มิฮาล เควียทคอฟสกี้ (Team Sky) คืนฟอร์มคว้าแชมป์สนาม Strade Bianche เป็นครั้งที่สองด้วยการออกหนีคู่แข่งคนเดียวร่วม 12 กิโลเมตร บนสภาพเส้นทางวิบากที่นักปั่นต้องเจอทั้งกระแสลมแรงและฝนที่ตกตลอดช่วงท้ายของการแข่งขัน
เควียทคอฟสกี้เปิดเกมหนีกลุ่มตัวเต็งเบรคอเวย์สุดท้ายของวันที่มีแชมป์โอลิมปิก เกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ท (BMC), แชมป์เก่าสนามนี้ ชเน็ค สตีบาร์ (Quickstep Floors), และดาวรุ่งสนามคลาสสิค ทิม เวลเลนส์ (Lotto-Soudal) เควียทคอฟสกี้เข้าเส้นชัยก่อนอันดับสอง แวน เอเวอร์มาร์ท +15 วินาที และอันดับสาม เวลเลนส์ที่ +17 วินาที ส่วนสตีบาร์ทำได้เพียงอันดับสี่ ที่ +23 วินาที
——
เกม Strade Bianche ปีนี้เป็นยังไง?
ช่วงเริ่มการแข่งขัน เบรคอเวย์ชุดแรกที่มีทีบอต์ พินอท์ (FDJ) และนักปั่นจาก Katusha, AG2R, Astana หนีกลุ่มได้ราวสามนาที แต่ด้วยระยะทางการแข่งขัยที่ไม่ยาวมากนักและหลายทีมตัวเต็งเข้ากลุ่มไม่ทัน เบรคอเวย์กลุ่มแรกถูกหมายหัวและมีระยะห่างกับกลุ่มเปโลตองไม่มากนัก ถูกจับได้ในช่วง 50 กิโลเมตรสุดท้าย เป็นจังหวะเดียวกับที่ตัวเต็งการแข่งขันหลายคนเริ่มออกโจมตีกลุ่มจนแพคกลายเป็นกลุ่มเบรคอเวย์ที่สองที่ตามหลังกลุ่มหน้าแค่ราวๆ 20-30 วินาที
กลุ่มสองเต็มไปด้วยขาแรงทั้ง GVA (BMC), เควียทคอฟสกี้ (Sky), เวลเลนส์และเบนูท (Lotto-Soudal), สตีบาร์ (Quickstep Floors), เอ็ดวาลด์ บอสซันฮาเก็น (Dimension Data) และทอม ดูโมลาน์ (Sunweb)
แต่โชคไม่ดีสำหรับปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe) ที่ต้องถอนตัวเพราะป่วยอาการไม่ดี ส่วนเซป ฟานมาร์ค (Cannondale-Drapac) ก็ต้องถอนตัวเช่นกันเพราะรถเสียกลางทาง
ในกลุ่มไล่เป็นเควียทคอฟสกี้ที่ฟอร์มดีทำงานหนักสุดในกลุ่มขึ้นนำและไล่เก็บกลุ่มหนีด้านหน้าจนจับได้ทันที่ 35 กิโลเมตรสุดท้าย แต่กลุ่มนี้ก็สามัคคีกันได้ไม่นานเมื่อเควียทคอฟสกี้, GVA, สตีบาร์ และเวลเลนส์ฉีกหนีคู่แข่งไปด้วยกันที่ 25 กิโลเมตรหน้าเส้นชัย เป็นจังหวะที่ดูโมลาน์หลุดกลุ่มไปอย่างน่าเสียดาย
ถึงจะหลุดมาในกลุ่มตัวเต็ง เควียทคอฟสกี้ไม่ยอมรอเสี่ยงดวงหน้าเส้นชัยพร้อมคนอื่น เขาเบรคอเวย์หนีคู่แข่งที่ระยะประมาณ 13 กิโลเมตรห่างจากเส้นชัย เมื่อสามคนหลังไม่สามัคคีกันเท่าที่ควร ถึงทางเข้าเมืองเซียน่าอดีตแชมป์โลกมีเวลานำร่วมสามสิบวินาทีและเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก คว้าแชมป์รายการระดับ WorldTour เป็นครั้งแรกในฤดูกาลให้ทีม Sky ได้สำเร็จ
ผลการแข่งขัน
DT วิเคราะห์
- แชมป์ครั้งที่สองของเควียทคอฟสกี้นี้แทบจะเหมือนครั้งแรกที่เขาได้ในปี 2014 ครับ ที่เขาเข้าเส้นชัยก่อนอันดับสอง (ซากาน +19 วินาที) แต่ปีนี้ดูฟอร์มดีจะดียิ่งกว่าเพราะหนีไกลห่างเส้นชัยไปสิบกว่ากิโลเมตร เด็ดขาดและเหนือชั้นเหมือนที่แคนเชอลาราเคยชนะด้วยวิธีเดียวกันในปี 2012 ซึ่งก็หนีที่ระยะทางประมาณนี้เช่นกัน
- ทิม เวลเลนส์ (Lotto-Soudal) เป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองทีเดียวครับ สนามคลาสสิคปีนี้เขาเริ่มมีบทบาทชัดเจนขึ้น ทั้งในเกมเบรคอเวย์และเกมหนีเดี่ยว น่าจะขึ้นมาเป็นเอซคนใหม่ให้ทีม Lotto อาจจะยังขาดประสบการณ์บ้างและการตัดสินใจที่ยังดูไม่เฉียบคมในบางจังหวะ แต่ด้วยอายุเพียง 25 ปี เขายังมีเวลาพัฒนาฟอร์มอีกนาน
- โฮเซ่ กอนคาล์ฟ (Katusha) เป็นเบรคอเวย์ชุดแรกของวันแต่ยังเกาะกลุ่มมาจนเข้าเส้นชัยได้เป็นอันดับ 11!
- ทอม ดูโมลาน์ (Sunweb) ก็เริ่มมาแรงทีเดียว เรายังไม่ค่อยได้เห็นเขาในสนามคลาสสิคเท่าไร แต่เอาจริงๆ เส้นทางแบบนี้ก็เข้าทางเขาใช้ได้ครับ ตอนเห็นว่าดูโมจะลงรายการนี้ผมยังงงๆ ว่าแกจะถนัดเหรอ เพราะมีทั้งทางกรวด ทางเนินสลับกันไป แต่พอลงสนามจริงปั่นได้ดีทีเดียว นี่พลาดแค่จังหวะเดียวคือไล่ตามกลุ่ม GVA, สตีบาร์, เควียทคอฟสกี้และเวลเลนส์ไม่ทัน ถ้าฟอร์มดีกว่านี้อีกสักนิดน่าจะมีลุ้นโพเดี้ยม
- ชัยชนะของเควียทคอฟสกี้มาได้ถูกเวลาพอดี เพราะตอนนี้ Sky กำลังโดนสื่อรุมทึ้งเรื่องกระเป๋าส่งยาลับที่ให้แบรดลีย์ วิกกินส์ในปี 2011 ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีคนไหนในทีมตอบได้ว่ามันคือยาหรือสารอะไรที่ส่งให้วิกกินส์ ถึงแม้จะโดนรัฐสภาอังกฤษสอบสวนก็ตาม!! (ไว้จะเขียนอธิบายเรื่องนี้สักทีครับ ตอนนี้สถานการณ์ดูย่ำแย่มากสำหรับ Sky)
- แต่เควียทคอฟสกี้เลือกไม่ตอบคำถามนี้เกี่ยวกับทีม เขาพูดจบสัมภาษณ์ว่า “ผมไม่รู้หรอกว่าทีมต้องการชัยชนะหรือเปล่า, แต่มันคือสิ่งที่ผมต้องการที่สุด”
- ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเควียทคอฟสกี้ผลงานหายไปเลยตั้งแต่มาอยู่กับ Sky ด้วยอาการบาดเจ็บต่อเนื่อง จนแข่งไม่จบ การคืนฟอร์มและชัยชนะครั้งนี้น่าจะสร้างความมั่นใจให้เขาได้ไม่น้อย และ DT ยังเชื่อว่าเขาเป็นนักปั่นที่รอบด้านมากที่สุดคนหนึ่ง เล่นได้ทั้งสนาม One Day Race และ Stage Race แต่คงต้องดูกันต่อไปว่าจะเลือกเฉพาะทางในสนามแข่งประเภทไหนครับ
นักปั่นให้สัมภาษณ์ว่าอะไรบ้าง?
1. เควียทคอฟสกี้: “ผมแค่อยากทำให้ทุกคนในทีมยอมรับ”
“ผมดีใจที่ชนะนะ ฤดูกาลก่อนผมมีปัญหาเยอะมาก ผมกดดันตัวเองและซ้อมหนักเกินร่างกายรับไหว อยากให้ทุกคนในทีมยอมรับ แต่นักกีฬาไม่ใช่หุ่นยนต์ วันหนึ่งคุณก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยครับ ผมไม่ค่อยพอใจเท่าไรกับสภาพตอนนั้น แต่ทีมช่วยเหลือผมดีมากและเชื่อมั่นในตัวผม ผมแค่ต้องอดทนและค่อยๆ ซ้อมใหม่ให้ฟิตเหมือนเดิม ตอนนี้ผมดีใจที่กลับมาสนุกบนจักรยานได้เหมือนเมื่อก่อน
ช่วงสุดท้ายสตีบาร์เดินเกมหนักบนเนิน Sante Marie ซึ่งผมเกือบจะหลุดกลุ่่มแล้ว แต่ผมว่าสตีบาร์เดินเกมผิด เพราะจังหวะนั้นมันทำให้ทุกคนเสียลูกทีมรวมถึงตัวเขาเองด้วย เขาเปิดเกมเร็วไปหน่อย ผมเลยเซฟแรงไว้ใช้ช่วงสุดท้าย”
2. เกร็ก แวน เอเวอร์มาร์ท: “มันเป็นรายการคลาสสิคอย่างแท้จริง”
“ผมว่ามันเป็นรายการคลาสสิคอย่างแท้จริงเลยหละ เราแย่งกันขึ้นหน้ากลุ่มในช่วงถนนลูกรังเหมือนแข่งในสนามถนนหิน แถมยังมีทั้งฝนและลมเกมเลยยิ่งยากครับ คือทุกช่วงถนนลูกรังคุณต้องอยู่หน้ากลุ่มให้ได้ ผมโคตรชอบเลย”
“ทางมันก็วิบากใช้ได้เลยนะ เรากระเด็นกระดอนขึ้นๆ ลงๆ กันเหมือนคนบ้าขี่จักรยาน แต่มันเป็นการแข่งอย่างแท้จริงครับ ปีนี้เป็นปีที่ยากที่สุดที่ผมลงแข่งรายการนี้ เกมเปิดเร็วมาก กลายเป็นแมทช์ที่ดวลกันแบบตัวต่อตัวตลอดช่วงครึ่งหลังเลย”
“ตอนนี้ผมรู้สึกฟอร์มดีนะ วันนี้สดชื่นครับ ผมพักแข่งไปหนึ่งสัปดาห์ (หลัง Omloop และ KBK) รายการนี้เป็นเป้าหมายแรกและคุณก็น่าจะเห็นว่าผมทำได้ดีพอสมควรครับ”
Video Highlight