9 นักปั่นที่น่าจับตามองใน Tour of California

สัปดาห์นี้นอกจากสนามจิโรแล้วเรายังมีอีกหนึ่งรายการใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา: Amgen Tour of California ซึ่งจะแข่งกันวันที่ 11-18 พฤษภาคมนี้ เป็นรายการที่น่าสนใจทีเดียวเพราะดารานักปั่นชื่อดังมาลงแข่งกันอย่างคับคั่ง โพสต์นี้ DT จะพรีวิวเส้นทางคร่าวๆ พร้อมกับนักปั่นที่น่าจับตามอง

The Amgen Tour of California

รายการนี้จัดมาแล้ว 9 ครั้งและเป็นสนามแข่งในอเมริกาที่โด่งดังที่สุดก็ว่าได้ เส้นทางก็น่าสนใจทีเดียวมีทั้งสเตจภูเขาสูงชันผสมกับสเตจทางราบลมแรง แข่งกันทั้งหมด 8 วันกับระยะทางราวๆ 1,100 กิโลเมตร ปั่นไปรอบรัฐแคลิฟอร์เนียผ่านเมืองเนวาดา เลาะชายฝั่งแปซิฟิค เข้าสู่ภูเขาเซียรา เนวาดา รายการนี้ดึงดูดโปรจากยุโรปมาร่วมแข่งคับคั่งแทบทุกปีในปีนี้ก็เช่นกัน มาดูกันว่าเอซตัวเด่นๆ ปีนี้มีใครบ้าง

Cav Turkey

1. Mark Cavendish (OPQS): พี่มาร์กลงแข่งรายการนี้ครั้งล่าสุดเมื่อ 4 ปีก่อนแต่ก็เคยคว้าแชมป์สเตจมาแล้วสองครั้ง คราวนี้กลับมาอีกครั้งเพื่อเอาใจสปอนเซอร์จักรยานอเมริกัน Specialized และน่ามีลุ้นเพิ่มยอดสเตจวินอีกแน่นอนเพราะ OPQS ส่ง A-Team มาช่วยทั้ง Tom Boonen, Mark Renshaw, Matteo Trentin, Peter Velits และ Niki Terpstra

Cali Sagan

2. Peter Sagan (Cannondale): Sagan นี่เรียกได้ว่าเป็น “เจ้าพ่อ” Tour of California เพราะเป็นนักปั่นที่ได้แชมป์รายการนี้เยอะที่สุดถึง 10 สเตจ! ในปี 2012 เขาเก็บได้ถึง 5 สเตจ (จากทั้งหมด 8) เลยทีเดียว เรียกได้ว่ามาลงแข่งปีไหนก็ต้องมีแชมป์สเตจกลับบ้านทุกปี ปีนี้ก็ไม่น่าจะยากเกินแรงเช่นกัน อีกอย่าง Cannondale ก็คงดีใจไม่น้อยที่จะได้ผลงานโชว์ออกทีวีถึงถิ่นของตัวเองครับ

Adam Yates

3. Adam Yates (OGE): นีโอโปรจาก GreenEdge ที่เดบิวต์ผลงานชิ้นใหญ่เมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยการคว้าแชมป์ Tour of Turkey คราวนี้มากับน้องชาย Simon Yates ด้วย เป็นนักไต่เขาฝีเท้าดีและน่าจะทำผลงานได้ในรายการนี้

Cali Voigt

4. Jens Voigt (Trek): น้าเยนส์ผู้เป็นที่รักของเรา ได้แชมป์สเตจรายการนี้มาแล้วสองครั้ง ปีที่แล้วโซโลเดียวครึ่งสเตจเข้าเส้นชัยไปแบบเก๋ๆ ครั้งนี้จะเป็นการแข่งครั้งสุดท้ายใน Tour of California ของแกก็เดาได้ว่าคงจะออกเบรคอเวย์เท่ห์ๆ ให้เราได้ชมกันแน่นอ

Cycling: 66th Kuurne - Brussels - Kuurne 2014

5. Moreno Hofland (Belkin): อีกทีมที่ต้องเอาใจสปอนเซอร์อเมริกัน (Belkin) และ Hofland สปรินเตอร์ดาวรุ่งวัย 21 ปีของทีมก็น่าจะช่วยงานนี้ได้ดีที่สุด ปีนี้ก็ฟอร์มดีใช้ได้ชนะมาหลายสนามทั้งสเตจใน Vuelta Andalucia และ Paris-Nice ส่วนผลงาน Overall เป็นหน้าที่ของ Lauren Tendams นักไต่เขาประจำที

Phinney Got it

6. Taylor Phinney (BMC): เป้าหมายของ Phinney คือแชมป์สเตจ Time Trial อย่างไม่ต้องสงสัย ถึง Phinney จะไม่ค่อยได้ลงรายการนี้แต่ก็เป็นความหวังของทีม BMC คู่กับ Peter Stetina ที่ต้องเอาใจสปอนเซอร์สักหน่อย (BMC เป็นบริษัทจากสวิสแต่มีฐานของทีมอยู่ที่อเมริกา)

Wiggins

7. Sir Bradley Wiggins (Sky): เมื่อ 20th Century Fox เข้ามาเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ให้ทีม Sky แน่นอนว่าทีมต้องออกมาเก็บผลงานในฝั่งอเมริกาบ้าง ปีนี้ถึงกับส่งท่านเซอร์วิกโกมาเอง หลังจากติด Top 10 ใน Paris-Roubax ซึ่งแทบไม่มีแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์คนไหนเคยทำได้มาร่วมสิบกว่าปี ปีนี้เซอร์แบรดต้องการจะติดผังทีมตูร์ของ Sky ให้ได้เราก็น่าจะได้เห็นเซอร์พยายามเก็บอันดับ GC ต้นๆ ของรายการครับ

Rohan Dennis

8. Rohan Dennis (Garmin): สำหรับการ์มินเรียกได้ว่าสนามนี้เป็นการแข่งในถิ่นตัวเอง (และก็ต้องเอาใจสปอนเซอร์ด้วย) เอซของทีมเป็น Rohan Dennis ชาวออสซีวัย 23 ปี คู่กับ Tom Danielson ผลงานชิ้นโบว์แดงคือคว้าเสื้อผู้นำใน Paris-Nice ปีก่อน จับตาดู Dennis ในสเตจ 2 Time Trial ซึ่งเป็นทักษะที่เขาถนัดเป็นพิเศษ

Cali Degencolb

9. John Degenkolb (Giant): แชมป์ Gent-Wevelgem, อันดับสอง Paris-Roubaix และ Top 10 อีก 17 รายการ เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีทองของ Degenkolb เลยก็ว่าได้ งานนี้ Cavendish, Sagan คงไม่ได้สปรินต์กันฟรีๆ แน่ๆ เพราะ Giant ขนลีดเอาท์เท้าทองมาช่วย Degenkolb แบบเต็มที่

 

ถ่ายทอดสด

รายการนี้ถ่ายทอดสดทาง Eurosport ทุกวันเวลา 04:00-7:00 / ลิงก์ถ่ายทอดสดที่ www.duckingtiger.com/live (ใช้ลิงก์เดียวกับ Giro)

รายชื่อนักปั่น: 2014 Amgen Tour of California Startlist 

 

สเตจพรีวิว

Stage 1: เส้นทาง120 กิโลเมตรผ่านภูเขาคั่นกลางและน่าจะจบด้วยการสปรินต์
Stage 1: เส้นทาง120 กิโลเมตรผ่านภูเขาคั่นกลางและน่าจะจบด้วยการสปรินต์
Stage 2: Time Trial 20 กิโลเมตร น่าจะจัดอันดับผู้นำ GC ได้ชัดเจนในสเตจนี้
Stage 2: Time Trial 20 กิโลเมตร น่าจะจัดอันดับผู้นำ GC ได้ชัดเจนในสเตจนี้
Stage 3: สเตจภูเขาสุดโหดที่เริ่มบนจากการปีน Mt. Hamilton และจบบน Mt. Diablo
Stage 3: สเตจภูเขาสุดโหดที่เริ่มบนจากการปีน Mt. Hamilton และจบบน Mt. Diablo
Stage 4: 165 กิโลเมตรบนเส้นทางที่มีภูเขาชัน 3 ลูก เหมาะแก่การเบรคอเวย์เป็นอย่างยิ่ง จับตาดู Jens Voigt
Stage 4: 165 กิโลเมตรบนเส้นทางที่มีภูเขาชัน 3 ลูก เหมาะแก่การเบรคอเวย์เป็นอย่างยิ่ง จับตาดู Jens Voigt
สเตจ 5: สำหรับสปรินเตอร์ แต่เขาลูกสุดท้ายที่อยู่ห้างเส้นชัยไปไม่มากอาจจะเป็นอุปสรรคต่อขาแรงบางคนก็ได้?
สเตจ 5: สำหรับสปรินเตอร์ แต่เขาลูกสุดท้ายที่อยู่ห้างเส้นชัยไปไม่มากอาจจะเป็นอุปสรรคต่อขาแรงบางคนก็ได้?
Stage 6: Queen Stage จบบนยอด Mt. High จุดที่สูงที่สุดในการแข่งปีนี้และน่าจะเห็นตัวเต็งผู้ชนะขึ้นนำห่าง
Stage 6: Queen Stage จบบนยอด Mt. High จุดที่สูงที่สุดในการแข่งปีนี้และน่าจะเห็นตัวเต็งผู้ชนะขึ้นนำห่าง
สเตจ 7: อีกหนึ่งสเตจสำหรับเบรคอเวย์บนยอด Santa Clarita กับการปีนเขากว่า 142 กิโลเมตร O_O ถ้า GC คนไหนพลาดบน Mt.High ก็ต้องมาแก้ตัวกันที่นี่
สเตจ 7: อีกหนึ่งสเตจสำหรับเบรคอเวย์บนยอด Santa Clarita กับการปีนเขากว่า 142 กิโลเมตร O_O ถ้า GC คนไหนพลาดบน Mt.High ก็ต้องมาแก้ตัวกันที่นี่
Stage 8: เซอร์กิตเรซปิดการแข่งให้สปรินเตอร์ได้ประลองกำลังกันเป็นครั้งสุดท้าย
Stage 8: เซอร์กิตเรซปิดการแข่งให้สปรินเตอร์ได้ประลองกำลังกันเป็นครั้งสุดท้าย

แชมป์เก่า

2006: Floyd Landis
2007: Levi Leipheimer
2008: Levi Leipheimer
2009: Levi Leipheimer
2010: Michael Rogers
2011: Chris Horner
2012: Robert Gesink
2013: Tejay Van Garderen

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

1 comment

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *