ฤดูกาลคลาสสิคจะเริ่มแล้ว แต่ละทีมฟอร์มเป็นยังไงบ้าง?

สวัสดีคนอ่านครับ หายหน้าหายตาไปเกือบอาทิตย์เต็มๆ ก็ไม่ได้อู้หรือแว้บไปไหนนะครับ พอเว็บเริ่มโตงานมันเริ่มเข้า เริ่มมีไปทำข่าวตามอีเวนท์จักรยานต่างๆ ตลอดทั้งอาทิตย์เลย เนื้อหาในเว็บเลยขาดตอนไปบ้างก็ขออภัยด้วยครับ วันนี้มาอัปเดตกันเต็มอิ่มจุใจกับบทวิเคราะห์ฟอร์มโปรทีมสุดที่รักของคุณในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาก่อนที่เราจะเปลี่ยนซีนจากสนามแข่งกลางทะเลทรายกลับคืนสู่สนามถนนหินโบราณหรือที่เราเรียกว่าฤดูกาลคลาสสิคนั่นเองครับ

[separator type=”double”]

ภาพรวม: ทีมสปรินเตอร์มาแรง, ทีม GC ยังเก็บลาย

การแข่งขันจักรยานฤดูกาล 2014 ก็ผ่านมาร่วมสองเดือนแล้ว เราได้เห็นผลงานของแต่ละทีมมาพอสมควรทั้งฟอร์มหัวหน้าทีมชุดคลาสสิคและชุด GC ที่จะลงในแกรนด์ทัวร์ โดยภาพรวมแล้วผมว่ามี 3-4 ทีมที่โชว์เหนือมากๆ (แสดงว่าซ้อมมาดีช่วงค่ายเก็บตัวฤดูหนาว) ลองดูกราฟยอดจำนวนชัยชนะข้างล่างนี้ก่อนครับ (ข้อมูลจาก inrng)

OPQS ได้ไปเยอะที่สุดที่ 10 ชัยชนะ 4 ชัยชนะนี้มาจากเด็กใหม่ขาแรง Michal Kwiatkowski ที่ชนะ overall ใน Volta ao Algarve และได้มาอีกสองสเตจ ส่วน GreenEdge ทำผลงานได้ดีก็ไม่น่าแปลกใจเพราะทำผลงานได้เยอะจากช่วง Tour Down Under สนามบ้านเกิด Giant-Shimano เป็นอีกทีมที่ชนะเยอะมาก ดูไปดูมาแทบไม่ต่างกับ HTC-Highroad, Kittel คนเดียวชนะ 3 สเตจในดูไบ ส่วนคู่หู  Degenkolb เก็บไป 3 สเตจใน Tour Méditerranéen

อย่างไรก็ดีการแข่งขันสนามใหญ่จริงๆ ยังไม่ได้เริ่มครับ ปริมาณของชัยชนะไม่ได้บอกถึงคุณภาพ พอสเตจเรซรายการยักษ์เช่น Paris-Nice และ Tierrano-Adriatico เริ่มแล้วเราอาจจะได้เห็นสายโหดอย่าง Porte และ Nibali เก็บชัยชนะให้กับทีมสาย GC อย่าง Astana และ Sky ได้บ่อยขึ้น เช่นเดียวกับสนามคลาสสิคที่เริ่มแล้ววันนี้ในรายการ Omloop Het Nieuwsblad ซึ่งเป็นอีกโฟกัสของหลายๆ ทีมนอกเหนือจากชัยชนะในสนามแข่งสเตจเรซ

 

1. Omega Pharma-Quickstep : 95/100

สมัยก่อนมีมุขล้อเลียนทีม OPQS ว่าผลงานของทีมปีนั้นๆ ดีแค่ไหนให้ดูช่วงเดือนมีนาถึงเมษายน เพราะเป็นทีมที่ให้ความสำคัญกับสนามคลาสสิคมากกว่ารายการอื่นทั้งหมด แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทีมมีความหลากหลายมากขึ้นทั้งสปรินเตอร์ และนัก TT ระดับโลกอย่าง Cav และ Martin บวกกับ Uran สาย GC และขาคลาสสิคอีกเกือบสิบคน ทำให้เป็นทีมที่รอบด้านและรอบจัดพอสมควร ปีนี้ก็เปิดฤดูกาลได้เยี่ยมมาก กับชัยชนะของ Niki Terpstra ใน Tour of Qatar พร้อมๆ กับที่ Boonen ฟาดไปสองสเตจ ดูฟอร์มแล้วฟิตพร้อมลงประชันสนามคลาสสิคแน่นอน

ทางสาย GC นั้นปีนี้อยากให้จับตาดู Michal Kwiatkowski ดีๆ ครับ เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา สปรินต์ได้ TT ได้ คลาสสิคได้ สเตจเรซก็ไม่เลว ปีนี้เหมือนเป็นปี Breakthrough ของเด็กเปรี้ยวคนนี้เลยก็ว่าได้ ส่วน Uran เองนั้นก็เริ่มกลายมาเป็นนักปั่น GC ที่น่าเกรงขามอีกหนึ่งคน คว้าอันดับ 3 ใน Tour of Oman ไปพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Froome ครับ น่าจะพร้อม ลงจิโร

ที่ไม่ได้ 100 เต็มเพราะซุปเปอร์สตาร์ Mark Cavendish และ Tony Martin ยังเครื่องไม่ร้อนเท่าไร Cav ได้มาแค่สเตจเดียว แต่ก็ต้องให้เวลาหน่อยเพราะพึ่งจะได้ร่วมงานกับหัวลากชุดใหม่ ซึ่งปรกติต้องใช้เวลาจูนฝึกซ้อมให้รู้จังหวะกันนานทีเดียว ขอให้ทัน Tour de France ก็พอ

 

2. BMC: 95/100

อีกหนึ่งทีมที่ DT ประทับใจมากๆ กับผลงานในปีนี้ครับ Phinney ชนะทัวร์ดูไบ Steve Cummings ชนะ Tour Mediteranean, Tejay Van Garderen เก็บที่สองในโอมานและ Cadel Evans ที่สองในทัวร์ดาวน์อันเดอร์ เทียบกับปีที่แล้วเหมือนเกิดใหม่เลยก็ว่าได้ ผลก็มาจากการที่ทีมปรับเปลี่ยนผู้จัดการประจำทีมมาเป็น Allan Peiper อดีตกุนซือจาก Garmin-Sharp และ HTC-Highroad ซึ่งอ่านจากบทสัมภาษณ์ใหม่ๆ แล้วก็พบว่าเขาสร้างเป้าหมายให้กับนักปั่นแต่ละคนชัดเจน มีแผนการรัดกุมที่ดีขึ้นกว่าเดิม จากที่ปีที่แล้วๆ จะปั่นแบบเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีแผนชัดเจน ปัญหาของ BMC คือมีนักปั่นฝีเท้าดีมากที่สุดทีมหนึ่งในโลก แต่ยังขาดการบริหารและการใช้ทรัพยากรที่ดี พอได้กุนซือฝีมือดีที่รีดเอาความสามารถขาแรงมาใช้ได้แล้ว ชัยชนะก็เลยตามมามากมายอย่างที่เห็น

Philippe Gilbert เองก็จะลงเฉพาะสนาม Ardennes Classic เท่านั้น ไม่ลง Roubaix และ Flanders เหมือนปีก่อนหวังชิงสามแชมป์รวดเหมือนในปี 2011 ที่ทำให้เขาโด่งดัง ในขณะที่สนาม Cobble นั้นจะส่ง Greg Van Avermaert ลงนำทีมใน Flanders และ Roubaix บางคนอาจจะไม่รู้จัก Greg แต่เขานักปั่นที่ทำผลงานคลาสสิคให้ทีมได้ดีกว่าทั้ง Gilbert และ Hushovd ในปีที่แล้วครับ ปีนี้ได้นำทีมสมใจแล้ว ต้องดูกันว่าจะทำได้ขนาดไหน

ส่วนสาย GC นั้น Cadel เก๋าเกมพอน่าจะเอาจิโรอยู่หมัด แต่ผมไม่แน่ใจว่าแกจะต่อกรกับเด็กๆ อย่าง Porte และ Quintana ได้ไหม Top 5 ไม่น่าจะยากเกินเอื้อม ส่วน Tejay ปีนี้นำทีม BMC ใน Tour de France คนเดียวเลย อาจจะยังไม่ชนะ แต่ก็น่าจะทำ Top 10 ได้ครับ ยังต้องเก็บประสบการณ์อีกพอสมควรสำหรับคนนี้

 

3. Movistar: 90/100

Movistar เริ่มกลายมาเป็นทีมที่น่ากลัวมากๆ อีกทีมหนึ่ง ร่วมกับยักษ์ใหญ่อย่าง Sky, OPQS และ Astana ต้นปีนี้หัวหน้าทีมฟาดเรียบครับ Valverde ชนะ Tour of Andalucia แบบขาดๆ แถมยังเอาสเตจวินกลับบ้านมาอีก 3 สเตจ (แกสปรินต์ดี) และ Nairo Quintana ก็โชว์ฟอร์มแรงตั้งแต่เริ่มฤดูกาลใน Tour de San Luis ขึ้นยิงทำเวลาห่างได้ถูกจังหวะเก็บแชมป์รายการพร้อมลุยจิโร

 

Diego Ulussi เป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจะขึ้นมานำทีมได้ในเร็วๆ นี้จากผลงาน 3 แชมป์ปีที่แล้วและอันดับ 3 ในทัวร์ดาวน์อันเดอร์ปีนี้ เป็นนักปั่นที่สไตล์คล้ายๆ Valverde คือเล่นสเตจ GC ไต่เขาได้และสปรินต์ได้ดีมากๆ อายุแค่ 24 เท่านั้น

 

4. Team Sky: 85/100

Sky ไม่ใช่ทีมขายจุดเด่นด้วยยอดจำนวนชัยชนะ วลีที่ว่า “คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ” น่าจะใช้กับทีมนี้ได้ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย Chris Froome ป้องกันแชมป์ Tour of Oman ได้ค่อนข้างเฉียบขาดกับการโจมตีขึ้นยอด Green Mountain พร้อมใช้ลูกล่อลูกหลอก Sergio Henao นักไต่เขาชาวโคลอมเบียมาดักคอคู่แข่งทีมอื่น Froome ชนะนั้นแทบจะเป็นของตายก็ว่าได้ จะน่าแปลกใจกว่าถ้าเขาไม่ชนะครับ แต่คนที่ DT แอบเป็นห่วงคนเป็น Ritchie Porte มากกว่า สนามแรกทัวร์ดาวน์อันเดอร์ ได้เพียงอันดับ 4 และสนามที่สอง Tour of Andalucia ก็พ่ายให้กับ Valverde แบบค่อนข้างจะขาดทีเดียว Porte ยังขาดความเด็ดขาดในการโจมตีแบบที่ Froome มีในปีที่แล้วและที่ Wiggo มีในปี 2012

อย่างไรก็ดีสองสนามที่ว่ามายังไม่ใช่รายการใหญ่ ถึงเวลาแข่งจิโรทีม Sky อาจจะมีไม้เด็ดเก็บไว้ก็ได้ แต่ที่แน่ๆ ดูจากคู่แข่งแล้วไม่ใช่งานหมูแน่นอน เป็นสนามที่ Porte ต้องพิสูจน์ตัวเองในฐานะหัวหน้าทีมให้ได้ครับ

อีกอย่างที่น่าจับตาคือชุดทีมที่จะลงสนามคลาสสิค อย่าง Edvald Boassan Hagen และ Geraint Thomas สนามคลาสสิคเป็นเหมือนหลุมดำในโปสเตอร์ชัยชนะของทีม Sky เพราะยังไม่เคยชนะอะไรจริงจังเลย ปีที่แล้วแผนการซ้อมเก็บตัวบนยอดเขาเทเนรีฟก็ไม่เวิร์ก (Sean Kelly แชมป์ Roubaix สองสมัยบอกว่าถ้าเอ็งอยากชนะสนามคลาสสิคก็ต้องมาลงแข่งสนามคลาสสิค ไม่ใช่หนีไปซ้อมแล้วมาลงแข่งทีเดียวตอน Flanders และ Roubaix) เห็นว่าปีนี้ Sky เปลี่ยนแผน จะเปลี่ยนเป็นแบบไหนก็ต้องรอดูกัน

 

5. Trek Factory Racing 60/100

ซุปตาร์อย่าง Cancellara และ Schelck Brothers ยังไม่โชว์ผลงานเท่าไร แต่เท่าที่อ่านสัมภาษณ์โค้ชประจำทีม แผนของ Trek ค่อนข้างต่างกับแผนทีมอื่นๆ ครับ ปีนี้ทีมจะเน้นค่อยๆ สร้างฟอร์มนักแข่งให้ไปพีคช่วงแข่งขันทีเดียว จะไม่เปรี้ยงปร้างเก็บชัยชนะตั้งแต่ต้นปีเหมือน OPQS และ Giant-Shimano

Cancellara ก็คือ Cancellara เขาชนะเมื่อยากจะชนะ ไม่ต้องห่วงฟอร์มเริ่มลงสนามคลาสสิคเมื่อไรทีมอื่นคงมีหนาว

 

6. Lotto-Belisol: 80/100

ทีมนี้ให้ดูสองคน Andre Griepel และ Jurgen Roelandts คนแรกคือยอดสปรินเตอร์ที่ชนะสนามเกรด B ได้แบบจับวาง 3 สเตจในดาวน์อันเดอร์ และอีก 3 สเตจในการ์ต้า Griepel เป็นหนึ่งในนักปั่นที่มีชัยชนะเยอะที่สุดใน peloton ตอนนี้ครับ ปัญหาของแกคือไม่ค่อยจะชนะสนามที่สำคัญจริงๆ อย่าง Tour de France….

Jurgen Roelandts คือนักปั่นคลาสสิคประจำทีม ที่ทำผลงานเลียบๆ เคียงๆ สนามใหญ่มาได้ตลอดแต่ยังไม่เคยชนะ ไม่รู้ปีนี้จะเป็นอีกปีที่เงียบสงัดหรือเปล่า ก็ต้องดูกัน ผลงานที่ดีที่สุดของ Roelandts คืออันดับ 3 Tour of Flanders ปีที่แล้ว ล่าสุดได้ที่ 3 ในการ์ต้า…

 

7. ที่ไม่ได้กล่าวถึง…

บางทีมก็ยังเงียบมากๆ จนไม่มีอะไรต้องบรรยายมากเช่น Astana, Tinkoff, Cannondale และ Katusha สำหรับทีมพวกนี้คงต้องรอช่วง สเตจเรซรายการใหญ่และสนามคลาสสิคเริ่มเสียก่อนครับ Contador บอกปีนี้เปลี่ยนแผนการซ้อมอยากชนะมากขึ้น ต้องดูว่าจะทำได้มั้ย ส่วน Nibali ก็มีผลงานปีที่แล้วเป็นเครื่องการันตี รอดูสนามแรกที่ Tierrano สำหรับ Katusha นั้น Rodriguez ก็เป็นมือนิ่งมือแน่อยู่แล้ว จัดเต็มทุกปีขึ้นโพเดียมสนามใหญ่ทุกปี และ Sagan จาก Cannondale นั้นรอดูในสนามคลาสสิคได้เลย ปีนี้น่าจะดีกว่าปีที่แล้วอีก ผมว่าแกมีสิทธิ์ลุ้นฟาดแชมป์ Milan-Sanremo แน่นอน