แมลงสาบแห่งเปโลตอง

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ทีมที่ชื่อยาวที่สุดในเปโลตอง..EF Education First – Drapac presented by Cannondale ได้เปิดตัวชุดปั่นใหม่ครับ อย่างที่เห็นในภาพ ชุดสีชมพูคือชุดแข่งจริง และชุดสีส้มคือชุดซ้อม โดดเด่นแบบนี้รับรองว่าไม่หลง ไม่ซ้ำกับทีมอื่นแน่ๆ

เปิดตัวชุดก็เรื่องนึงแต่ที่น่าสนใจกว่าคือเรื่องที่ทีมหาสปอนเซอร์ใหม่ได้ทันในนาทีสุดท้ายประดุดแมลงสาบที่รอดชีวิตหลังสงครามนิวเคลียร์ครับ

เมื่อคืน DT ได้ฟัง Podcast ที่ Cyclingnews ไปสัมภาษณ์โจนาธาน วอเธอร์ส ผู้จัดการทีม และเขาได้อธิบายกลยุทธ์การสร้างดีลสปอนเซอร์ทีมจักรยานให้เราฟัง ใครสนใจเรื่องธุรกิจโปรทีมลองอ่านกันต่อครับ ผมสรุปมาคร่าวๆ ให้ฟังตามนี้

เรื่องมันมีอยู่ว่า จากโปรทีมทั้งหมด 17 ทีมเนี่ย Cannondale-Drapac เป็นทีมที่จนเป็นอันดับรองสุดท้ายครับ ถ้าจะเปรียบกับกลุ่มเปโลตองโดยใช้เงินเป็นบรรทัดฐาน ทีม Sky ก็เหมือนเบรคอเวย์ที่หนีนำไปลิ่วๆ ด้วยจำนวนเงินที่มากกว่า Cannondale 4-5 เท่า

ในเปโลตองก็จะมีพวกทีมใหญ่ๆ ที่เรารู้จักกันดีกระจุกๆ กันอยู่เช่น BMC, Quickstep, Astana, Movistar ที่งบเยอะ ที่เหลือก็ไม่หลุดกันมาก

ส่วนหางแถวก็จะมี UAE และ Cannondale (ในฤดูกาล 2017 นะ ปีหน้า UAE ได้เงินอัดฉีดเพิ่มเยอะขึ้นมาก) เรียกได้ว่าหลุดกลุ่มโดนนำไปสักครึ่งชั่วโมงได้ เลเวลมันห่างกันขนาดนั้น

 

สัญญาว่าจะไม่โด้ป

พอพูดถึง Cannondale Drapac แล้วหลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าจริงๆ ทีมนี้อยู่มา 2003 แล้วครับ เกิดพร้อมทีม Quickstep เลยด้วยซ้ำ

ทีมก่อตั้งโดยโจนาธาน วอเธอร์ส อดีตนักปั่นทีม Discoery ของแลนซ์ อาร์มสตรอง แต่ถูกจับโด้ป และอยากหันมาตั้งทีมที่สะอาดที่สุดในเปโลตอง เป็นทีมแรกๆ เลยที่ชูเรื่องการต่อต้านการโด้ปอย่างจริงจัง

โจนาธาน วอเธอร์ส

ทีมใช้เวลา 6 ปีในการเลื่อนระดับเข้าสู่ดิวิชัน 1 ในปี 2009 ซึ่งตอนนั้นเนี่ยก็ได้ดั๊ก เอลลิส เศรษฐีที่ร่ำรวยมาจากวงการ IT เป็นอดีต Technology Leader ของ Apple, NeXT, และ Telefonica เข้ามาช่วยสนับสนุนทีม ตั้งบริษัทชื่อ Slipstream Sports เป็นตัวบริหารทีมทั้งหมด

แต่ด้วยที่ระบบสปอนเซอร์โปรทีมของจักรยานอาชีพนั้นจะใช้ชื่อสปอนเซอร์เป็นหลัก Slipstream จึงอยู่เบื้องหลัง ใช้เงินสปอนเซอร์ในการบริหารทีมครับ ที่ผ่านมา ทีมนี้เคยใช้ชื่อ Slipstream, Slipstream-Chipotle, Garmin-Chipotle, Garmin-Slipstream, Garmin-Transitions, Garmin-Cervelo, Garmin-Barracuda, Garmin-Sharp, Cannondale-Garmin, Cannondale Pro cycling, Cannondale-Drapac, และล่าสุด EF Education First–Drapac p/b Cannondale

 

Tour de France คือทุกอย่าง

ในวงการจักรยาน การได้ลงแข่ง Tour de France คือเป้าหมายใหญ่สุดของสปอนเซอร์ทุกรายครับ แทบทุกดีลสปอนเซอร์มักมีข้อแม้ว่าทีมคุณต้องได้ลงแข่ง Tour de France เพราะมันเป็นงานที่ eyeball เยอะที่สุดในโลก คนจะเห็นทีมเยอะที่สุด เวลาตักตวงเงินที่ลงทุนไปก็ใน Tour de France นี่แหละ เทียบกับอีเวนท์อื่นๆ ตลอดฤดูกาลแล้ว ไม่มีอะไรสู้ Tour de France ได้

ทีมยุโรปจะได้เปรียบทีมอเมริกัน ยิ่งเป็นทีมฝรั่งเศสนี่คุณไม่ต้องเป็นทีมดิวิชันหนึ่งก็มีโอกาสเข้าแข่ง Tour de France เกือบ 100% ในขณะที่ทีมอเมริกันถ้าไม่ใช่ทีมในดิวิชันหนึ่ง (ซึ่งบังคับต้องลงแข่งอยู่แล้ว)​ คุณแทบไม่มีโอกาสถูกเชินมาแข่ง Tour de France

นั่นหมายความว่าทีม Slipstream ก็ต้องเข้าดิวิชันหนึ่งให้ได้ซึ่งใช้เงิน จำนวนคน ทรัพยากรเยอะกว่าทีมยุโรปดิวิชันสองหลายๆ ทีมเสียอีก (Cofidis มีเงินทำทีมเยอะกว่า Slipstream เกือบเท่าตัว แต่อยู่ดิวิชันสองก็พอแล้ว เพราะสปอนเซอร์ต้องการแข่งลงแข่งตูร์ และทีมก็ถูกเชิญทุกปีอยู่แล้ว)

 

แมลงสาบแห่งเปโลตอง

แต่ถึงจะมีเศรษฐีไอทีอยู่เบื้องหลัง Slipstream ไม่เคยมีเงินมากพอจะซื้อตัวนักปั่นเก่งๆ เหมือนทีมอื่นๆ ปี 2009 เป็นปีที่โหดร้ายที่สุด เพราะปีนั้นแบรดลีย์ วิกกินส์​ซึ่งอยู่กับ Garmin-Slipstream ได้อันดับ 4 ใน Tour de France แต่ดันถูก Sky มาชิงตัวเอาเงินฟาดหัวฉีกสัญญาไปอย่างไร้ใยดี

วอเธอร์สสู้เงิน Sky ไม่ได้ก็ต้องปล่อยวิกกินส์ไปและทำให้สปอนเซอร์บางรายถอนตัวเพราะเสียความหวังหลักของทีมไปครับ

Slipstream รันภายใต้ทฤษฏี Moneyball มาตลอดนั่นคือ ถ้าเอาเงินสู้ไม่ได้ เราก็จะกว้านซื้อนักปั่นม้ามืด underdog และปั้นเด็กมาสู้แทนก็ได้ฟระ ทีมจะคอยส่องนักปั่นเก่งๆ ที่ทีมอื่นเริ่มเมินแล้วซึ่งก็จะมีราคาถูกแล้วเอากลับมาเทรนให้เก่งขึ้น เล่นเกมเซอร์ไพรส์ พาเด็กเก่งๆ ออกเบรคอเวย์คว้าผลงาน เพราะทั้งพวกโปรที่ถูกเมินและม้ามืดมีสิ่งที่เหมือนกันคือ ทีมอื่นคาดเดาฟอร์มไม่ออก ทำให้ได้ชัยชนะแบบเหนือความคาดหมายอยู่บ่อยๆ

วอเธอร์สบอกว่า เราหมดสิทธิซื้อ “ตัวแรง” ในเปโลตอง เพราะตัวแรงพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าใหม่หรือหน้าเก่าก็ดี รู้ในมูลค่าของตัวเอง และมีทีมรวยมาจีบตลอดเวลา

ถ้าจะเปรียบ เกมจักรยานก็เหมือนหมากรุก ทีม Sky และ BMC อาจจะมีขุน 4 ตัว ราชินี 2 ตัว ในขณะที่ Slipstream มีแต่เบี้ย 8 ตัวม้าตัวเดียว ทีมอย่าง Sky ต่อให้ขุนป่วย ก็ยังมีขุนรองมาช่วยอีกสามสี่คน (แลนด้า, โทมัส, เฮนาว etc.) ส่วนทีมเขาเองถ้าเอซป่วยเมื่อไร เกมโอเวอร์ทันที

เมื่อไม่มีนักปั่นชื่อดังเป็นตัวชูโรง โอกาสเรียกสปอนเซอร์ก็น้อยเช่นกันครับ

ใน Tour de France ปีนี้ ริกโอเบอร์โต้ อูราน นักปั่นชาวโคลอมเบียของทีม Cannondale Drapac) ทำผลงานได้ดีเหนือความคาดหมาย จบรายการด้วยอันดับสอง เป็นรองแค่คริส ฟรูม (Sky)

ฟังดูน่าเหลือเชื่อ กับทีมที่ไม่มีผู้ช่วยเอซเลยสักคนเดียว แต่ทำเวลาแพ้ทีมที่รวยกว่า 5 เท่า แค่ +54 วินาทีเท่านั้น

ถึงจะได้โพเดียมตูร์ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทีมจะรอด เมื่อสปอนเซอร์ที่คุยกันไว้ว่าจะมาช่วยทีมฤดูกาล 2018 ชักดาบ หนีหายไปกลางคัน วอเธอร์สเครียดทันที เพราะไม่รู้จะเอาเงินไหนมาจ้างนักปั่น

เดือนสิงหาคมก่อนแข่ง Vuelta ไม่นาน วอเธอร์สออกจดหมายเวียนในทีมว่า ทีมเราโดนสปอนเซอร์ชักดาบ ปีหน้าไม่รู้ว่าจะไม่มีเงินจ้างพวกคุณมั้ย ถ้าอยากไปทีมอื่นก็เชิญได้เลย เราฉีกสัญญาให้ แต่ถ้าอยากรออยู่ต่อด้วยกันก็ได้นะ…

ระหว่างนี้วอเธอร์สก็เปิดแคมเปญระดมทุนจากแฟนๆ ผ่าน Indiegogo ครับ ซึ่งสุดท้ายได้เงินมา 566,520 USD หรือประมาณ​ 18 ล้านบาท เขารู้อยู่แล้วว่าเงินจำนวนนี้ เซฟทีมไม่ได้หรอก ทีมต้องการ 7 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเติมช่องว่างที่สปอนเซอร์นิรนามไม่ยอมทำตามสัญญา

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สปอนเซอร์อย่าง EF Education First (ที่เคยสนใจสนับสนุนทีมในปี 2014) มองเห็นว่า ทีมนี้นี่จริงๆ แล้วมีคน “รัก” เยอะมากเลยนะ มีแฟนทั่วโลกที่พร้อมจะควักเงินช่วยเหลือทีมกว่า 18 ล้านบาท โดยที่พวกเขาแทบไม่ได้อะไรตอบแทนเลย ความซื่อสัตย์ต่อทีมขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

 

ผู้กอบกู้ทีม

ริกโอเบอร์โต้ อูราน

วอเธอร์ส เดินหมากที่สองต่อด้วยการประกาศว่าจะเซ็นสัญญากับอูราน 3 ปีเต็ม ซึ่งจริงๆ ตอนนั้นเขาบอกว่า จริงๆ แล้วทีมไม่มีเงินหรอกและอูรานเองก็มีสิทธิไปอยู่ทีมอื่นด้วย (แต่เขาก็ให้เวลาวอเธอร์สหาสปอนเซอร์ 2 สัปดาห์ ทั้งๆ ที่มีทีมอื่นพร้อมจะซื้อตัวอยู่แล้ว)

เมื่อแม่ทัพอยู่ ขุนพลและทหารทั้งหลายก็มีกำลังใจ การเดิมพันของวอเธอร์สครั้งนี้มีเป้าหมายหวังรักษานักปั่นคนอื่นให้ยังอยู่ด้วยกัน ไม่สละเรือทิ้งไปก่อน เพราะระหว่างที่กำลังหาสปอนเซอร์ใหม่ ทีมเสียนักปั่นเก่งๆ ไปเยอะมาก เช่น ดาวิเด้ ฟอร์โมโล่ (ไป Bora), ดีแลน แวน บาร์ล (ไป Sky), ทอม เยลท์ สแลกเตอร์ (ไป Dimension Data)

ซึ่งก็เป็นการเดิมพันที่ได้ผลครับ เมื่ออูรานอยู่ต่อ ฟานมาร์ค เอซคลาสสิคของทีมก็อยู่ต่อด้วย ทำให้ทีมดึงดูดสปอนเซอร์ใหม่ได้ง่ายขึ้น อย่างน้อยก็มีคนคอยการันตีผลงานระดับแกรนด์ทัวร์แน่ๆ หนึ่งคน

วอเธอร์สบอกต่อว่า “อนาคตของทีมมันขึ้นอยู่กับอูรานเลย เขาอาจจะไม่รู้ตัวหรอก แต่ถ้าเขาไม่เซ็นกับเรา ผมการันตีได้เลยว่าทีมเราไม่ได้ไปต่อครับ”​

ระหว่างที่ยังดีลกันไม่จบนี้ก็มีโปรทีมอีกทีมนึงมาขอเซ้งกิจการ Slipstream ต่อ พร้อมซื้อตัวนักปั่นและไลเซนส์การแข่งไปยุบรวมกับทีมของเขาเลย (เราเดาว่าเป็นทีมดิวิชันสองที่อยากเลื่อนอันดับ) แต่สุดท้ายวอเธอร์สตัดสินใจดีลกับ EF Education First และไม่ใช่แค่ดีลสปอนเซอร์ทีมเฉยๆ เพราะต่อจากนี้ EF จะเป็นเจ้าของทีมไปเลย วอเธอร์สและเอลลิสจะลดบทบาทกลายเป็นแค่ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารทีมเท่านั้น

แต่นั่นก็หมายความว่าทีมจะอยู่ต่อไปได้อีกอย่างน้อยสามปี หรืออย่างน้อยๆ ก็จนกว่าอูรานจะหมดสัญญา

*

เป็นเวลากว่า 13 ปีที่วอเธอร์สตะเกียกตะกายหาสปอนเซอร์ในทุกๆ สิ้นปีสัญญา เขากล่าวว่า

“ไม่เคยมีปีไหนที่ผมจะรู้สึกสบายใจ เพียงแค่มีข่าวลือว่านักปั่นของเราจะไปอยู่กับทีมอื่น มันอาจจะทำลายดีลที่เรากำลังคุยๆ อยู่ได้ง่ายๆ เลย เราไม่ได้อยู่ในเกมเดียวกับเดฟ เบรลส์ฟอร์ด (Sky) หรือจิม โอโชวิค (BMC) ผมไม่มีสิทธิชี้ตัวเลือกนักปั่นที่อยากได้หรอก แค่หาเงินมาทำทีมก็ยากพอแล้วครับ”

วอเธอร์สทิ้งท้ายว่า เขาอยากให้วงการมีการจำกัดงบบ้าง ไม่ใช่จำกัดค่าตัวนักปั่นนะ (Salary Cap) แต่อยากให้มีเพดานงบทำทีมเท่าๆ กัน และเป็นเพดานที่ไม่สูงเกินสปอนเซอร์จะเบือนหน้านี้

มันจะได้วัดความสามารถในการบริหารทีมอย่างแท้จริง สมมติให้ทุกทีมมีงบได้สูงสุด 20 ล้านยูโร บางทีมอาจจะเอาไปทุ่มกับนักแข่งเก่งๆ ค่าตัวแพงเกือบหมด แต่ก็อาจจะมีเงินไม่พอมาทำค่ายซ้อม พานักปั่นเข้าอุโมงค์ลม หรือมาตรฐานความเป็นอยู่ของทีมที่อาจจะต่ำลง

ทีมที่บริหารงบได้เก่งที่สุดก็จะมีโอกาสชนะสูงสุด วัดฝีมือการบริหารและฝีเท้าจริงๆ ไม่ใช่ชนะด้วยความรวยเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้ และสปอนเซอร์ก็น่าจะชอบเกมที่แฟร์กว่าแบบนี้ด้วย

ใครสนใจอยากฟังสัมภาษณ์ตัวเต็มไปฟังได้ที่ลิงก์นี้ครับ (ภาษาอังกฤษ)​

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *