Astana อาจจะไม่ใช่ทีมที่เรา “เข้าถึง” ได้ง่ายเหมือนอย่างทีม Sky และ Orica-GreenEdge ที่ขยันทำสื่อต่างๆ บทสัมภาษณ์และวิดีโอเบื้องหลังทีมมาให้เราได้ชมกันบ่อยๆ แต่ในตูร์ เดอ ฟรองซ์ปีนี้ทีม Astana เขาขนช่างภาพและทีมโปรดักชันฝีมือดีมาเก็บภาพบรรยากาศการทำงานของสตาฟในทีมตั้งแต่ผู้จัดการ โค้ช เชฟ ไปจนถึงช่างประจำทีมครับ ตัดต่อได้ดีมาก ลองไปชมกัน ☺
The best team from Asia
Astana (อัสตานา) คือเมืองหลวงของประเทศคาซัคสถานซึ่งอยู่ในทวีปเอเชียกลาง อาจจะสงสัยว่าทำประเทศในเอเชียถึงกลายมาเป็นชื่อทีมใหญ่ที่ลงแข่งเสือหมอบในสนามยุโรป? ขอย้อนรอยให้ฟังนิดนึงครับ ประเทศคาซัคสถานนั้นเคยเป็นสมาชิกของสภาพโซเวียต (ก่อนที่จะล่มสลายในสมัยสงครามเย็น) ซึ่งในช่วงที่สหภาพโซเวียตกำลังรุ่งเรืองนั้น กีฬาจักรยานหลายๆ ประเภทโดยเฉพาะจักรยานลู่และจักรยานถนนเป็นกีฬาที่รัฐให้เงินสนับสนุน ทำให้ประเทศเหล่านี้มีนักปั่นฝีเท้าดีหลายคน
สหภาพโซเวียตนั้นจัดแข่งกีฬาภายในสหภาพทุกๆ ปีทำให้นักปั่นจากหลายๆ ชาติได้เข้าแข่งประลองแข้งกัน นักจักรยานเองก็เช่นกัน แต่แทบทุกปีนักปั่นจากคาซัคสถานมักจะเป็นแชมป์รายการเสมอ ทำไม? ก็เพราะว่าคาซัคสถานตั้งอยู่ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศในยุโรปตะวันออกซึ่งแปลว่าสภาพอากาศนั้นก็เหมาะสมสำหรับการฝึกซ้อมตลอดทั้งปี และฐานะก็ถือว่ามั่งมีกว่าหลายๆ ประเทศในสหภาพทำให้เขาสามารถสปอนเซอร์อัดฉีดทั้งเรื่องรายได้และอุปกรณ์ให้นักกีฬาได้อย่างต่อเนื่อง ผลคือนักปั่นจากคาซัคก็เลยเก่งกว่าชาติอื่นๆ จนเป็นเรื่องธรรมดาในวงการที่นักปั่นคาซัคจะเก็บแชมป์รายการทั้งระดับท้องถิ่นและนานาชาติได้ทั่วยุโรปตะวันออก
เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายไป คาซัคสถานพยายามหาอัตลักษณ์ใหม่ของตัวเองหลังจากที่ได้รับอิสระภาพ แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต ประเทศเลยทุ่มเงินที่ได้จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบในการสร้าง “เมืองใหม่” ให้เป็นที่ยอมรับในสายตาชาวโลกด้วยการสร้างตึกสูงระฟ้าไฮเทค ที่มีสถาปนิกชื่อดังหลายคนอย่างนอร์แมน ฟอสเตอร์เป็นผู้ออกแบบให้
แต่เรื่องที่แปลกประหลาดกว่าประเทศอื่นๆ ก็คือรัฐบาลคาซัคสถานตั้งใจจะสร้างทีมจักรยานอาชีพเพื่อใช้เป็นฑูตวัฒนธรรม โชว์สปิริตและความสำเร็จในด้านกีฬาและจิตวิญญาณนอกเหนือไปจากความสำเร็จทางด้านการเงิน ตั้งแต่ที่สหสภาพโซเวียตล่มสลายไป การแข่งขันภายในสหภาพก็หายไปด้วย แต่นักกีฬาไม่ได้หายไปไหน และโครงสร้างต่างๆ ที่ช่วยซัพพอร์ทนักกีฬาก็ยังอยู่ครบทั้งสถานที่ฝึกซ้อมและทีมงานซัพพอร์ทอย่างผู้จัดการและโค้ช เลยเป็นที่มาของ “Astana Pro Team” และนักปั่นคนสำคัญของทีมในตอนที่ทีมตั้งขึ้นในปี 2007 ก็คืออเล็กซานเดอร์ วิโนคูรอฟนั่นเองครับ
วิโนคูรอฟสร้างผลงานให้ทีมมากมาย ทั้งแชมป์สเตจในตูร์, แชมป์รายการแข่งวันเดียวชื่อดังอย่าง Liege-Bastonge-Liege ผลงานสุดท้ายคือเหรียญทองโอลิมปิก Road Race ที่ทำลายฝันมาร์ค คาเวนดิชกลางกลุงลอนดอนในปี 2012 วิโนคูรอฟรีไทร์และผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีม Astana เต็มตัวในฤดูกาลถัดมา
Astana กลายเป็นทีมยอดฝีมือในระดับดิวิชัน 1 ที่เคยมีนักปั่นตัวพ่ออย่างแลนซ์ อาร์มสตรองและอัลเบอร์โต คอนทาดอร์ ถึงแม้ทีม Astana จะประสบปัญหาหลายอย่างทั้งเรื่องการโด้ป (ของวิโนคูรอฟนั่นหละ) แต่ก็ได้มีการเปลี่ยนทีมบริหารงานใหม่ยกชุด จนในที่สุดซื้อตัวเอซคนสำคัญ วินเชนโซ นิบาลิมาจาก Liquigas-Cannondale มาเข้าประจำการในฤดูกาล 2013 ซึ่งเป็นปีที่เขาได้แชมป์ Giro d’Italia เป็นครั้งแรก
นอกจากจะมีนิบาลิเป็นหัวหน้าแล้ว สมาชิกของทีมก็ค่อนข้างจะออกไปทางยุโรปตะวันออก ถึงจะมีตัวเล่นหลักๆ เป็นชาวอิตาเลียนอย่างนิบาลิและฟาบิโอ อารู (ที่ 3 จิโรปีนี้) สมาชิกส่วนใหญ่ของทีมอีกครึ่งเป็นชาวคาซัคสถานคละกับรัสเซีย ล่าสุดทีมเพิ่มนักปั่นจากขาแรงจากชาติอื่นๆ ด้วยเช่นยาค๊อบ ฟูลก์แซง (เดนมาร์ก) และลีเว เวสตรา (เนเธอร์แลนด์) ที่เป็นตัวช่วยสำคัญของนิบาลิในทุกๆ แกรนด์ทัวร์ จากนั้นก็เปลี่ยนเป้าหมายเป็นทำอย่างไรก็ได้ให้นิบาลิได้แชมป์แกรนด์ทัวร์รายการใหญ่ที่สุดในโลกอย่างตูร์และจิโร แล้วก็ทำได้จนสำเร็จในที่สุดเมื่อนิบาลิกลายเป็นนักปั่นคนที่หกของโลกที่ครองแชมป์แกรนด์ทัวร์ทั้งสามรายการครับ
ถ้าสนใจเรื่องราวของเมืองอัสตานาและประเทศคาซัคสถานแนะนำบทความนี้ของ CNN ครับ Astana: The world’s weirdest capital city
