GCN x DT: มารยาทการปั่นในกลุ่ม

การปั่นเสือหมอบไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มเพื่อนหรือไปลงแข่งขันตามสนามต่างๆ เราหลีกเลี่ยงที่จะปั่นในกลุ่มไม่ได้ แน่นอนว่าการที่เราปั่นด้วยความเร็วสูงมีนักปั่นคนอื่นๆ ประกบรอบทิศทางอยู่ห่างกันไม่กี่เซนติเมตรไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ จะคุ้นเคยตั้งแต่ครั้งแรก หลายๆ คนประหม่ากลัวจะเกิดอุบัติเหตุและขอไปอยู่ข้างหลังกลุ่มตลอด แต่การปั่นกลุ่มนั้นเป็นทักษะที่เรียนรู้กันได้และจำเป็นอย่างมากหากคุณอยากจะพัฒนาทักษะการปั่นของตัวเองครับ มาดูกันว่าในวิดีโอนี้เขาสอนอะไรบ้าง

1. อย่าซ้อนล้อ

มารยาทที่สำคัญที่สุดในการปั่นกลุ่ม โดยเฉพาะในกลุ่มที่เราไม่คุ้นเคยคืออย่าให้ล้อหน้าเราไปเหลื่อมกับล้อหลังของคนที่อยู่ข้างหน้า (wheel overlap) ซึ่งมักจะเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุในกลุ่มได้ง่ายที่สุด นั่นก็เพราะว่าถ้าคันข้างหน้าเขาเบี่ยงออกข้างเพียงนิดเดียวก็มีสิทธิที่จะสะกิดล้อเราล้มได้ทันทีและจะพาคันข้างหลังร่วงลงไปด้วย

แน่นอนว่าในการแข่งขันบางครั้งเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตำแหน่งเราจะบังคับให้ต้องซ้อนล้อคันอื่น แต่ถ้าเป็นไปได้ พยายามอย่าไปซ้อนดีกว่า

 

2. อย่าปั่นกระโชกกระชากในกลุ่ม

อีกสาเหตุที่ทำให้กลุ่มล้มกันได้ง่ายคือคนในกลุ่มปั่นกระโชกกระชาก ไม่ว่าจะเป็นการยืนโยกหรือเบี่ยงออกด้านข้างโดยไม่ส่งเสียงเตือนคนรอบข้าง รวมไปถึงการใช้เบรคกระทันหันและฟรีขาเมื่อไม่จำเป็นในกลุ่มด้วย อย่าลืมว่าระยะห่างระหว่างเรากับคนอื่นนั้นสั้นมาก การเคลื่อนไหวที่ก่อให้เกิดอันตราย ถึงเราจะคิดว่ามันไม่น่ามีอะไรนั้นทำให้คนล้มเจ็บอุปกรณ์เสียหายมานักต่อนักแล้วครับ

ถ้าต้องขยับออกด้านข้าง หันไปดูก่อนว่ามีช่องว่างหรือเปล่า และการฟรีขานั้นควรเลี่ยงถ้าไม่จำเป็น ถ้าคิดว่าเราปั่นเร็วเกินคันข้างหน้าก็ลดรอบขาลง คนข้างหลังจะได้ไม่เสียจังหวะ

ถ้ามีคนจะปาดหน้าก็บอกเตือน และถ้าหากตัวต้องติดเบียดกันเมื่อไร (คนส่วนใหญ่จะเกร็งทำให้ล้มง่าย) อย่าเกร็งและประคองจักรยานรักษาไลน์ไว้ แล้วค่อยๆ แยกกัน ถ้าไม่ชินกับการเบียดกันมันง่ายที่จะล้มครับ

Racesmart3d

3. อย่าปาดหน้าคนอื่นถ้าไม่จำเป็น

การวางตำแหน่งตัวเองในการแข่งเป็นเรื่องสำคัญ นักปั่นที่ดีควรพยายามอยู่ในกลุ่มหน้าเท่าที่จะทำได้ ค่อยๆ เลื่อนตัวเองแทรกไปตามกลุ่ม แต่การเคลื่อนตัวนั้นต้องระวังอย่าแทรกเข้าไปในช่องที่แคบเกินไป มารยาทการปั่นกลุ่มที่สำคัญคือการรักษาไลน์ของเราตามคันข้างหน้า ถ้าเห็นช่องกว้างพอก็แทรกได้ แต่อย่าฝืนถ้าคิดว่ามันจะเกิดอันตราย จริงว่าในการแข่งเราต้องพยายามทำเกมและหาโอกาส แต่ก็ต้องคิดถึงความปลอดภัยของคนอื่นด้วย ถ้าปั่นกลุ่มซ้อมธรรมดา ควรเลี่ยงเรื่องการเบียดเข้าช่องไปเลย โดยเฉพาะกลุ่มที่เราไม่คุ้นจังหวะกัน

 

4. มองข้างหน้า

นักปั่นที่พึ่งจะหัดปั่นในกลุ่มได้สักพักมักจะห่วงแต่ระยะห่างระหว่างรถของเรากับล้อคันข้างหน้าทำให้ก้มลงมองตลอดเพราะยังกะระยะห่างและความเร็วที่ปลอดภัยไม่ค่อยได้ แต่การก้มนั้นอันตรายกว่าการมองไปข้างหน้าครับเพราะคุณจะไม่รู้เลยว่าข้างหน้าเราเกิดอะไรขึ้นบ้าง และการจี้ล้อหน้าใกล้ๆ นั้นเวลาคนข้างหน้าเบรคชะลอเพียงนิดเดียวอาจจะทำให้ชนกันล้มได้

พยายามมองไปข้างหน้าระหว่างปั่นจะได้เห็นว่าสถานการณ์ในกลุ่มเป็นยังไง ข้างหน้ามีแยก หรือมีโค้งไหม หรือมีคนที่ชะลอแล้วเราจะแซงขึ้นไปได้ รวมไปถึงสภาพถนนและอุปสรรคต่างๆ เช่นสุนัขข้างทาง รถสวน รถแซง

Racesmart3f

5. เตือนคนข้างหลัง

เช่นเดียวกับการซ้อมในกลุ่ม ระหว่างแข่งเราก็ต้องคอยเตือนคนอื่นว่ามีอุปสรรคอะไรบ้างไม่ว่าจะเป็นการจราจรหรือสภาพถนนแย่ๆ อย่าลืมว่าโดยมากแล้วเราแข่งในสนามเปิดซึ่งอันตรายสามารถเกิดขึ้นได้รอบตัวและเกิดขึ้นได้ทุกเวลา

 

6. ระวังเรื่องมารยาท

ถ่มน้ำลาย สั่งน้ำมูกบนถนนเป็นเรื่องไม่สุภาพ และยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ถ้ามันกระเด็นไปโดนคนอื่น ถ้าจำเป็นต้องทำจริงๆ ก็ให้เลื่อนตัวไปข้างๆ กลุ่มหรือหลังกลุ่ม

Racesmart3g

6. ดื่มน้ำ ทานอาหาร

การดื่มและรับประทานอาหารบนจักรยานเป็นเรื่องจำเป็น แต่ก็ควรเลือกทานให้ถูกที่ถูกทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณยังไม่ชินกับการต้องปล่อยมือหนึ่งข้างระหว่างปั่น เลี่ยงการดื่มและทานที่ความเร็วสูงหรือลมข้างปะทะแรง ซึ่งจะทำให้เสียศูนย์ได้ง่าย

บางทีการนำวิธีพวกนี้ไปใช้เวลาปั่นจริงอาจจะทำให้เราพะวงหน้าพะวงหลังว่าทำถูกหรือเปล่า ไปรบกวนคันอื่นๆ หรือเปล่า ก็อย่าเครียดมากครับ ปั่นบ่อยเข้าเราจะชินกับความเร็วเองและจะเคลื่อนไหวได้เป็นธรรมชาติมากขึ้นในสถานการณ์ที่ซับซ้อนขึ้น สิ่งสำคัญคืออย่าเกร็ง เกร็งเมื่อไรก็มีสิทธิล้มได้เมื่อนั้น ถ้าปั่นมาได้ไม่นานก็อย่าอายที่จะถามเพื่อนๆ หรือคนที่มีประสบการณ์มากกว่า เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเรียนรู้

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

4 comments

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *