ถ่ายทอดสดเริ่ม 17:30-21:15 / ลิงก์สตรีมมิงที่ duckingtiger.com/live
ในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง กับการแข่ง Tour de France ผ่านเส้นทางถนนหินเริ่มจากเมือง Arras ไปจบที่เมือง Roubaix ระยะทาง 157 กิโลเมตร ลองดูแผนที่ถนนหินกันก่อน
ถึงจะเป็นสเตจถนนหินแต่ต้องเข้าใจว่านี่ไม่ใช่ Paris-Roubaix ครับ ทางสั้นกว่าร่วม 100 กิโลเมตร มีช่วงถนนหินจริงๆ แค่ 21 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 15 ช่วง (sector) ถนนหินหลายๆ เซคเตอร์ไม่ได้ใช้เส้นทางเดียวกับ Roubaix แต่ก็มีบางอันที่ใช้ร่วมกัน เช่น Mons en Pevele หนึ่งในเซคเตอร์ที่ยากที่สุดใน Roubaix ด้วยเรตติ้งความยาก 5 ดาว ปกติใช้แข่งเต็มระยะ 3 กิโลเมตรใน Paris-Roubaix แต่ตัดมาใช้แค่ 900 เมตรในสเตจ 9 คืนนี้
จุดที่ยากที่สุดจะเป็น Camphin en Pevele ความยาก 4 ดาว แต่อยู่ในช่วง 20 กิโลเมตรสุดท้ายของสเตจ ลองดูพรีวิวเส้นทางแบบวิดีโอคร่าวๆ ของ Cyclingweekly ข้างล่างนี้
ถึงจะไม่ใช่ Paris-Roubaix แบบเต็มๆ แต่ก็เป็นสเตจถนนหินที่ยากที่สุดในตูร์ตั้งแต่เคยจัดมา ในปี 2015, 2014 และ 2010 ที่มีสเตจแบบนี้ ก็มีช่วงถนนหินยาวแค่ 13 กิโลเมตรเท่านั้น (แต่ถึงจะยาวแค่ 13 กิโลเมตร อันดับเวลารวมก็ห่างกันหลายนาที โดยเฉพาะในปี 2014 ที่นิบาลีนำห่างคู่แข่งจบสเตจด้วยอันดับสาม ทิ้งคอนทาดอร์และพินอท์ร่วมสองนาที ในขณะที่ฟรูมล้มเจ็บในสเตจนี้และต้องถอนตัวในที่สุด)
เพราะงั้นสเตจวันนี้น่าจะหนักว่าปีก่อนๆ พยากรณ์บอกว่าอากาศแห้ง ไม่มีฝน ไม่มีลม ก็คงจะไม่เละเทะอย่างปี 2014 ครับ ที่แน่ๆ คือกลุ่มจะขาดหลายช่วงและต้องมีตัวเต็งที่หลุดกลุ่มให้เห็นเสียเวลาหลายนาทีแน่นอน จะเป็นใครนั้นต้องติดตามกัน
ทั้งนี้เกมวันนี้ไม่ได้มีแค่กลุ่มตัวเต็ง GC ที่จะโดนชี้เป็นชี้ตาย แต่มีซับพล็อตอีกมากมายให้เราติดตามไม่ว่าจะเป็นการชิงแชมป์สเตจและความโกลาหลที่จะเกิดขึ้น ลองมาดูกันทีละส่วน
พล็อต 1 : ความอลหม่าน
ถ้าใครดูการแข่งช่วง Cobbled Classics ทุกปีคุณจะเห็นว่ามีนักปั่นชื่อดังหลายคนที่ไม่ได้มาลงแข่งครับ โดยเฉพาะพวกนักไต่เขาที่สภาพร่างกาย ผอมเพรียวบาง ไม่ทนต่ออากาศหนาวและพื้นถนนหินสุดสะเทือน รวมถึงสปรินเตอร์อีกมากมายที่ไม่คิดจะลงแข่งรายการนี้อยู่แล้ว อีกอย่างทั้งเปโลตองคนที่เป็น specialist ด้านทางวิบากจริงๆ มีน้อยมาก
ทั้งหมดนี้หมายความว่ามีนักปั่นหลายคนที่ไม่ชินเส้นทางวิบากแบบนี้ รวมถึงสตาฟฟ์ทีมที่ไม่ได้มีประสบการณ์ช่วยนักแข่งในสเตจถนนหินด้วย เพราะงั้นสำหรับหลายๆ คนสเตจนี้คือการเอาตัวรอดอย่างแท้จริง อุปสรรคใหญ่จะเป็นฝุ่นทรายที่คลุ้งตลบสำหรับคนที่อยู่กลุ่มหลัง หายใจลำบากและมองทางไม่เห็น
พล็อต 2: ศึก GC
สเตจ 9 จะเป็นวันที่ตัวเต็งหลายคนเสียเวลาได้หลายนาทีอย่างไม่ต้องสงสัย ในบรรดากลุ่ม GC ก็มีทั้งคนที่ต่อกรกับถนนหินได้ดีและไม่ค่อยจะดีเท่าไร คนที่น่าจะเจนเส้นทางแบบนี้ก็เช่น วาวเวอเด้ (Movistar), นิบาลี (Bahrain), ยุงเกลส์ (Quickstep), บาเดต์ (AG2R), โทมัส (Sky)
