สเตจ 3 Giro d’Italia คืนนี้มีการพลิกเกมกันเล็กน้อย เมื่อเอเลีย วิวิอานี (Deceuninck-QuickStep) แชมป์เสือหมอบคว้าแชมป์สเตจ สปรินต์เอาชนะเฟอร์นันโด กาวิเรีย (UAE) และอานอด์ เดอมาร์ (FDJ) ที่เส้นชัยในเมือง Orbetello แต่ถูกปรับลดอันดับ (relegated) จากที่เบี่ยงไปเบียดแมทเทโอ มอสเชตี้ (Trek-Segafredo) ที่ 100 เมตรสุดท้ายจนคู่แข่งเสียหลัก
ตามกฏ UCI แล้วการเบี่ยงไลน์สปรินต์ของวิวิอานีจนเกือบจะทำให้คู่แข่งล้มได้รับบาดเจ็บถือเป็นการละเมิดกฏ รางวัลผู้ชนะสเตจจึงตกเป็นของเฟอร์นันโด กาวิเรีย ที่ได้อันดับสองในทีแรก เดอมาร์เลื่อนขึ้นมาเป็นอันดับสาม และปาสคาล แอคเคอร์แมน (Bora-Hansgrohe) ที่ได้อันดับสี่ทีแรก เลื่อนขึ้นมาเป็นอันดับสาม
ส่วนวิวิอานีถูกปรับอันดับใหม่ให้ได้เวลาเท่ากับกลุ่มที่สองที่ตามเข้าเส้นชัย (+13 วินาที) นั่นหมายความว่าเขาก็ไม่ได้คะแนนเจ้าความเร็วด้วย
กาวิเรียขึ้นนำคะแนนในประเภทเจ้าความเร็ว เป็นเจ้าของเสื้อเจ้าความเร็วคนใหม่แทนแอคเคอร์แมน
วิดีโอไฮไลท์
สเตจ 3 วันนี้เส้นทางยาว 220 กิโลเมตรและมีลมต้านตลอดเส้นทางไปจนถึงเส้นชัย ทำให้เบรกอเวย์ถูกรวบจับตั้งแต่ก่อน 30 กิโลเมตรสุดท้าย นักแข่งต้องเจอโค้งรูปตัว S ที่ 500 เมตรสุดท้าย ทำให้ทีมสปรินเตอร์หลายทีมเสียจังหวะและรูปขบวนลีดเอาท์ แต่เอซสปรินเตอร์จากทั้ง Quickstep, FDJ, UAE, Bora และ Trek-Segafredo หลุดมาในกลุ่มหน้า
แอคเคอร์แมนเป็นคนแรกที่เปิดสปรินต์ที่ประมาณ 300 เมตรสุดท้าย วิวิอานีไล่ตามล้อแอคเคอร์แมนแล้วฉีกออกทางซ้าย หลังจากที่แอคเคอร์แมนแรงแผ่วปลาย แต่ไปเบียดกับสปรินเตอร์จาก Trek-Segafredo ส่วนกาวิเรียพุ่งสวนออกมาตรงกลาง แต่อยู่ห่างเกินไป พ่ายให้วิวิอานีไปครึ่งล้อ สุดท้ายวิวิอานีโดนปรับฟาวล์ และกาวิเรียเป็นแชมป์สเตจแทน กาวิเรียกล่าวหลังแข่ง
“ผมเสียใจที่วิวิอานีโดนลดอันดับ ผมว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ ตอนเขาฉีกออกมาเขาไม่ได้มองข้างหลัง ก็คงไม่เห็นที่ไปเบียดคนอื่น ส่วนตัวผมยังคิดว่าเขาเป็นผู้ชนะสเตจวันนี้”
“มันเป็นคำตัดสินที่รุนแรงเหมือนกันนะ ผมไม่ชอบที่ได้ชัยชนะแบบนี้ ถ้าว่ากันด้วยการสปรินต์จริงๆ วันนี้ผมแพ้ให้วิวิอานี เขาเป็นสปรินเตอร์ชั้นเยียมและผมเสียใจแทนเขา”
