พรีวิว TDF สเตจ 12+13: วันปลดเสื้อเหลือง

ก่อนจะพรีวิวสเตจ 12 และ 13 ลองดูโปรไฟล์กันก่อนครับ

ที่ต้องพรีวิวคู่กันเพราะผมคิดว่าผู้จัดเขาออกแบบมาคู่กัน ลองสังเกตว่าสเตจ 12 ระยะทาง 214.5 กิโลเมตรขณะที่สเตจ 13 ยาวแค่ 101 กิโลเมตรเท่านั้น รวมทั้งสองสเตจเรามีภูเขาให้ปีน 9 ลูก และมันน่าจะเป็นคู่สเตจที่น่าสนใจมากในเทือกเขาพีรานีสก่อนสุดสัปดาห์นี้

คริส ฟรูม (Sky) ผู้นำเวลารวมมีเวลานำอันดับสอง ฟาบิโอ้ อารู (Astana) +18 วินาที  นำบาค์เดต์ (AG2R) +51 วินาที

 

พลวัตรเกมที่เปลี่ยนไป

การที่มีสเตจเขายาวและสั้นต่อกันเป็นโจทย์ที่หินมากของนักแข่งตัวเต็งครับ เพราะถ้าจัดเต็มวันแรกที่เส้นทางยาว พยายามออกแรงชิงทำเวลาทุกจังหวะ ถึงวันรุ่งขึ้นที่ระยะทางสั้น (ซึ่งหมายความว่าเกมเร็วและแรง) เขาอาจจะพลาดหลุดกลุ่มเสียเวลาที่ทำได้ในสเตจก่อนหน้ามาหมดเลยก็ได้ โดยปกติแล้วถ้ามีสเตจแบบนี้คู่กัน วันแรกที่ทางยาว พวก GC จะปล่อยให้เบรคอเวย์หนีชนะไปเลย แล้วค่อยชิงกันเอาที่เขาลูกสุดท้าย แต่โดยมากมักจะเลือกเพลย์เซฟ ไม่ยิงกันมากเกินไป ออมแรงไว้วันที่สองซึ่งอาจจะมีโอกาสทำเวลาหนีกันได้มากกว่า

เทียบกับเวลาในปีอื่นๆ แล้ว ปีนี้คริส ฟรูมนำคู่แข่งได้ไม่เยอะมาก เรียกได้ว่าหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว ระยะห่างที่เขามียังไม่อยู่ใน “ระยะปลอดภัย” ที่จะใช้คว้าแชมป์รายการได้อย่างสบายใจ

ถึงแม้ว่าคู่แข่งจะออกจากการแข่งขันไปหลายคนแล้ว (วาวเวอเด้, พอร์ท, ไมย์ก้า, เฮซิงค์) และบาดเจ็บอีกหลายคน (คอนทาดอร์, ฟูลก์แซง, และคินทานาที่สารภาพว่าเริ่มหมดแรงจากที่แข่งสองแกรนด์ทัวร์ติดต่อกัน ตอนนี้ตามหลังอยู่ +2:13 นาที)

อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo) ที่ตามอยู่ 5:15 นาทีนั้นก็ใช่ว่าจะปล่อยให้หนีรอดไปได้ง่ายๆ คริส ฟรูมถึงกับให้สัมภาษณ์ว่า “ถ้าคอนทาดอร์คิดจะหนี (เหมือนที่เขาเคยทำใน Vuelta ปี 2016 ที่พาคินทานาออกไปด้วยจนฟรูมแพ้รายการเพราะสเตจนั้น) เขาจะตามติดทุกฝีก้าว” คินทานาเองก็บอกว่าเขายังอยู่ในระยะเก็บโพเดี้ยมได้และยังเหลือสเตจภูเขาให้เขาทำเวลาได้อีกนิดหน่อย

ถึงฟรูมจะเก็บเสื้อเหลืองมาได้ร่วม 12 วันแต่ก็ใช่ว่าจะไม่โดนชิงไปง่ายๆ ครับ ยังเหลือคู่แข่งอีกหลายคนที่มีพิษสงและมีเส้นทางที่ทีม Sky อาจจะคุมเกมได้ไม่ง่าย

 

Stage 12

ทีนี้มาดูสเตจ 12  ที่นักปั่นจะเจอคืนนี้ ต้องบอกว่าเป็นวันที่โหดมากวันนึงในรายการนี้ครับ โดยเฉพาะช่วงท้ายที่เอาเขายาวมาๆ ต่อกันแบบ chain combo เริ่มจาก Port de Bales (11.7km / 7.7%) ต่อด้วย Col de Peyresourde (9.7km / 7.8%) ต่อด้วยทางลงชันๆ แล้วก็ขึ้นไปเข้าเส้นชัยที่ Peyragudes ซึ่งเป็น summit finish ครั้งที่สองจากสามครั้งในตูร์ปีนี้

ดูทรงแล้ว สเตจ 11 น่าจะจบด้วยเกมเบรคอเวย์เก็บแชมป์สเตจมากกว่า อย่างแรกเลยคือ มีแค่ทีม Sky ทีมเดียวที่แคร์กลุ่มหนี หมายความว่ามีทีมไม่เยอะที่จะไล่คุมเบรคอเวย์ให้อยู่ในระยะจับทัน สองมีอีกหลายทีมที่ยังไม่มีผลงานในตูร์ปีนี้ (คิทเทลกวาดไปกว่าครึ่ง)​ และวันที่เกม GC อาจจะมีการ “ออมแรง” เป็นโอกาสที่ดีมากที่จะหนีให้รอดครับ โดยเฉพาะทีมที่ตัวเต็ง GC เวลาหมดลุ้นแล้ว ทีมอย่าง Bora, Cannondale, BMC, Dimension Data, Sunweb และทีมดิวิชัน 2 อีกมากมายยังต้องการผลงานอยู่

จับตานักปั่นอย่าง เซิร์จ พาวเวลส์ (Dimension), วาร์เรน บากิลล์ (Sunweb) ที่ยังไล่เก็บแต้ม KOM, พริมอซ โรจ์กลิค (LottoNL), นิโคลาส โรช (BMC), ทีโบต์ พิโนท์ (FDJ)

สำหรับฝั่ง GC – คิดว่าจังหวะที่จะเชือดคมกันจริงๆ น่าจะเป็นทางขึ้น Peyragudes มากกว่ายกเว้นจะมีกบฏหนียาวอย่างคอนทาดอร์หรือคินทานา (ซึ่งผมคิดว่าคงเก็บแทคติคนี้ไว้ใช้พรุ่งนี้กัน) แต่จังหวะขึ้นเส้นชัยมันไม่ยาวมากนัก แต่ชันมาก นักปั่นอย่างมาร์ติน (Quickstep) มีโอกาสสปรินต์หนีคู่แข่งเพื่อตีตื้นทำเวลา และเราคงได้เช็คฟอร์มอารู (Astana) กับฟรูม (Sky) กันอีกรอบ จริงๆ แม้แต่อูราน (Cannondale) ที่ฟอร์มดีมากก็มีโอกาสตีตื้นด้วยเหมือนกัน

 

สเตจ 13

ลองดูโปรไฟล์สเตจ 13 กันอีกรอบ ที่บอกว่ามันอันตรายเพราะ ในสเตจสั้นๆ แบบนี้เปโลตองจะขี่กันเร็วและไม่มีโอกาสให้คนที่เผลอตั้งตัวครับ ถ้าเกมเป็นไปอย่างที่เราคาดการณ์ในวันนี้ (คือ GC ออมแรง ปล่อยกลุ่มหนีชนะ แต่เชือดกันที่เขาลูกสุดท้าย) สเตจ 13 จะเดือดมาก และอาจจะพลิกเกมได้เยอะที่สุดเหมือนที่คอนทาดอร์และคินทานาชิงหนีฟรูมในสเตจ 15 Vuelta’16 ลองดูเส้นทางสเตจ 15 ที่จบบนยอดเขา Formigal

111 กิโลเมตรและเขาสามลูกเหมือนกัน วันนั้นคอนทาดอร์หลุดไปอยู่อันดับ 6 GC (แต่ตามอันดับสามแค่ 5 วินาที)​ ก่อนเริ่มสเตจ ฟรูมตามหลังคินทานา ที่ใส่เสื้อผู้นำเวลารวมอยู่แค่ 54 วินาที แต่หลังจบสเตจเขาเสียเวลาไปร่วมสามนาที กลายเป็นตามหลังที่ +3:37 นาที

แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง? วันนั้น Movistar และ Tinkoff เปิดเกมรุกตั้งแต่ทางขึ้นเขาลูกแรก เป็นคอนทาดอร์ที่เลือกจุดสังหาร จังหวะทางลงเขาหลังออกจากจุดสตาร์ทได้ไมาถึงสิบกิโลเมตร เขาเปิดเกมหนีแล้วคุมสั่งการเบรคอเวย์ด้วยตัวคนเดียว พานักปั่นอีกกว่าสิบคนให้เร่งทำเวลาทิ้งห่างคู่แข่งคนอื่นทั้งหมดที่อยู่ในเปโลตอง ส่วนทีม Sky ที่อ่วมจากสเตจเมื่อวาน และฟรูมที่ไม่ได้อยู่หน้าสุดของกลุม่ตอนเริ่มสเตจก็ออกไล่คอนทาดอร์ไม่ทัน จากนั้นเกมทั้งสเตจเปลี่ยนทันที เมื่อ Sky ต้องเปลืองแรงกับการไล่จับกลุ่มหนี และสุดท้ายฟรูมก็พัง จากที่มีหวังจะได้แชมป์ Vuelta ก็พ่ายให้คินทานาตอนจบรายการ ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะสเตจนี้สเตจเดียวที่พลิกเกม

สเตจ 12-13 ในตูร์ปีนี้ดูจะเป็นการย้อนรอยสเตจ 14-15 ใน Vuelta ปีที่แล้วครับ ผิดกันที่ฟรูมนำ GC และคู่แข่งตามเขาค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยบทเรียนราคาแพงจากปีที่แล้ว คำถามคือ Sky จะรับมือกับการโจมตีหลากหลายรูปแบบจากทีมคู่แข่งยังไง (ซึ่งมาแน่ๆ) น่าติดตามครับ

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *