รีวิว Vuelta สเตจ 9: ฟรูมนำขาดลอย, Cannondale อาจจะต้องยุบทีมฤดูกาลหน้า

Stage Highlight

  • คริส ฟรูม (Sky) โชว์ฟอร์มโหดคว้าแชมป์สเตจบนยอดทำเวลานำคู่แข่งได้อีกนับสิบวินาที
  • ทีม Cannondale-Drapac อาจจะต้องยุบทีมหลังสิ้นฤดูกาลนี้หลังหาสปอนเซอร์ใหม่ไม่ได้

 

The Rundown: เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 9?

คริส ฟรูม (Sky) ผู้นำเวลารวมยังคงรักษาฟอร์มแกร่งต่อเนื่องเมื่อเขาคว้าแชมป์สเตจได้เป็นครั้งแรกในรายการ ในขณะที่ทิ้งห่างคู่แข่งคนอื่นเพิ่มเวลารวมนำได้อีกหลายวินาที มีเพียงเอสเตบาน ชาเวซ (Orica-Scott) และไมเคิล วูดส์ (Cannondale-Drapac) ที่ตามเข้าเส้นชัยมาได้ในระยะห่าง 4 และ 5 วินาทีตามลำดับ

ฟรูมโจมตีกลุ่มคู่แข่งระหว่างทางขึ้นเขา Cumbre del Sol หลังจากที่มิเคล เนียเว เพื่อนร่วมทีมช่วยไล่จับเบรคอเวย์และเร่งความเร็วตัดแรงคู่แข่งคนอื่น โรเมน บาเดต์ (AG2R) พยายามโจมตีหนีกลุ่มที่ตีนเขาแต่ก็โดนรวบจับอย่างรวดเร็ว

ใกล้ถึงหกร้อยเมตรสุดท้าย เดวิด เดอ ลาครูซ (Quickstep) พยายามกระชากหนีกลุ่ม แต่ฟรูมไล่ขึ้นทัน เมื่อรวบจับทัน ฟรูมเร่งทิ้งห่างทุกคน ในกลุ่ม สุดท้ายเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก เพิ่มเวลานำอันดับสองในตารางเวลารวม เอสเตบาน ชาเวซได้เป็น 36 วินาทีหลังจบสเตจ และคู่แข่งคนอื่นๆ นั้นเวลารวมห่างฟรูมเกิน 1 นาทีทุกคน

 

ฟรูมกล่าวหลังแข่ง:

“ผมทุ่มทุกอย่างที่มีที่ช่วงห้าร้อยเมตรสุดท้าย ผมตัดสินใจว่ายังไงพวกข้างหลังก็ต้องไล่ผมไม่ทัน ทีมเราทำงานดีมากครับที่ทั้งช่วยจับเบรคอเวย์และเร่งความเร็วขึ้นมา”

“การแข่งขันผ่านมาแล้วหนึ่งอาทิตย์ และผมไม่สามารถขออะไรที่ดีไปกว่าตำแหน่งปัจจุบันตอนนี้ครับ เป็นการเริ่มต้น Vuelta ที่ยอดเยี่ยมมาก ผมยังแรงดี ผมมาแข่ง Vuelta หลายครั้ง หวังจะชนะ แต่ยังไม่มีครั้งไหนที่รู้สึกพร้อมเท่านี้”

วันนี้ไม่มีการแข่งขัน แต่สเตจ 10 จะเริ่มแข่งวันอังคารที่ 29 สิงหาคมนี้เส้นทาง 164.8 กิโลเมตรจาก Caravaca ไป El Pozo

ผลการแข่งขัน

Talking Point 1: ฟรูมมาเต็ม

ยังอีกกว่าสองสัปดาห์กว่า Vuelta จะจบและคู่แข่งห้าคนที่เวลารวมอยู่ห่างฟรูมไม่เกิน 90 วินาที และมีอีกสามคนที่อยู่ห่างไม่เกินสองนาที แต่ด้วยลีลาการแข่งของฟรูมและทีม Sky แล้วราวกับว่านี่เป็นเดจาวูจาก Tour de France ปีก่อนๆ ก็ว่าได้ ซึ่งดูไม่มีคู่แข่งคนไหนแกร่งพอจะสยบคริส ฟรูมได้ง่ายๆ ครับ ฟรูมเองไม่ยอมแม้กระทั่งจะแพ้ชาเวซ ในสเตจที่เขาเคยแพ้ดูโมลานมาก่อน ถึงแม้ว่าในความพ่ายแพ้นั้นเขาจะทำเวลานำคู่แข่งคนอื่นได้ก็ตาม

“ผมเร่งเยอะมากในช่วงกิโลเมตรสุดท้าย ผมจำบทเรียนได้ดีครับ บนเขาลูกนี้ดูโมลานเคยแซงผม พอผมเห็นเดอ ลาครูซ​เร่งขึ้นมาผมอาศัยจังหวะไล่เขาเร่งความเร็วออกไปเลย ผมเห็นชาเวซไล่ตามมาทัน แต่ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบปี 2015 อีก ผมเร่งอีกครั้งที่สองร้อยเมตรสุดท้ายให้เกมจบ”

“บางครั้งการรับที่ดีที่สุดค็คือการรุก โดยเฉพาะกับฟอร์มที่ผมมีตอนนี้ มันดีกว่าที่จะแข่งเร่งอยู่หน้ากลุ่มมากกว่าเล่นแผนอุด ทีมก็ทำงานได้ดีมาก เนียเวช่วยผมไว้เยอะ”

แชมป์สเตตจครั้งนี้ของฟรูมเป็นชัยชนะครั้งแรกใน Vuelta ในปีนี้ (ครั้งล่าสุดที่เขาได้แชมป์ที่นี่คือสเตจ Time Trial ปีที่แล้ว และปีนี้เขายังไม่ได้สเตจวินในแกรนด์ทัวร์เลย รวมถึงใน Tour de France ที่เขาชนะรายการด้วย)

ถ้าฟรูมยังรักษาฟอร์มแบบนี้ต่อไปได้อีกสัปดาห์นึง คำถามคงไม่ใช่ว่าใครจะชนะ แต่ชนะด้วยเวลากี่นาทีมากกว่า

 

Talking Point 2: Orica และ BMC ยังเป็นทีมอันตราย

ถึงฟรูมจะแกร่งขนาดไหน แต่นักปั่นหลายคนยังอยู่ในระยะเอื้อมถึงยอดโพเดี้ยมครับ ลองนึกถึงสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับทอม ดูโมลานใน Giro d’Italia ปีนี้ กับการเสียเวลาเพื่อจอดทำ “ธุระหนัก” ที่เสียเวลาไปร่วมสองนาทีเต็ม ไม่มีเหตุผลให้คู่แข่งคนอื่นต้องใจฝ่อหรือถอดใจ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในแกรนด์ทัวร์สามสัปดาห์

ชาเวซชัดเจนว่ามีฟอร์มไต่เขาที่ดีกว่าคนอื่นในบรรดาตัวเต็ง GC ที่เหลือ และมีอันดับเวลารวมใกล้ฟรูมที่สุดถึงแม้เมื่อวานจะโดนทิ้งห่างก่อนถึงเส้นชัยเพียงนิดกเดียวก็ตาม แต่โดยรวมแล้ว Orica-Scott ยังมีไพ่ให้เล่นอีกหนึ่งใบ นั่นคืออดัม เยทส์ที่เวลารวมอยู่ห่างไป 1:55 นาที Orica อาจจะลองเล่นแผน Movistar ที่ส่งตัวเต็งคนหนึ่งไปพลีชีพเพื่อหวังตัดแรงทีม Sky ก็ได้

ขณะเดียวกัน BMC ก็มีตัวเต็ง GC สองคนที่เวลาดีมาก นิโคลาส โรช นักปั่นชาไอริชอยู่อันดับสาม GC ที่ +1:05 นาทีเท่านั้น และทีเจย์ แวนการ์เดอเรนเองก็ตามอยู่ที่ +1:27 นาที หลายคนอาจจะไม่ได้สังเกตโรชแต่เขาเป็นคนที่แข่งใน Vuelta ได้ดีเสมอครับ เคยคว้าอันดับ 5 และ 6 ใน Vuelta มาแล้วในปี 2013 และ 2010

ถึงทั้งสองทีมอาจจะยังไม่ได้แกร่งเหมือน Sky และฟรูมในตอนนี้ แต่ก็ยังมีแผนให้เล่นอีกหลายรูปแบบ โดยเฉพาะหากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับฟรูม

 

Talking Point 3: แล้ว GC คนอื่นว่ายังไงบ้าง?

นอกจากคนที่เรากล่าวถึงข้างต้น คู่แข่งสำคัญอีกหลายคนก็โดนฟรูมไล่ชิงเวลารวมไปวันละนิดวันละหน่อย จนถึงจุดที่เป็นอันตรายต่อเป้าหมายแล้ว

วินเชนโซ นิบาลี (Bahrain-Merida) เสียเวลาไป 24 วินาทีในสเตจเมื่อวานนี้ ทำให้อันดับเวลารวมตามฟรูมอยู่ 1:17 นาที

ฟาบิโอ้ อารู (Astana) แชมป์เก่าก็เสียไป 27 นาที เวลาหล่นไปที่ +1:33 นาที อารูที่ลงแข่ง Tour de France มาก่อนอาจจะคาดหวังได้ยากให้ฟอร์มดีขึ้นในสัปดาห์ที่สองและสาม แต่นิบาลีอาจจะตรงกันข้ามเพราะเขามีร่างกายที่สดพร้อมกว่าคู่แข่งคนอื่น กระนั้นเทรนด์การแข่งขันที่เกิดขึ้น 9 วันที่ผ่านมาก็ยังดูไม่ค่อยน่าไว้ใจสำหรับนิบาลี

 

Talking Point 4: Cannondale-Drapac อาจได้ยุบทีมฤดูกาลหน้า

ถ้าใครติดตามถ่ายทอดสดสเตจเมื่อวานจะเห็นว่าทีม Cannondale-Drapac ขึ้นมานำกลุ่มอยู่กว่าครึ่งสเตจครับ จริงว่าทีมมีนักปั่นที่เวลาดีอย่างไมเคิล วูดส์ (+1:52) นาที แต่ทำไมต้องมาช่วยทีม Sky ทำงานด้วย?

คำตอบก็คือเมื่อวานนี้ทีมเพิ่งทราบว่าสปอนเซอร์ใหม่ที่จะมาสนับสนุนในฤดูกาลหน้าเทกระจาด ถอนตัวในนาทีสุดท้าย ทำให้ทีมขาดเงินอีก 7 ล้าน USD ในการทำทีมปีหน้า และถ้ายังหาเงินได้ไม่ทันเร็วๆ นี้ ก็จำเป็นจะต้องยุบทีมครับ

นักปั่นบางคนที่ต่อสัญญากับทีมแล้วอย่างริกโอเบอร์โต้ อูราน (อันดับสอง Tour de France) ให้เวลาทีมอีกสองสัปดาห์ในการหาสปอนเซอร์ใหม่ ไม่งั้นจะขอย้ายไปทีมอื่น ขณะเดียวกันทีมอนุญาตให้นักปั่นที่ไม่มีสัญญาเริ่มหาสังกัดใหม่ได้เลย

เป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมทีมถึงดูตั้งใจแข่งเป็นพิเศษ เพราะทางรอดที่ชัวร์ที่สุดก็คือการคว้าผลงานให้ทีมชนะเพื่อมัดใจหรือเรียกความสนใจสปอนเซอร์รายใหม่ และเกือบทำได้สำเร็จเมื่อ ไมเคิล วูดส์ คว้าอันดับสามในสเตจ ตามหลังฟรูมแค่ 5 วินาทีเท่านั้น

ต่อจากนี้เราคงเห็นทีม Cannondale ปั่นเกมรุกยิ่งกว่าเดิมครับ เพราะไม่มีทางออกอื่นแล้วนอกจากจะชนะหรือทำผลงานให้ได้มากที่สุดก่อนจะจบการแข่งขัน

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *