ผลงาน 2018: ดูโมลานกู้ทีม
ดูจากกราฟผลงานจะเห็นว่า Sunweb เป็นทีมที่ชนะไม่เยอะเท่าไรครับ เกือบท้ายตาราง ชนะรวมแค่ 11 ครั้งตลอดทั้งปี
แต่! ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าเป็นผลงานที่คุณภาพสูง นั่นคือชัยชนะ 8 ครั้งจาก 11 นั้นเป็นผลงานในสนามระดับ WorldTour (ระดับสูงสุดที่ทีมเข้าแข่งขันส่วนใหญ่เป็นทีมดิวิชัน 1) และได้โพเดียมแกรนด์ทัวร์ถึงสองครั้ง ถ้าลองเทียบกับทีมอื่นจะเห็นว่าสัดส่วนชัยชนะรวมต่อชัยชนะระดับ WT นั้น Sunweb นี่สูงที่สุดเลย อย่าง Quickstep ถึงจะชนะตั้ง 73 ครั้ง แต่กว่าครึ่งไม่ได้มาจากสนามดิวิชัน 1 พูดง่ายๆ คือชนะไม่เยอะ แต่ชนะคุณภาพ!
ผลงานกู้หน้าของทีมมาจาก ทอม ดูโมลาน กัปตันทีมที่ได้อันดับ 2 ทั้งใน Giro และ Tour de France เป็นการยืนยันอย่างกลายๆ ว่าดูโมลานคือนักแข่งแกรนด์ทัวร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในชั่วโมงนี้ (ที่ไม่ได้อยู่ทีม Sky)
ใน Vuelta ทีมส่งวิลโค เคลเดอร์แมนไปลงแทน ซึ่งก็ได้ Top 10 กลับมาแต่ไม่ติดโพเดียม พ้นแกรนด์ทัวร์ไปก็แทบไม่มีผลงานในสเตจเรซอื่นๆ เลย แต่นั่นอาจจะเพราะทีมทุ่มเทให้ Giro และ Tour เป็นหลัก เมื่อเทียบกับงบทำทีมที่ไม่เยอะเท่าไร ก็นักปั่นในทีมที่อาจจะไม่ใช่เลเวลเดียวกับ Quickstep/ Sky/ Movistar แล้วก็ถือว่าเป็นการบริหารทรัพยากรที่ไม่เลว
ฝั่งสนามคลาสสิคก็ไม่มีผลงานเช่นกัน นั่นก็เพราะตัวเต็งไมเคิล แมธธิวส์ล้มบาดเจ็บก่อนจะได้ลงแข่งรายการใหญ่ และอีกปัจจัยที่ทีมทำอะไรไม่ได้ก็คือ Quickstep ฟอร์มดีเป็นพิเศษ กวาดแชมป์คลาสสิคเกือบทุกรายการครับ
ปี 2019 จะเป็นยังไง?
Sunweb เป็นทีมที่ความทะเยอทะยานสูง แต่ถูกจำกัดด้วยทรัพยากร (เงิน!) อย่างเห็นได้ชัดครับ ซึ่งมันก็ฟ้องในผลงานที่ออกมาอย่างที่เราเห็นกัน นั่นคือทีมมีงบสร้างและจ้างนักปั่นดีๆ ไม่มาก ผลก็คือทีมมีตัวเต็งอยู่ 2-3 คนแต่ไม่มีคนช่วยเหลือตัวเต็งพวกนี้ ทำให้มีชัยชนะรวมไม่เยอะ แต่ถ้าชนะก็จะเป็นรายการใหญ่ๆ เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ซึ่งก็เป็นแผนการทำทีมที่ไม่เลวครับ
อย่างในเคสดูโมลาน ก็จะเห็นว่าทีมลงทุนกับทอมไปมาก ในสัดส่วนงบค่าจ้างนักปั่นทอมคนเดียวน่าจะกินไปอย่างน้อย 35-40% ของเงินค่าจ้างนักปั่นคนอื่นๆ ในทีม ยิ่งเขาผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ ค่าตัวก็จะยิ่งสูงขึ้น ถ้าทีมอยากรั้งเขาไว้ก็ต้องใช้งบมาแบ่งให้ทอมมากกว่าคนอื่น ทีมฉลาดที่รีบเซ็นสัญญาระยะยาวไว้ตั้งแต่เขาได้แชมป์ Giro ปี 2017 ที่ทำสัญญายาวไปถึง 2021 (ระหว่างนี้ถ้าชนะเพิ่มขึ้นค่าตัวก็ยังเท่าเดิม ยกเว้นจะมีโบนัสต่างหากให้)
การที่ทอมกินงบทีมไปเยอะก็หมายความว่าทีมไม่มีเงินพอจะทุ่มงบจ้างผู้ช่วยประสบการณ์สูงหรือฟอร์มแรง (ดูทีม Sky เป็นตัวอย่าง) มันทำให้นักปั่นดาวรุ่งของทีมอย่างเคลเดอร์แมน และแซม อูเมน ไม่มีโอกาสได้ลงแข่งรายการใหญ่เพื่อเก็บประสบการณ์และสร้างความมั่นใจ กลายเป็นว่าต้องมาปั้นฟอร์มช่วยทอมในฐานะโดเมสติกแทน ปีที่แล้วทอมลง Giro-Tour ปีนี้ก็จะลง Giro-Tour ควบอีก เพราะงั้นทีมจะไปหวังยอดชัยชนะจากนักปั่นคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ สิ่งที่ทีมพอจะทำได้ก็คือสร้างฐานนักปั่นรุ่นใหม่ๆ เข้าไว้ แล้วทุ่มหมดหน้าตักให้ทอมคนเดียว
สถานการณ์ตอนนี้คือถ้าทอมยังอยากลงแกรนด์ทัวร์คู่ เอซคนอื่นก็ต้องตามทอม ซึ่งมันก็มีความเสี่ยงครับ เพราะถ้าเกิดเจ้าตัวมีปัญหาอะไรขึ้นมา จะป่วย จะล้ม แข่งไม่จบ ก็เท่ากับทุบโอกาสเอซคนอื่นไปด้วย กัปตันทีมและผู้ช่วยซ้อมให้ฟอร์มพีคไม่เหมือนกัน นั่นคือทุกอย่างอยู่ที่ทอมละ ถ้าทำได้ดีเหมือนปีที่แล้วก็ไม่มีปัญหา
ตอนนี้ทีมมีนักปั่นที่น่าจะช่วยทอมได้ดีอยู่ 2-3 ไมเคิล สตอร์เรอและคริส ฮามิลตันที่ดูจะปั่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะผู้ช่วยทีม แล้วก็ได้นิโคลาส โรชมาจาก BMC คนนี้ประสบการณ์ในแกรนด์ทัวร์โชกโชน ก่อนจะอยู่ BMC ก็สังกัด Sky และ Tinkoff มาก่อน ช่วยมาแล้วทั้งฟรูมและคอนทาดอร์
นอกจากสเตจเรซแล้ว Sunweb เจอสถานการณ์เดียวกันในสนามประเภทอื่นๆ ครับ นั่นคือเกมสปรินต์และสนามคลาสสิค ซึ่งมีตัวพึ่งคนเดียวคือไมเคิล แมธธิวส์ ก็ดีหน่อยตรงที่แมธธิวส์รับบทได้ทั้งสปรินเตอร์ (เกรด B) และตัวเต็งคลาสสิคโดยเฉพาะในสนามอาร์เดนส์ และแน่นอนว่าล่าสเตจในแกรนด์ทัวร์ได้ด้วย
แต่ก็ชัดเจนว่าแมธธิวส์จะหวังพึ่งลีดเอาท์ดีๆ อย่าง Quickstep ไม่ได้ เพราะพวกหัวลากที่ทีมปั้นมาให้มาร์เซล คิทเทลก็ย้ายหนีกันไปหมดแล้ว ส่วนคนที่กำลังปั้นอยู่อย่าง ฟิล เบวเฮาส์, นิคิอัส อานท์ และเอ็ดเวิร์ด เทิร์นส์ก็ยังไม่ได้รูปได้รอยเท่าไร
คนไหนน่าจับตามอง?
ทีมมีม้ามืดคนนึงที่กำลังเริ่มฉายแววครับ นั่นคือโซเรน แอนเดอร์เซ็น นักปั่นชาวเดนมาร์ควัย 24 ปีที่ปีที่แล้วติด Top 10 รายการใหญ่หลายรายการไม่ว่าจะเป็น BinckBank Tour, Tour de Fjords, และได้แชมป์สเตจใน Tour de Suisse กับเป็นแชมป์รายการ Paris-Tours ที่ความยากจัดว่าเป็นน้องๆ Paris-Roubaix คนนี้เป็นนักปั่นสไตล์ Rouleur นั่นคือรอบด้าน เหมาะกับสนาม cobbled classics น่าดูว่าจะทำได้ดีขนาดไหน
