เป็นครั้งที่สามที่เฟเบียน แคนเชอลารา กัปตันทีม Trek-Segafredo ขึ้นครองแชมป์รายการ Strade Bianche ที่อิตาลี
ถึงแม้จะโดนทีม Etixx-Quickstep ที่มีตัวเต็งถึงสองคนรุมทำเกมตัดกำลังในช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน แคนเชอลาราอาศัยการตัดสินใจที่เฉียบคมและจังหวะไหวพริบ ไล่ขึ้นแซงจิอันลูคา แบรมบิลล่าและชเน็ค สตีบาร์ แชมป์เก่าปี 2015 พร้อมสลัดแชมป์โลกคนปัจจุบัน ปีเตอร์ ซากาน (Tinkoff) ชิงหนีเข้าเส้นชัยเป็นแรกหลังจากตีคู่กับสตีบาร์มาจนถึง 100 เมตรสุดท้าย
จัดว่าเป็นชัยชนะที่สูสีที่สุดในสนาม Strade Bianche เมื่อแบรมบิลล่า ออกกระชากหนีกลุ่มเบรคอเวย์ตัวเต็ง และหนียาวไปจนถึง 400 เมตรสุดท้าย ขณะเดียวกัน สตีบาร์เพื่อนร่วมทีมก็ตามประกบแคนเชอลาราไม่ปล่อย
“ผมดีใจมากครับ ผมพยายามจะไม่ปล่อยให้แบรมบิลล่าหนีไปได้ไกล ผมไล่จับเขาจนอยู่ พยายามจนถึงวินาทีสุดท้าย”
สตีบาร์เข้าเส้นชัยมาพร้อมๆ กับแคนเชอลาราแต่ทำได้แค่เพียงอันดับสอง ในขณะที่แบมบริลล่าปิดโพเดี้ยมอันดับ 3 ตามหลังคู่ตัวเต็ง +4 วินาที
ย้อนรอย 2016 Strade Biache
Strade Bianche ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 10 กับระยะทางที่ลดลงเหลือ 176 กิโลเมตรและเริ่มและจบการแข่งขันในเมืองเก่าแก่ Siena ในแคว้นทัสคานี่
ด้วยเส้นทางโรลลิ่งทางราบสลับเนินกับทางกรวดลูกรังกว่า 53 กิโลเมตร สภาพอากาศฟ้าเปิดและฝนไม่ตกเป็นอุปสรรคอย่างที่มีการพยากรณ์ไว้
50 กิโลเมตรสุดท้าย: มีเบรคอเวย์ 4 คน – แบรมบิลล่า (Etixx), บุ๊ควอลเตอร์ (BMC), มงฟอร์ต (Lotto-Soudal) และกริฟโค่ (Astana) ที่ทำเกมหนีห่างกลุ่มเปโลตองได้ราวๆ 40-50 วินาที กลุ่มหลังที่ไล่มาเป็นชุดตัวเต็งจากทีมใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น วาวเวอเด้ (Movistar), แวน เอเวอร์มาร์ท (BMC), ซากาน (Tinkoff), นิบาลิ (Astana) เบนนูท (Lotto), อูลิซซี่ (Lampre), สตีบาร์ (Etixx) และเควียทคอฟสกี้ (Sky) ซึ่งกลุ่มไล่ไม่ได้รีบไล่จับกลุ่มหนีด้านหนา
25 กิโลเมตรสุดท้าย: แบรมบิลล่าและบุ๊ควอลเตอร์ ย่องหนีกลุ่มเบรคอเวย์ ปล่อยให้มงฟอร์ตและกริฟโค่โดนกลุ่มไล่รวบจับ กลุ่มหนีเข้าสู่ช่วงถนนลูกรังที่ชันที่สุดและยาวที่สุดในรายการ พร้อมๆ กับที่เควียทคอฟสกี้เปิดเกมยิงหนีกลุ่มตัวเต็ง
แต่หลังจากการยิงสลับกันไปมา สุดท้ายเป็นแชมป์โลก ซากานที่กระชากกลุ่มหลุด และมีเพียงสตีบาร์กับแคนเชอลาร่าที่ตามมาทัน กลุ่มตัวเต็งใหม่ 3 คนรวบจับแบรมบิลล่า และหนีไปพร้อมกันที่ 18 กิโลเมตรสุดท้าย ทิ้งให้ตัวเต็งที่เหลือเกาะกลุ่มไล่ตามมาห่างๆ
15 กิโลเมตรสุดท้าย: แคนเชอลาราเปิดเกมรุก เทสต์ขาคู่แข่งเป็นบางช่วงแต่ไม่มีใครหลุดกลุ่ม แต่ในกลุ่มไล่ด้านหลัง นิบาลิเริ่มออกอาการไม่สู้เนิน หลุดกลุ่มไล่ไปในที่สุด เช่นเดียวกับเควียทคอฟสกี้ แชมป์เก่าปี 2014
กลุ่มหนีมีเวลานำกลุ่มไล่ราว 13 วินาที และเห็นได้ชัดว่ากลุ่มไล่ไม่สามัคคีในการไล่จับเบรคอเวย์ตัวเต็งด้านหน้า
เข้าสู่ช่วงถนนเข้าเมือง Siena – 10 กิโลเมตรสุดท้าย สตีบาร์ออกหมัดแย็บ กระชากหนีกลุ่ม ตามด้วย counter-attack โดยแบรมบิลล่า แคนเชอลาราไล่ปิดระยะห่าง แต่แบรมบิลล่าไม่ยอม ยกหนีอีกครั้งที่ 6 กิโลเมตรสุดท้าย และหนีห่างได้ในที่สุด บังคับให้แคนเชอลาราและซากาน ไล่ปิดระยะ ในขณะที่สตีบาร์ตามคุมเกมอยู่ด้านหลัง
1.5 กิโลเมตรสุดท้าย: แบรมบิลล่ายังคงนำกลุ่มซากานอยู่ราว 7-8 วินาที เขาเริ่มปีนขึ้นเนินชันเข้าเส้นชัยเมือง Siena ที่ชันกว่า 16% แต่เป็นจังหวะเดียวกับที่แคนเชอลาราแบไพ่ เลือกโจมตีสตีบาร์และซากาน พร้อมๆ กับขึ้นแซงแบรมบิลล่าอย่างรวดเร็ว
สตีบาร์ตามแคนเชอลาราตีคู่กันมาถึง 200 เมตรสุดท้าย แต่ด้วยถนนที่แคบและที่แคนเชอลาราเลือกไลน์เข้าโค้งได้ดีกว่า ทำให้สตีบาร์ขึ้นแซงแคนเชอลาราไม่ได้ปล่อยให้แคนเชอลาราเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก คว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 3 ได้สำเร็จ
แคนเชอลาราให้สัมภาษณ์หลังแข่ง: “วันนี้มันเป็นวันที่พิเศษมากครับ เป็นเกมที่ต้องใช้สมองมากๆ ผมรู้ว่าจะปล่อยให้แบรมบิลล่าหนีไปไกลไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีสตีบาร์คอยประกบหลังอยู่ แต่ผมเชื่อสัญชาตญาณ และรอจนจังหวะสุดท้ายจริงๆ แต่มันทำได้ก็เพราะผมพอจะรู้ลิมิตของตัวเอง ได้ชนะเป็นสมัยที่สามมันเป็นเกียรติมากครับเพราะผู้จัดจะจารึกชื่อผมไว้ในช่วงถนนลูกรังด้วย ชื่อผมจะถูกบันทึกอยู่ในสนามแข่งนี้ตลอดไป ผมดีใจครับ”
แชมป์โลกปีเตอร์ ซากาน จบการแข่งขันที่อันดับ 4, ส่วนพีท วาค็อค จาก Etixx-Quickstep คว้าอันดับ 5 ทำให้ Etixx มีนักปั่นสามคนในอันดับ Top 5
ส่วน Strade Bianche หญิงที่แข่งไปก่อนหน้า แชมป์ตกเป็นของ Elizabeth Armitstead แชมป์โลกเสือหมอบหญิงคนปัจจุบันจากทีม Boels-Dolmans
* * *
ผลการแข่งขัน
DT วิเคราะห์
เป็น Strade ที่สูสีที่สุดในรอบหลายปีก็ว่าได้ แต่เกมวันนี้สะท้อนถึงประสบการณ์และความเก๋าของแคนเชอลาราได้ดีที่สุดครับ ถึงจะโดนตัวเต็งอย่างซากานและ Etixx สองคนรุมประกบและยิงตัดแรง แต่แคนเชอลาราคุมเกมได้นิ่งมาก ผมว่าจังหวะที่เขาออกจับแบรมบิลล่าในทางขึ้นเนินไม่ถึงกิโลเมตรหน้าเส้นชัยนี่เป็นช็อตที่โหดจริงๆ เพราะถ้าเป็นนักปั่นที่ไม่รู้ลิมิตตัวเองเท่าไร หรือมีประสบการณ์น้อยจะต้องรีบออกจับแบรมบิลล่าก่อนหน้าแน่นอน เพราะอาจจะกลัวว่าถ้าทิ้งไว้จนไม่กี่ร้อยเมตรสุดท้ายอาจจะจับไม่ทันแล้ว
แต่แคนเชอลาราเอาอยู่ ถ้าเขาชิงออกยิงก่อนแล้วหมดแรงกลางเนิน รับรองว่าสตีบาร์ต้องแซงได้แน่ๆ เพราะสตีบาร์เป็นคนที่ใช้แรงน้อยที่สุดในช่วงสุดท้าย จากที่มีแบรมบิลล่าเบรคอเวย์ออกไป เขาเลยไม่ต้องผลัดขึ้นบังลมให้กลุ่มไล่
ไม่ใช่แค่กะจังหวะโจมตีได้เพอร์เฟ็ค แต่ลองดูวิดีโอไฮไลท์ช่วงสุดท้ายข้างล่างครับ จะเห็นว่าพอแคนเชอลาราขึ้นมานำได้ปุ๊บ เขาเลือกเข้าโค้งบังไลน์สตีบาร์ได้จนหมด จนสตีบาร์ไม่มีโอกาสแซงขึ้น แคนเชอลาราเลือกไลน์ได้แม่นเป๊ะทั้งสองโค้งสุดท้าย ปล่อยให้สตีบาร์อยู่ฝั่งที่ต้องอ้อม (ใช้ระยะทางมากกว่า) ตลอด ผมว่า EQS ทำได้ดีที่สุดแล้ว แผนเกมสมบูรณ์แบบ และสตีบาร์ดูแล้วคงรอทุบแคนเชอลาราที่จังหวะสุดท้ายจริงๆ แต่กินไม่ลง
ซากานเองฟอร์มดีมาก เป็นคนที่กระชากจนกลุ่มขาด เหลือตัวเต็งมาด้วยกัน 4 คน แต่ยังขาดความสดช่วงสุดท้ายนิดนึง รายการถัดๆ ไปถ้ายังคงฟอร์มนี้ได้ก็น่ากลัวเหมือนกัน
วิดีโอไฮไลท์