เกรดสองรองลงมาคงเป็น ฟรูม (Sky), ดูโมลาน (Sunweb) ส่วนพวก pure climber อย่างคินทานา (Movistar), แลนด้า (Movistar), มาร์ติน (UAE), พอร์ท (BMC), เยทส์ (Mitchelton) น่าจะลำบากหน่อย
ทำไมถึงจัดกรุ๊ปแบบนี้? เพราะนิบาลี วาวเวอเด้ และบาเดต์เคยทำผลงานได้ดีมากในสนามคลาสสิคครับ ส่วนฟรูมและดูโมลานมีผู้ช่วยเก่งๆ หลายๆ คนที่น่าจะประคองเขาไปด้วย โดยเฉพาะฟรูมที่มีทั้งโทมัส, มอสคอน, คาสโตรวิเอโญ่ และเควียทคอฟสกี้ พูดง่ายๆ Sky เป็นทีมที่ซัพพอร์ทสเตจถนนหินดีที่สุด ขึ้นอยู่กับฟรูมว่าจะพลาดเองหรือเปล่า
พล็อต 3: แชมป์สเตจ
นอกจากฝั่ง GC ที่ต้องเอาตัวรอดแล้วเรายังมีอีกหนึ่งศึกที่น่าลุ้นคือการชิงแชมป์สเตจ สำหรับทีมที่ไม่มีตัว GC ตูร์ปีนี้เรามี Top 8 ใน Paris-Roubaix 2018 มาลงแข่งครบทุกคน! อย่างไรก็ดี บางคนในที่นี้อาจจะต้องเปลี่ยนหน้าที่ไปช่วยเอซ GC ของทีมแทน แล้วใครจะมีลุ้นแชม์บ้าง?
ปีเตอร์ ซากาน (Bora) คือแชมป์ Paris-Roubaix คนปัจจุบันและเป็นผู้เชี่ยวชาญสนามคลาสสิค เขาน่าจะเล็งสเตจนี้เป็นพิเศษและด้วยฟอร์มการสปรินต์หรือการโซโล่เดี่ยวที่ดีขึ้นทุกปี ซากานเป็นคู่แข่งที่ต่อกรด้วยได้ยากมากโดยเฉพาะเวลาที่เขาฟอร์มดีพร้อมจะออกหนีกลุ่มปลิงที่คอยรอไปทุบหัวหน้าเส้นชัยได้
เกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ท (BMC) เป็นแชมป์ Roubaix ปี 2017 แต่อาจจะติดพันภาระที่ต้องคอยดูและริชีย์ พอร์ท อย่างไรก็ดี GVA อยู่ในเสื้อเหลืองและเป็นกัปตันทีมคนสำคัญ ทีมอาจจะปล่อยฟรีให้เขามีอิสระในการเดินเกมก็ได้ ซึ่งก็น่าจะสนุกกว่าครับ
แทบทุกคนใน Quickstep Floors มีโอกาสเก็บแชมป์สเตจนี้ บ็อบ ยุงเกลส์มีเป้า GC แต่เป็น all rounder ที่ลุยถนนหินได้สบาย, นิกี้ เทิร์ปสตร้าเคยได้แชมป์ในปี 2014 และยังไม่เคยได้แชมป์สเตจในตูร์, อีฟ แลมแพร์เป็นแชมป์ road race เบลเยียมถึงจะไม่ใช่ตัวแรงของทีมแต่ก็เคยชนะสนามคลาสสิครายการเล็กเช่นกัน ฟิลลิป จิลแบร์เรารู้ฝีมือดีอยู่แล้วสัปดาห์นี้เดินเกมแบบกร้าวๆ ไปหลายครั้ง เมื่อวานก็ด้วยที่หนีกลุ่มสปรินเตอร์ในช่วงสุดท้าย เป็นทีมที่น่าสนใจว่าจะเดินเกมยังไงบ้าง
ทาง EF Drapac ก็มีตัวเล่นเยอะไม่ว่าจะเป็นเทย์เลอร์ ฟินนีย์ และเซป ฟานมาร์ค (ลืมเขาไปหรือยัง?) แต่อาจจะต้องอยู่ช่วยอูราน
Astana มีไมเคิล วาลเกรนแชมป์ Omloop ซึ่งน่าจะออกเล่นได้เพราะยาค็อบ ฟูลก์แซงไม่มีปัญหากับถนนหิน เหมือนที่เขาเคยพานิบาลีแหวกกลุ่มคว้าที่สามในปี 2014
คนอื่นๆ ที่น่าจับตามองก็เช่นอานอด์ เดอมาร์ (FDJ), เอ็ดวาลด์ บอสซัน ฮาเก็น (Dimension Data), อเล็กซานเดอร์ คริสทอฟ (UAE), และ เยนส์ เคอคิวแลร์ (Lotto-Soudal)
ถามว่าใครจะแชมป์สเตจคงตอบได้ยากเหมือนกัน ซากาน, GVA น่าลุ้น Quickstep ก็คงร้ายกาจ และถ้าเดินเกมได้สามัคคีแบบ The Wolf Pack ยอมตายแทนกันได้ แชมป์คงไม่พ้นทีมเสื้อน้ำเงินนี้ และที่แน่ๆ ผมว่าวันนี้เราจะรู้ว่าใครจะเป็นผู้นำทีม Movistar ที่แท้จริงครับ 5555
