เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 13?
จะมีอะไรดีไปกว่าแชมป์สเตจชาวฝรั่งเศสในสนามแข่ง Tour de France ในวันชาติฝรั่งเศส!? วาร์เรน บากิลล์ (Sunweb) เจ้าของเสื้อเจ้าภูเขาแก้มือเก็บผลงานแชมป์สเตจได้สำเร็จหลังจากที่เบรคอเวย์ออกมากับตัวเต็ง GC ทีมดัง บากิลล์เปิดสปรินต์แซงอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek), ไนโร คินทานา (Movistar) และมิเคล แลนด้า (Sky) และทั้งสี่คนเข้าเส้นชัยก่อนหน้ากลุ่มตัวเต็ง GC ถึง 1:48 นาที
เป็นไปตามที่เราคาด สเตจ 13 เดือดตั้งแต่กิโลเมตรแรกเมื่อโทมัส โฟแคลร์ (Direct Energie) และบากิลล์ (Sunweb) เบรคอเวย์ออกไปเป็นคู่แรกตั้งกลุ่มออกสตาร์ท เบรคอเวย์ถูกรวบจับและมีนักปั่นคนใหม่ๆ พยายามหนีออกไปหลายครั้ง แต่สุดท้ายเบรคอเวย์ที่รอดไปได้เป็นส่วนผสมของตัวเต็ง GC ที่หลุดโผ เริ่มจากคอนทาดอร์ที่หนีออกไปกับแลนด้า และถูกไล่ตามด้วยคู่ของคินทานากับบาร์กิลล์ ทั้ง 4 คนทำเวลาหนีกลุ่มเปโลตองได้ราวๆ 2 นาทีตลอดเส้นทางที่เหลือ มิฮาล เควียทคอฟสกี้ (Sky) ตอนแรกตามประกบกลุ่มคินทานามาได้ แต่ถูกทิ้งที่เขาลูกสุดท้าย และหลุดกลับลงไปช่วยคริส ฟรูมในกลุ่ม GC ด้านหลัง
สำหรับกลุ่ม GC เอง ฟาบิโอ้ อารู เจ้าของเสื้อเหลือง (Astana) ไม่มีลูกทีมคอยช่วยไล่จับคู่แข่งคนอื่น และเจ้าตัวเองก็ดูจะไม่ได้สนใจกับคนที่หนีออกไป กลายเป็นสเตจที่ไม่มีทีมไหนคุมเกมได้เป็นพิเศษ แดน มาร์ติน (Quickstep) เร่งเทมโปขึ้นเขาลูกสุดท้ายของวัน Mur de Pegure กะตัดแรงคู่แข่งและไม่ให้ใครโจมตีง่ายๆ แต่พอถึงจังหวะลงเขา ตัวเต็งทุกคนในกลุ่มที่เหลือก็พยายามชิงหนีกัน ทั้งอูราน (Cannondale) บาเดต์ (AG2R) และฟรูม (Sky) จาก GC ที่เหลือมีคนเดียวที่หลุดกลุ่มไปคือจอร์จ เบ็นเน็ต (LottoNL Jumbo)
ถึงตีนเขาทางเข้าเมือง Foix เส้นชัยของวัน เบรคอเวย์สี่คนด้านหน้ายังหนีเปโลตองได้ราวๆ สองนาที คอนทาดอร์เปิดสปรินต์เป็นคนแรกที่ 500 เมตรสุดท้าย แต่บากิลล์จังหวะดีกว่าไล่เข้าแซงในวงเวียนก่อนหน้าเส้นชัยเล็กน้อยและยืนระยะเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกคว้าแชมป์สเตจได้สำเร็จ
ด้านหลังกลุ่ม แดน มาร์ติน และไซมอน เยทส์กระชากหนีกลุ่ม GC ได้สำเร็จ และแพคคู่หนีเข้าเส้นชัยก่อนหน้ากลุ่มของฟรูม และอารู 9 วินาที
อันดับ GC มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพราะมิเคล แลนด้ากระโดดขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ในตารางเวลารวม ตามหลังฟาบิโอ้ อารูแค่ 1:09 นาทีเท่านั้น
ผลการแข่งขัน
วาทะนักปั่น
บากิลล์ (Sunweb): “ชัยชนะวันนี้มันชดเชยความเสียใจวันที่ผมพ่ายให้อูรานได้ทั้งหมดครับ ผมรู้สึกว่าเอาอยู่ตั้งแต่ 800 เมตรสุดท้าย คอนทาดอร์เปิดหนีก่อน ผมแซงเขาจากด้านนอกของโค้งแล้วผมรู้ว่าตัวเองน่าจะเร็วที่สุดในกลุ่ม…”คอนทาดอร์เป็นไอดอลผมตอนผมยังเด็กครับ ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาแข่งกับเขาเหมือนวันนี้”
อารู (Astana): “จากมุมมองของคนดู ผมว่าวันนี้สนุกมากครับ ผมพยายามใจเย็นถึงจะมีคนหนีออกไปบ้าง เพื่อนร่วมทีมผมหลุดกลุ่ม หลายคนบาดเจ็บ ผมเลยเหลือตัวคนเดียว หวังว่าพวกเขาจะได้พักฟื้นในวันสองวันนี้”
ฟรูม (Sky): “เมื่อวานเป็นวันที่ยากสำหรับผมครับ แต่วันนี้เราเล่นได้ดีกว่าเดิมนะ แผนเราดีทีเดียว มิเคล (แลนด้า) อันดับ GC ขึ้นมาเยอะ ผมว่าวันหน้าๆ เราอาจจะใช้แผนแบบนี้อีกรอบก็ได้”
“เราเชื่อมั่นในมิเคลครับ แล้ววันนี้เขาก็แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นตัวอันตรายและผู้ท้าชิงแชมป์รายการอย่างแน่นอน เขาเป็นไพ่มือสำคัญของเรา ยิ่งตอนนี้ Astana ไม่มีทีมพอจะคุมเกมแล้วด้วย”
คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo): “รู้สึกดีที่ได้ทำอะไรที่ต่างไปบ้างครับ ผมไม่อยากมัวรออยู่แต่ในกลุ่ม ผมดีใจที่แลนด้าตามมา เราทำงานร่วมกันดี ผมทำทุกทางเพื่อช่วยแลนด้า มันดีกว่าที่จะเก็บแชมป์ตูร์ไว้ให้สมาชิกบ้านเดียวกันครับ” (DT note: คอนทาดอร์หมายถึงชาวสเปนด้วยกันครับ)
แลนด้า (Sky): “อัลเบอร์โต้กระตุ้นให้ผมปั่นเต็มที่วันนี้ เขาบอกผมว่า มาทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่กันดีกว่า! มันดีที่ผมไต่อันดับ GC ขึ้นมาครับ ผมมั่นใจว่าแรงดี แต่ผมไม่มียศ (แลนด้าหมายถึงสิทธิในการเป็นหัวหน้าทีม)”
เมื่อถูกถามว่าใครจะได้แชมป์ตูร์ปีนี้ แลนด้าตอบ “หวังว่าจะเป็นคริส (ฟรูม), ไม่งั้นก็เป็นผมนี่แหละ”
Stage Comment
ฟรูม vs แลนด้า??
แหม่ อ่านสัมภาษณ์สเตจวันนี้แล้วต้องบอกว่าเปรี้ยวปากครับ แต่ละฝ่ายนี่ช่างพูดจาสองแง่สองงามมีความหมายแฝงยังกะนักการเมือง สถานการณ์ตอนนี้ของมิเคล แลนด้ามันเหมือนกับคริส ฟรูมในปี 2012 ที่เขาทำหน้าที่ช่วยให้วิกกินส์ได้แชมป์ตูร์ไม่มีผิด
ทั้งฟรูมในตอนนั้นและแลนด้าในตอนนี้ไม่อายที่จะโชว์ความทะเยอทะยานผ่านสื่อและผ่านท่วงท่าการปั่นของเขา แทคติคของ Sky วันนี้ต้องบอกว่าเพอร์เฟ็คครับ การที่แลนด้าได้เลื่อนอันดับ GC สูงๆ จ่อคอหอยโพเดี้ยมคนอื่นอยู่ หมายความว่าต่อจากนี้ Sky สามารถส่งตัว GC ไล่สลับกันโจมตีคู่แข่ง บังคับตัดแรงให้เหนื่อยกันได้ตลอดทั้งเกม เหมือนที่ Movistar กะจะใช้วาวเวอเด้เป็นนกต่อให้คินทานายังไงยังงั้น ไม่ว่าสเตจเมื่อคืนจะจบแบบไหน แลนด้าจะได้เสื้อเหลืองหรือไม่ล้วนเป็นข้อดีกับทีม Sky ทั้งหมด
แลนด้าเองโชว์ฟอร์มการเป็นนักปั่น GC มาตั้งแต่ Giro 2015 ที่เขาคว้าแชมป์ไปสองสเตจ แต่ก็ยังไม่วายโชว์เจตนาการอยากเป็นผู้นำ หนึ่งในสเตจที่เขาได้แชมป์ เขาทิ้งฟาบิโอ้ อารู กัปตันทีมไว้ข้างหลัง ถอดหูฟังวิทยุออกและบินเดี่ยวไปเก็บแชมป์สเตจโดยไม่แคร์คำสั่ง พร้อมกันก็เลื่อนอันดับ GC ของเขาจนจบรายการด้วยอันดับสาม
หลังจากปีนั้นเขาเซ็นกับทีม Sky ด้วยสัญญาที่จะได้เป็นผู้นำในแกรนด์ทัวร์ แต่สุดท้ายเขาเองฟอร์มไม่ดีและป่วยทั้งปีจนไม่ได้ลง Giro 2016 ปีนี้เขาก็ล้มพร้อมๆ กับโทมัสใน Giro จนสุดท้ายทำได้แค่คว้าแชมป์สเตจในรายการ ปีนี้เขาจะหมดสัญญากับ Sky และมีข่าวลือว่าอาจจะไปอยู่ Movistar ซึ่งก็ดูประจวบเหมาะดี เพราะวาวเวอเด้คงแข่งแกรนด์ทัวร์ได้อีกไม่นาน และคินทานาคนเดียวคงแข่งแกรนด์ทัวร์ไม่ได้ทั้งสามรายการต่อปีครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ดูแล้วยังไงแลนด้าก็คงไม่แข็งข้อกับ Sky ในตูร์ปีนี้ เขาน่าจะเป็นมืออาชีพพอจะรู้สถานะของตัวเอง (เหมือนฟรูมในปี 2012) และอีกอย่างยังไงฟรูมก็ปั่น TT ได้ดีกว่าเขา ไม่มีเหตุผลที่ Sky จะปั้นแลนด้าขึ้นเป็นผู้นำทีมร่วม (แลนด้ายังไม่เคยได้แชมป์ตูร์ ฟรูมได้มาสามครั้งแล้ว) ยกเว้นว่าจะใช้บลัฟคู่แข่งให้หลงเชื่อว่าแลนด้าแกร่งกว่าฟรูม แล้วปล่อยให้ฟรูมแอบโจมตีชิงเวลา ก็ดูจะเป็นแผนที่ดีไม่น้อย แต่ก็เสี่ยงนักปั่นแตกคอกันเหมือนกันครับ 555
จะอย่างไรก็ดี ตอนนี้ชัดเจนว่าแลนด้าเป็นนักไต่เขาที่ฟอร์มดีเป็นอันดับต้นๆ ของรายการเผลอๆ จะแข็งกว่าอารูเสียอีก ทีมคู่แข่งที่ห่วงฟรูมอยู่แล้ว ตอนนี้มีคนต้องให้ห่วงเพิ่มมาอีกคนครับ
จะสูสีไปไหน?
ในประวัติศาสตร์การแข่งขัน Tour de France ยังไม่เคยมีปีไหนเลยที่หลังพ้นสเตจ 13 นักปั่น 4 คนแรกยังอยู่ในระยะห่างกันไม่ถึง 35 วินาที จัดว่าเป็นตูร์ที่สูสีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในช่วงสองสัปดาห์แรกครับ อารูยังนำเสื้อเหลือง ฟรูมตาม +6 วินาที บาค์เดต์ตาม +25 วินาที และอูรานตามที่ +35 วินาที
สถิติการชนะกันที่สูสีที่สุดในตูร์คือ 8 วินาที โดยเกร็ก เลอมองด์ที่ปั่น Time Trial ชนะลอเรนท์ ฟิญญองในปี 1989 ที่ผู้จัดตั้งใจให้การแข่งมันสูสีกันทุกวันด้วยเส้นทางที่ไม่ค่อยมีสเตจภูเขา ก็ต้องบอกว่าทำได้สำเร็จครับ ถ้านับ Top 8 ด้วยก็หมายความว่าเสื้อเหลืองถึงอันดับ 8 นั้นเวลาต่างกันไม่ถึง 2:07 วินาที (แลนด้า +1:09, มาร์ติน +1:32, เยทส์ +2:04, และคินทานา +2:07)
บัฟเฟอร์สองนาทีนี้ไม่ได้เยอะเลยสำหรับคนใส่เสื้อเหลือง ลองนึกถึงทอม ดูโมลาน (Sunweb) ที่จอดทิ้งระเบิดฉุกเฉินใน Giro ปีนี้ซึ่งเขาเสียเวลาไปเกือบสองนาที แต่สุดท้ายยังฟอร์มดีพอจะมาพลิกเอาชนะได้ ถ้าฟอร์มไม่ดีหรือมีเหตุอย่างอื่นขึ้นมา สองนาทีนี้โดนซิวได้ง่ายมากครับ แต่แบบนี้ก็หมายความว่าเรายังลุ้นกันได้สนุกๆ จนวันสุดท้ายครับ
