ไฮไลท์
- จูเลียน อลาฟิลลิป (Quickstep-Floors) คว้าแชมป์แกรนด์ทัวร์เป็นครั้งแรกด้วยวัย 25 ปี ด้วยการออกหนีกลุ่มเบรคอเวย์ 3 คนในช่วงกิโลเมตรสุดท้าย แยน โพแลงค์ (UAE) คว้าอันดับสอง และราฟาล ไมย์ก้า (Bora-Hansgrohe) คว้าอันดับสาม
- คริส ฟรูม (Sky) โจมตีคู่แข่งบนทางขึ้นเขาลูกสุดท้ายพร้อมกับอัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Trek-Segafredo) ทำเวลารวมนำตัวเต็งคนอื่นได้อีก 17 วินาที
เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 8?
สเตจ 8 จบใกล้ๆ ยอดภูเขาสูงชันเป็นครั้งที่สามในรายการ Vuelta และชัยชนะตกเป็นของกลุ่มหนีอีกครั้งครับ อลาฟิลลิป (Quickstep) เปิดเกมโจมตีกลุ่มเบรคอเวย์บนทางขึ้นเขาลูกสุดท้ายที่ความชันสูงสุดกว่า 20% มาคู่กับราฟาล ไมย์ก้า (Bora-Hansgroghe) แต่พอถึงทางลง แยน โพแลงค์ (Emirates) ก็ตามมาด้วยเป็นกลุ่มสามคน สุดท้าย อลาฟิลลิปชิงโจมตีหน้าเส้นชัยโซโล่เข้าวินคนเดียว
สถานการณ์คล้ายๆ กันเกิดขึ้นในกลุ่ม GC ที่ตามเบรคอเวย์มาราวๆ 90 วินาทีให้หลัง เมื่อคริส ฟรูม (Sky) โจมตีกลุ่ม และหนีมาคู่กับคอนทาดอร์ ซึ่งเป็นสองนักไต่เขาที่ฟอร์มดีที่สุดในสเตจนี้ ทั้งคู่เข้าเส้นชัยก่อนคู่แข่งคนอื่นถึง 17 วินาที ทำให้ฟรูมเพิ่มเวลานำห่างอันดับสองในตารางเวลารวม เอสเตบาน ชาเวซ +28 วินาทีแล้ว
สำหรับคอนทาดอร์ในการแข่งขันครั้งสุดท้ายของเขา ถึงจะเวลารวมไม่ดีนัก ยังตามฟรูมอยู่ทีี่ +3:10 นาที ที่อันดับ 17 แต่ด้วยฟอร์มแบบนี้ก็มีสิทธิจะไล่คู่แข่งขึ้นมาได้เรื่อยๆ เช่นกันครับ
ผลการแข่งขัน
Talking Point 1: ทำไมฟรูมฟอร์มดีกว่าคนอื่น?
ชัดเจนว่าฟอร์มการแข่งขันของฟรูมนั้นเป็นอันดับหนึ่งของรายการครับ การที่เขาทำเวลานำคู่แข่งได้แทบทุกวันที่เส้นทางผ่านภูเขายิ่งทำให้เกมคู่แข่งที่จะไล่ชิงเวลาคืนยากขึ้นไปอีก ฟรูมให้สัมภาษณ์อธิบายฟอร์มของเขา
“มันเป็นครั้งแรกเลยที่ผมตั้งใจซ้อมลงแข่ง Vuelta จริงๆ ครั้งแรกที่ผมเก็บตัวบนภูเขาสูง (altitude camp) ก่อนลงแข่ง Vuelta และมันเริ่มเห็นผลแล้วครับ การวางแผนแข่งปีนี้ของผมเปลี่ยนไปเยอะมาก ฟอร์มผมไม่ได้ดีนักช่วงก่อนเริ่มตูร์เดอฟรองซ์ เพื่อให้รักษาฟอร์มได้ยาวนานขึ้น ผมดีใจมากเลยที่เชื่อฟังโค้ช”
“ผมมาแข่งเพื่อชนะนะ ผมจะปั่นในวิธีที่ทำให้ผมมีโอกาสได้แชมป์เยอะที่สุด ผมไม่กลัวฟอร์มตกในสัปดาห์สุดท้าย ไม่ใช่ว่าผมโจมตีตอนนี้ทำเวลาตอนนี้แล้วจะกรอบลงอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกสดและแรงดีตอนนี้ ทำไมถึงจะไม่ชิงทำเวลานำหละ? ในการแข่งขันอะไรมันก็เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เพราะงั้นผมจะทำเวลาให้ได้เยอะที่สุดในทุกโอกาสที่อยู่ตรงหน้า”
“คอนทาดอร์เองก็ไม่ได้มาแข่งเพื่อปั่นรอบสเปนแล้วถ่ายเซลฟี่กับแฟนๆ หรือแจกลายเซ็นต์ เขามาแข่งเพื่อชนะ เขาอาจจะเสียเวลาไปบ้างในสัปดาห์แรก แต่ตอนนี้ชันเจนว่าเขาแกร่งมาก เพราะงั้นเราจะระวังเขาเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เหตุการณ์อย่างปีที่แล้วเกิดขึ้นอีกครับ”
Talking Point 2: อลาฟิลลิปเปิดซิงแชมป์แกรนด์ทัวร์
สเตจ 8 เป็นการแจ้งเกิดนักปั่นจาก Quickstep อีกหนึ่งคนเมื่ออลาฟิลลิปคว้าแชมป์สเตจให้กับทีม รวมยอดแชมป์ในรายการนี้ Quickstep คว้าไปแล้วถึงสามสเตจ
อลาฟิลลิปเคยทำผลงานที่ดีที่สุดเป็นอันดับสองใน La Fleche Wallonne และ Liege-Bastogne-Liege และเป็นนักปั่นสไตล์ Puncheur คล้ายกับฟิลลิป จิลแบร์ (Quickstep Floors) และอเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar) ที่ถนัดการเร่งความเร็วขึ้นเนินชันและสั้นอย่างรวดเร็ว และสปรินต์ปิดเกมได้ดี
ชัยชนะวันนี้ต่อยอดผลงานของอลาฟิลลิปใน Vuelta ที่ได้อันดับ 7 ในสเตจ 5 ซึ่งพ่ายให้กับคู่แข่งในเบรคอเวย์ไป เจ้าตัวบอกว่าสเตจ 9 วันนี้ก็เหมาะกับเขามากเช่นกัน
Talking Point 3: Sunweb ส่งบากิลล์กลับบ้าน
ดราม่าเล็กๆ ระหว่างทีม Sunweb เมื่อวานนี้เมื่อทีมประกาศว่าได้ส่งวาร์เรน บากิลล์ดาวดังของทีมกลับบ้านไปแล้วเพราะไม่เชื่อฟังคำสั่งทีม
เหตุเกิดจากที่บากิลล์แสดงเจตนาชัดเจนว่าไม่อยากปั่นช่วยหัวหน้าทีม วิลโค เคลเดอร์แมน และอยากปั่นเพื่อผลงานของตัวเอง จากในสเตจ 7 วันก่อนที่เคลเดอร์แมนยางรั่วและต้องจอดเปลี่ยนล้อ แต่บากิลล์ไม่รอหรือลงมาช่วยเพื่อพาหัวหน้าทีมกลับเข้ากลุ่ม และเจ้าตัวเองก็บอกว่าฟอร์มกำลังดีอยากสู้คู่แข่งในสเตจภูเขา
เป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีนักสำหรับทีม Sunweb แต่ก็เป็นการประกาศจุดยืดชัดเจนว่าต่อให้นักปั่นจะดังหรือเก่งแค่ไหน ถ้าไม่ตามแผนทีมก็แข่งร่วมกันไม่ได้ แน่นอว่าการที่บากิลล์ตัดสินใจออกจากทีมก่อนหมดสัญญา ย้ายไปอยู่กับ Fortuneo-Oscaro ในฤดูกาลหน้าก็คงมีผลกับการตัดสินใจของทีมครั้งนี้ครับ
Talking Point 4: คู่แข่งฟรูมเสียเวลาอีกครั้ง
ทางขึ้นเขาลูกสุดท้ายวันนี้จริงๆ แล้วระยะทางยาวแค่ 3.4 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ฟรูมและคอนทาดอร์ก็ยังทำเวลานำคู่แข่งได้เยอะกว่าในสเตจอื่นๆ
วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida), เอสเตบาน ชาเวซ (Orica-Scott), และฟาบิโอ้ อารู (Astana) เสียเวลาไป 17 วินาที ขณะที่คู่ BMC นิโคลาส โรชและทีเจย์ แวนการ์เดอเรนเสียไป 28 วินาที เช่นเดียวกับ เดวิด เดอลา ครูซ (Quickstep), ไมเคิล วูดส์ (Cannondale), และอดัม เยทส์ (Orica-Scott) ไซมอน เยทส์ เสียไปถึง 40 วินาที
จากเวลารวมปัจจุบัน มีนักปั่นแค่ 4 คนเท่านั้นที่อยู่ในะระยะห่าง 1 นาทีจากเวลารวมของฟรูม ฟรูสเองมีโอกาสทำเวลานำห่างมากกว่านี้ในสเตจ 9 ซึ่งจบบนยอดเขาอีกครั้ง
วิดีโอไฮไลท์
พรีวิว Stage 9: Orihuela — Cumbre del Sol, 174km
สเตจ 9 คืนนี้เป็นอีกวันที่น่าสนุกครับ เพราะเส้นชัยจบบนยอดเขาอีกแล้ว เป็นการขึ่้นเขาลูกเดียวกันสองครั้ง ครั้งที่สองยาวกว่าครั้งแรก
เขาลูกนี้คือสเตจที่ดูโมลาน (Sunweb) เชือดคริส ฟรูม (Sky) ในปี 2015 ความยาวเพียง 4.1 กิโลเมตรแต่ชันเฉลี่ยถึง 9.1% และชันสูงสุด 21% คล้ายๆ กับสเตจ 8 เมื่อวานนี้
ใครมีลุ้นชนะ?
- คอนทาดอร์: คือนักปั่นคนเดียวที่สู้ฟรูมได้แบบตัว-ตัวตอนนี้ สเตจเมื่อวานคอนทาดอร์ได้เปรียบจากการที่มีบ้านอยู่ใกล้เขาลูกสุดท้าย คุ้นชินเส้นทาง จริงๆ แล้วคอนทาดอร์ทิ้งฟรูมได้แต่ฟรูมไล่ตามทัน ถ้ายังรักษาฟอร์มแบบสองสามวันที่ผ่านมาได้ ก็น่าจะเห็นคอนทาดอร์ไล่ไต่กลับขึ้น Top 5 ได้ไม่ยากถ้าคู่แข่ยังกรอบแบบที่เห็นครับ
- คริส ฟรูม: ไม่มีเหตุผลที่ฟรูมจะไม่ชนะสเตจนี้ ยกเว้นว่าเบรคอเวย์จะหนีไปได้ ซึ่งก็เป็นไปได้สูงครับ เจ้าตัวเองบอกชัดว่าถ้าทำเวลานำเพิ่มได้ก็จะนำ ฟรูมต้องโจมตีแน่นอน
- ม้ามืด: ไมเคิล วูดส์ (Cannondale), ชาเวซ (Orica-Scott): ทั้งคู่เป็นนักไต่เขาแบบ explosive แต่ดูแล้วจะยังไม่ explosive เท่าฟรูมและคอนทาดอร์ ถ้าทั้งคู่พลิกฟรอม์คืนได้ก็มีโอกาสชนะเหมือนกัน
- เบรคอเวย์: จับตามอง ดาวิน อทาพูมา (UAE), มาร์ค โซเลอร์ (Movistar), จอร์จ เบ็นเน็ต (LottoNL), โทมัส เดอ เกนท์ (Lotto-Soudal), อลาฟิลลิป (Quickstep), ไมย์ก้า (Bora-Hansgrohe)
ถ่ายทอดสด 20:00-22:45 วันนี้บรรยายสด 21:30 ที่ duckingtiger.com/live ครับ