ส่วนผู้นำเวลารวม พริมอซ โรจ์ลิค (Jumbo-Visma) เข้าเส้นชัยอย่างปลอดภัย แต่ไม่ใช่กับตัวเต็ง GC ทุกคนเมื่อ เทโอ โกเกน ฮาร์ท (INEOS) ติดขบวนนักปั่นที่ล้มที่ราวๆ 5 กิโลเมตรสุดท้าย และไล่กลับเข้ากลุ่มเปโลตองไม่ทัน โกเกน ฮาร์ทเสียเวลาไปถึง +1:28 นาที ทำให้อันดับเวลารวมเขาตามหลังโรจ์ลิค +2:03 นาที นักปั่น IENOS ที่เวลารวมดีที่สุดตอนนี้ก็คือพาเวล ซิวาคอฟ ที่ + 1:01 นาที รั้งอันดับเวลารวมที่ 19
อีกหนึ่งคนที่เสียเวลาก็คือริชาร์ด คาราพาซ กัปตันทีม Movistar ที่จักรยานมีปัญหา และเสียเวลาไป +46 วินาที
ผลการแข่งขัน
พรีวิวสเตจ 4: Orbetello > Frascati
สเตจ 4 น่าสนใจครับ หลังจากสปรินต์กันมาสองสเตจ วันนี้กลับมาสู่เส้นทางภูเขา และเนินชันกันแล้ว ภูเขาส่วนใหญ่ไม่ได้สูงมากนัก แต่ช่วง 20 กิโลเมตรสุดท้ายเป็นทางขึ้นตลอด (แต่เอาจริงๆ elevation difference ก็ไม่ได้เยอะเท่าไร
ประเด็นคือเส้นชัยอยู่บนยอดเนินครับ
2.2 กิโลเมตรที่ชันเฉลี่ย 4.5% เพราะงั้นตัดสปรินเตอร์ตัวใหญ่ๆ ทิ้งไปได้เลย และเป็นสเตจที่ระยะทางค่อนข้างไกลด้วย น่าสนใจว่าทีม Jumbo-Visma ของโรจ์ลิคจะคุมเกมสเตจนี้ยังไง จะปล่อยให้เบรกอเวย์หนีมั้ย? (เพราะเส้นทางก็ดูเหมาะกับเบรกอเวย์ที่จะหนีได้รอดเหมือนกัน โดยเฉพาะทีมที่ไม่มีตัว GC และสปรินเตอร์)
เนินสุดท้ายที่ยาว 2.2 กิโลเมตร โปรไฟล์ออกมาคล้ายๆ เนินในสนามคลาสสิค ก็จะเหมาะกับพวกสายระเบิดเนิน แต่ถ้าทีม GC เล่นชิงเวลากัน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงก็อาจจะเป็นการแย่งชินแชมป์สเตจของตัวเต็ง GC ครับ เพราะที่เส้นชัยก็มี time bonus ให้แชมป์สเตจถึง 10 วินาทีด้วย
มีนักปั่นคนไหนน่าลุ้นสำหรับสเตจนี้ ถ้าเราเริ่มจากตัวที่ไม่ใช่ GC ผมว่าน่าดู:
- อเล็กซิส วิวเยอร์มอซ (AG2R)
- ดิเอโก้ อูลิซซี (UAE)
- ยอน อิซาร์เกอเร (Astana)
- ดาวิเด้ ฟอร์มโมโล (Bora-Hansgrohe)
- ฟลอเรียน เซเนชาล (Quickstep)
- ซาช่า โมโดโล (EF Education First)
- เอนริโค บาทากลีน (Katusha-Alpecin)
ถ้า GC รวบกลุ่มหนี ตัว GC ที่ขึ้นเนินสั้นไวๆ ก็จะเป็น ไซมอน เยทส์ (MTS), มิกูเอล โลเปซ (Astana), พริมอซ โรจ์ลิค (Jumbo-Visma), ริชาร์ด คาราพาซ (Movistar) จริงๆ ดูโมลาน (Sunweb) ก็ชอบเขาที่ไม่ยาวมากด้วยเหมือนกัน เป็นอีกสเตจที่น่าดูครับ (และคงไม่ชวนง่วงเหมือนสเตจ 3!!)
ถ่ายทอดสดจาก 18:00-22:30 ลิงก์รรับชมถ่ายทอดสดที่ duckingtiger.com/live