TDF สเตจ 7: ชัยชนะของมาร์ค คาเวนดิช

สำหรับบางทีม การเป็นแชมป์สเตจใน Tour de France ถึง 3 สเตจและได้ครองเสื้อเหลืองต่อกัน 2 ครั้งในระยะเวลาไม่ถึง 7 วันอาจจะเป็นผลงานที่ยิ่งกว่าประสบความสำเร็จ แต่ไม่ใช่สำหรับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง Etixx-Quickstep ตั้งแต่ที่มาร์ค คาเวนดิชไม่สามารถสปรินต์ชนะคู่แข่งได้ในสเตจทางราบช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราพอจะจับความรู้สึกผิดหวังที่แฟนๆ และสื่อมีต่อทีมได้ชัดเจน

แต่เมื่อคืนนี้ในสเตจ 7 คาเวนดิชก็ลบความกังวลได้ในที่สุดเมื่อเขาสปรินต์ชนะคู่แข่งคว้าแชมป์สเตจ เฉือนอังเดร ไกรเปิล (Lotto-Soudal) และปีเตอร์ ซากาน (Tinkoff-Saxo) ปิดฉากดราม่าที่ทีมต้องเสียเสื้อเหลืองและนักปั่นคนสำคัญ โทนี่ มาร์ตินไปในอุบัติเหตุที่หน้าเส้นชัยในสเตจ 6 ที่ผ่านมา และเป็นชัยชนะแชมป์สเตจครั้งที่ 26 ของคาเวนดิช

เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 7?

สำหรับผู้ชมทางบ้านแล้ว สเตจ 7 จัดได้ว่าเป็นสเตจที่ “สงบ” ที่สุดตั้งแต่เริ่มการแข่งขันมา รูปเกมเป็นไปตำราสเตจทางราบสมบูรณ์แบบครับ เบรคอเวย์เริ่มหนีไปในจังหวะออกสตาร์ทเกม > กลุ่มเปโลตองรวบจับที่ 10 กิโลเมตรสุดท้าย > สปรินเตอร์ออกโรงที่หน้าเส้นชัยเก็บแชมป์สเตจ, แต่เห็นเรียบง่ายแบบนี้ก็เป็นวันที่นักปั่นมีความสุขมากเช่นกัน เกอเรนท์ โทมัส โดเมสติกชื่อดังจากทีม Sky ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า วันนี้ทีม GC ปล่อยให้ทีมสปรินเตอร์ทำเกมกันตามอิสระเลย เพราะสเตจนี้เป็นสเตจทางราบสุดท้ายในสัปดาห์แรกก่อนที่จะต้องขึ้นเขาต่อกันอีกหลายวัน และโอกาสในการสปรินต์ก็ลดน้อยลงไปด้วย

สปรินต์!

เบรคอเวย์ประจำวันโดนรวบที่ราว 10 กิโลเมตรสุดท้าย และทีมสปรินเตอร์เริ่มทำงานกันที่ 3 กิโลเมตรหน้าเส้นชัย ขึ้นนำโดยลีดเอาท์จาก Giant-Alpecin, Katusha และ Etixx-Quickstep ทว่าที่วงเวียนสุดท้ายลีดเอาท์ของ Giant-Alpecin เลือกวนทางซ้ายในขณะที่กลุ่ม peloton วนทางขวา ทำให้เดเกนโคลบ์ สปรินเตอร์ของทีมเสียตำแหน่งและหลุดไปอยู่หลังกลุ่ม

คริสทอฟ (Katusha) มีตัวช่วยเยอะที่สุดที่ 500 เมตรหน้าเส้นชัย คริสทอฟและไกรเปิลเปิดสปรินต์ก่อน คาเวนดิชผละออกจากล้อลีดเอาท์ของเรนชอว์แล้วขึ้นประกบล้อไกรเปิล แล้วพยายามแหวกช่องแทรกระหว่างคริสทอฟและไกรเปิลจนขึ้นมาแซงคู่แข่งได้ที่จังหวะสุดท้ายพอดี ไกรเปิลตามมาเป็นอันดับสอง และซากานอันดับสาม

สำหรับเสื้อผู้นำคริส ฟรูม (Sky) เข้าเส้นชัยพร้อมกลุ่มได้เสื้อเหลืองผู้นำเวลารวมไปตามคาด ทำเวลานำอันดับสอง ซากาน +11 วินาที

เสื้อเจ้าภูเขายังคงเป็นของแดเนียล เทเคิลไฮมานอทจาก MTN ที่วันนี้เก็บคะแนนเพิ่มได้อีกหนึ่งคะแนน

สุดท้ายในหมวดเสื้อเขียวเจ้าความเร็ว ไกรเปิลเพิ่มคะแนนมาเป็น 199 แต้ม นำซากาน 12 แต้ม คาเวนดิชขึ้นมาเป็นอันดับสามที่ 151 แต้ม ปัญหาของไกรเปิลและคาเวนดิชต่อจากนี้คือการหาโอกาสเก็บแต้มสปรินต์ เพราะสเตจที่น่าจะจบด้วยการสปรินต์คงเหลืออีกแค่ไม่เกิน 3 ครั้ง (สเตจ 13, 15 และ 21) ซึ่งก็ยังไม่ชัวร์ว่าสเตจ 13 และ 15 จะจบด้วยการสปรินต์ได้จริงหรือเปล่าจากเส้นทางที่ไม่ค่อยจะราบเรียบ แต่นั่นก็อาจจะทำให้การแข่งขันดุเดือดขึ้นอีกขึ้นเมื่อทีมสปรินเตอร์พยายามเดินเกมหนักไม่ให้เบรคอเวย์หนีรอดเพื่อให้เอซของทีมได้มีโอกาสทำคะแนนเจ้าความเร็วเพิ่มครับ

ผลการแข่งขัน

วิดีโอไฮไลท์

* * *

วาทะนักปั่น

มาร์ค คาเวนดิช (EQS): “วันนี้ผมไม่เกร็ง ไม่เครียดเท่าวันก่อนๆ ผมมีความรู้สึกว่าน่าจะสปรินต์ได้ดีกว่าเดิมตั้งแต่ก่อนเริ่มสเตจครับ ทีมเราวันนี้ก็ตั้งใจมาก ไมเคิล โกลาส ช่วยเราลากจับกลุ่มหนีตลอดทั้งสเตจ เราพลาดสปรินต์กันไปสองครั้งแล้ว แต่ทีมก็ยังเชื่อมั่นในตัวผม ชัยชนะวันนี้มันยอดมาก ที่เราได้มาหลังจากผลงานของสตีบาร์เมื่อวานนี้ ผลงานวันนี้ผมมอบให้โทนี่ (มาร์ติน)” 

“ช่วงสุดท้ายผมต้องผ่อนแรงลงนิดนึง ผมรอจนถึงจังหวะที่ทุกคนเริ่มหมดแรง ผมบอกเรนชอว์ว่าวันนี้ผมจะรอนะ จะไม่รีบสปรินต์เหมือนวันก่อน ผมขยับจากล้อของเรนชอว์ไปล้อคริสทอฟ ไกรเปิลขึ้นมาข้างซ้ายของผม เราแซงคริสทอฟ ซากานขึ้นมาอย่างรวดเร็วแต่เราก็เร็วกว่านิดนึง 

สปรินต์ในวันก่อนๆ ผมเครียดเกินไป ผมออกตัวเร็วไป Tour de France ไม่ใช่สนามที่คุณจะรอได้ สนามอื่นผมมีเวลารอหาจังหวะได้ อาจจะมีคนพยายามแซงคุณขึ้นมาสักคนสองคน แต่ในตูร์ถ้าคุณรอจะมีคู่แข่งอีกสิบคนที่อยากแซงคุณ ถ้าคุณชักช้าคุณก็แพ้ แต่วันนี้ผมใจเย็นกว่าเดิม หาจังหวะได้ดีกว่าเดิม…ถ้าไกรเปิลตัดสินใจเบียดเข้ามาบังไลน์ผม ผมก็แพ้แน่นอน แต่ไกรเปิลไม่ใช่คนแบบนั้น ผมแหวกช่องออกมาได้ ผมสปรินต์ได้เร็วเท่าๆ วันก่อน แต่ผมออกตัวช้ากว่านิดหน่อยทำให้เหลือแรงในจังหวะสุดท้าย”

View this post on Instagram

A post shared by Tour de France™ (@letourdefrance)

อังเดร ไกรเปิล (Lotto-Soudal): “ทีมช่วยผมได้ดีมาก พาผมมาส่งหน้าเส้นชัยได้สมบูรณ์แบบ ผมสปรินต์ได้ดีในช่วงแรกแต่ตอนสุดท้ายมันมีเนินนิดหน่อย แรงผมตก และคาเวนดิชก็ขึ้นแซงได้พอดี เขากะจังหวะดีกว่าผม วันนี้ผมแพ้ครับ ผมพอใจกับผลงานอันดับสอง” 

* * *