แจ็ค บ็อบบริดจ์โซโล่ 90 กิโลเมตรคว้าแชมป์เสือหมอบออสเตรเลีย

แจ็ค บ็อบบริดจ์ (Trek-Segafredo) ป้องกันแชมป์จักรยานถนนชายออสเตรเลียได้สำเร็จเป็นสมัยที่สองด้วยการเบรคอเวย์หนีคู่แข่งกว่า 90 กิโลเมตร เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกนำหน้าอันดับสองเกือบสามนาทีเต็ม

เป็นชัยชนะครั้งแรกของบ็อบบริดจ์ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่กับทีม Trek-Segafredo และเป็นการเปิดฤดูกาลได้อย่างสมฐานะแชมป์เก่าปี 2011 บ็อบบริดจ์เข้าเส้นชัยก่อนหน้าอันดับสอง แคเมรอน ไมเออร์ (Dimension Data) +2:52 นาที นำหน้าอันดับสาม แพททริค เลน (Avanti) 3:53 นาที

บ็อบบริดจ์เข้ากลุ่มเบรคอเวย์ชุดแรกของการแข่งขันที่ฟอร์มกันขึ้นมาร่วม 21 คน ในสนามเซอร์กิตเรซระยะทาง 183.6 กิโลเมตร

เมื่อนักข่าวถามเขาว่าคิดยังไงกับแผนการหนีเดี่ยวระยะไกลแบบนี้ แชมป์วัย 26 ปีก็ตอบว่า

“ในใจผม ผมพอรู้ว่าโรฮาน เดนนิสและริชีย์ พอร์ท (BMC) แข็งแรงเกินกว่าจะให้หนีไปด้วยกันได้ ผมเห็นเบรคอเวย์ชุดแรกออกมาร่วม 20 คนและมีหลายทีมอยู่ในนั้น ผมเลยกระโดดเข้าไปร่วมวงด้วย ปั่นกันมาสักพัก ผมรู้ตัวว่าออกแรงไปเยอะแล้ว ถ้าจะยอมให้กลุ่มใหญ่มารวบ ผมคงไม่เหลือแรงพอจะเอาชนะใครได้แน่ๆ ผมเลยหาจังหวะการปั่นของตัวเอง ระยะห่างของผมกับกลุ่มหลังร่วม 9 นาทีมันน่าจะมากพอให้ผมหนีไปได้จนถึงเส้นชัย”

ถึงเซอร์กิตรอบสุดท้าย บ็อบบริดจ์ทำเวลานำกลุ่มไล่ที่นำโดยไมเออร์ (Dimension Data) และโรฮาน เดนนิส (BMC) ร่วม 5 นาที แต่เดนนิสและพอร์ท ถอนตัวจากการแข่งขันทำให้กลุ่มไล่ขาดกำลังสำคัญในการไล่จับบ็อบบริดจ์ไป เมื่อขาดกลุ่มไล่ บ็อบบริดจ์ก็นำเดี่ยวเข้าเส้นชัยไปอย่างไม่ยากเย็น เป็นการซ้ำรอยผลงานแชมป์เสือหมอบออสเตรเลียในปี 2011 ของเขาที่ชนะคู่แข่งจากการเบรคอเวย์หนีกลุ่มไกลๆ เช่นกัน

“ผมอยากจะล้างตาจากที่พลาดแชมป์ Time Trial ไปเมื่อวันพฤหัส (เขาได้อันดับสิบ) เอาจริงๆ นะผมซ้อมหนักมากเพื่อแชมป์ TT แต่ตอนแข่งโชคไม่เข้าข้าง ร่างกายไม่ตอบสนองอย่างที่ใจต้องการ แต่สุดท้ายแล้วการเป็นแชมป์ถนนก็ดีกว่า Time Trial ครับเพราะผมจะได้ใส่เสื้อแชมป์ประเทศทุกครั้งในการแข่งถนน แชมป์ TT คุณได้ใส่ก็แค่วันที่แข่ง TT เท่านั้น”

“ผมไม่คิดเลยว่าผมจะหนีได้สำเร็จนะจากตอนที่หนีกลุ่มไป เส้นทางมันยากครับ แต่ผมพยายามสังเกตระยะห่างระหว่างกลุ่ม ซึ่งตอนนั้นเวลามันไม่ลดลงเลย ผมเลยคิดว่าถ้าปั่นอย่างฉลาดไปแบบนี้จนจบน่าจะคว้าแชมป์ได้แน่นอน”

เมื่อกลุ่ม peloton รู้แล้วว่าบ็อบบริดจ์นั้นฟอร์มดีแข็งแกร่งกว่าที่คาด ทีมตัวเต็งอย่าง Orica-GreenEdge ก็เริ่มเดินเครื่องไล่จับตั้งแต่รอบที่ 11 แต่เมื่อโรฮาน เดนนิส (BMC) และไมเออร์ (Dimension Data) ออกหนีกลุ่ม แผนของ GreenEdge ที่หวังส่งคาเล็บ ยวน สปรินเตอร์ของทีมเอาชนะคู่แข่งก็พังทลาย ผลงานที่ดีที่สุดของทีมมาจากไซมอน เจอร์รานส์ อดีตแชมป์ประเทศ ซึ่งปีนี้ทำได้เพียงอันดับ 6 ตามหลังบ็อบบริดจ์ +4:56 นาที

แมทท์ ไวท์ ผู้กำกับทีม GreenEdge ถึงกับเอ่ยปากชมสไตล์การปั่นของบ็อบบริดจ์ ว่าแกร่งเกินจะเอาชนะได้จริงๆ

“มันเป็นการปั่นที่เยี่ยมมากสำหรับบ็อบบริดจ์ เราไม่เคยเห็นใครกล้าเบรคอเวย์ไกลขนาดนี้ในสนามชิงแชมป์ประเทศครับ มันทำให้เกมคาดเดาได้ยากมาก ทีมเราลงแข่งเพื่อหวังแชมป์ประเทศ​ แต่เมื่อเจอแผนนี้ของบ็อบบริดจ์เราไม่มีทางสู้เลยจริงๆ ผมคิดว่าเขาจะโดนรวบจับเพราะเขาหนีไปก่อนถึงเส้นชัยไกลมาก แต่ทีมอื่นก็ไม่มีใครช่วยเราทำงานไล่จับเขาเลยเหมือนกัน”

ไม่ใช่แค่ได้แชมป์ออสเตรเลียอย่างเดียว แต่การโซโล่เดี่ยวของบ็อบบริดจ์ทำให้เขากวาดรางวัลทุกประเภทในรายการด้วยเช่นกันทั้งรางวัลเจ้าความเร็ว และเจ้าภูเขาครับ

ฟอร์มดีอย่างนี้น่าจับตาดูว่าใน Tour Down Under 19-24 มกราคมนี้เขาจะมีผลงานยังไงบ้าง!

Screen Shot 2559-01-10 at 5.51.33 PM

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *