ตรับเสบียงที่ 6.4 กิโลเมตรสุดท้าย จึงจำเป็นต้องลงโทษ
อย่างไรก็ดีทีม Cannondale เห็นภาพรีเพลย์และพบว่าบาเดต์ แชมป์สเตจก็รับเสบียงที่จุดเดียวกับทั้งสองคนและประท้วงผลการตัดสินของ UCI ทีมยอมรับโทษของอูรานแต่ประท้วงเรื่องการตัดสินที่ลำเอียง
Bardet drank from the bottle he snatched, too #tdf2017 pic.twitter.com/CPiJ56qk0e
— Julien Prétot (@julienpretotRTR) July 13, 2017
โจนาธาน วอเธอร์สผู้จัดการและเจ้าของทีม Cannondale ส่งข้อความและยื่นเรื่องโต้แย้งต่อกรรมการ UCI แต่ก็ได้รับคำตอบที่ไม่น่าพอใจว่า “เราไม่เห็นว่าบาเดต์ดื่มน้ำจากขวดเขาที่รับหรือเปล่า”
โดยรวมแล้วเป็นเคสที่ฟังไม่ขึ้นสำหรับ UCI ครับ การโดนเพิ่มเวลารวม 20 วินาทีในการแข่งขันที่สูสีขนาดนี้ มีผลมากกับอูรานและเบ็นเน็ต โดยเฉพาะอูรานที่มีสิทธิท้าชิงโพเดี้ยม มันบ่งบอกถึงการปฏิบัติสองมาตรฐานที่ดูจะช่วยเหลือนักปั่นฝรั่งเศส และไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่คณะกรรมการ UCI ตัดสินไม่แฟร์ ในสเตจ 4 ที่ซากานต้องรับโทษออกจากการแข่งขันเพราะถูกกล่าวหาว่าทำให้นักปั่นคนอื่นได้รับอันตราย แต่โทษเดียวกันไม่ถูกใช้กับอาโนด์ เดอมาร์ (FGJ) ที่เบี่ยงไลน์การสปรินต์จนเกือบจะทำคู่แข่งล้ม เช่นเดียวกันในสเตจ 10 เนเซอร์ บูฮานี่ (Cofidis) ยกมือชกแจ็ค บาวเออร์ (Quickstep Floors) ซึ่งโดยกฏแล้วการยกมือขึ้นโจมตีคู่แข่งเป็นโทษร้ายแรงยิ่งกว่าที่ซากานรับ แต่ UCI ตัดสินให้เขารับโทษแค่เสียเวลารวม 1 นาทีเท่านั้น
การตัดสินของ UCI ซึ่งจริงๆ แล้วไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผู้จัดแข่ง (ASO) ดูจะไม่เป็นธรรมและตั้งข้อสงสัยหลายอย่างในการแข่งตูร์ปีนี้ครับ สื่อทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น Cyclingnews, Velonews, Cyclingtips ต่างพูดถึงเรื่องนี้ และเราได้แต่หวังว่าถ้าเกิดเคสแบบนี้อีกกรรมการจะเป็นธรรมกว่านี้
Stage Comments
- ตอนนี้ชัดเจนว่าถึงฟรูมจะเสียเสื้อเหลืองไปแล้ว แต่ทักษะการปั่น Time Trial ของเขายังเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่ทีมอื่นต้องระวังไว้ และหาทางตุนเวลานำหน้าฟรูมก่อนถึงสเตจ 20
- ทีนี้พออารูได้เสื้อเหลือง Astana ต้องรับมือคุมเกมเบรคอเวย์ซึ่งจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ ในสเตจ 13 ที่ระยะทางสั้นและมีภูเขาชันหลายลูก ซึ่งทีมก็น่าจะคุมอะไรไม่ได้เท่าไร เพราะลูกทีมเจ็บทั้งฟูลก์แซงที่ดูหมดสภาพ และดาริโอ้ คาทาลโด้ นักไต่เขาที่ฟอร์มดีรองจากอารูและฟูลก์แซงก็ออกจากการแข่งขันไปแล้ว การที่ Astana จะคุมเกมไม่ได้อาจจะทำให้พลวัตรการแข่งเปลี่ยนไปเยอะครับ
- แต่ก็ต้องวิจารณ์แทคติคของทีม Sky ที่ดูจะมั่นใจไปหน่อย สเตจเมื่อวานนี้ อย่างที่คัมมิงส์บอก ทีมไม่จำเป็นต้องคุมเบรคอเวย์เลย เพราะไม่มีคนไหนเป็นอันตรายต่อฟรูมและเสื้อเหลือง แต่การทำเพซไล่บี้ทุกคนแบบนั้น หนึ่งทำร้ายฟรูมเอง (อย่างที่เราเห็นในช่วงหน้าเส้นชัย) และสองตัดแรงทีมที่ควรจะเก็บไว้ใช้ในสเตจวันนี้ เพราะต้องโดนอีกหลายๆ ทีมโจมตีแน่ๆ ยกเว้น Sky จะเหลือแรงเบรคอเวย์ไปบังคับมือทีมอื่นเอง เหตุผลเดียวที่ Sky จับเบรคเมื่อวานคือฟรูมบอกว่ามั่นใจว่าจะได้แชมป์สเตจ ซึ่งสุดท้ายเขาก็ประเมิณแรงตัวเองผิดครับ
- ทั้งนี้คนที่ฟอร์มดีสุดในบรรดาตัวเต็งเมื่อวานกลับเป็นมิเคล แลนด้าจาก Sky ทั้งๆ ที่ลากฟรูมและกลุ่มด้วยเพซหนักๆ มาแล้ว ตอนท้ายเขาลังเลนิดนึงเพราะเห็นฟรูมหลุดไป แต่ก็เร่งขึ้นไปจะชิง time bonus ของคู่แข่งไม่ให้ฟรูมเสียเปรียบ มันน่าทึ่งตรงที่ว่าเทียบกับคู่แข่งคนอื่นๆ ที่ลง Giro เหมือนแลนด้านั้น พังกันไปหมดแล้ว (พิโนท์ คินทานา โรลองด์) แต่แลนด้ายังเกือบได้แชมป์สเตจ แถมแกร่งกว่ากัปตันทีม ข่าวว่าปีนี้แลนด้าหมดสัญญากับ Sky และอาจจะไปอยู่กับ Movistar ซึ่งถ้าจริงก็นอกจากจะช่วยคินทานาได้แล้ว ยังมีโอกาสนำแกรนด์ทัวร์ในรายการอื่นๆ ที่คินทานาไม่ลงด้วย
วิดีโอไฮไลท์
