Ardennes สนามสุดท้าย: พรีวิว Liege-Bastogne-Liege

[dropcap letter=”ส่”]งท้ายเดือนเมษายนด้วยสนามคลาสสิครายการสุดท้ายของช่วงต้นฤดูกาลครับ กับรายการ Liege-Bastogne-Liege ครั้งที่ 101 ซึ่งเป็นสนามแข่งขันจักรยานที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสนามที่ยากโหดหินที่สุดในโลกเช่นกัน

The 2015 Liege-Bastogne-Liege (UCI WorldTour)
วันเวลา: 26 เมษา ช่อง Eurosport 19:15-22:00
ลิงก์ถ่ายทอดสด: DuckingTiger Live

คู่ตรงข้ามของ Tour of Flanders

ถ้าถามว่าสนามคลาสสิครายการไหน นักปั่นอาชีพให้ความเคารพที่สุด ตลอดทั้งฤดูกาลมีแค่ 3 รายการเท่านั้นครับ นั่นคือ Ronde Van Vllanderen (Tour of Flanders), Paris-Roubaix และ Liege-Bastogne-Liege จุดเด่นของ Ronde อาจจะเป็นทางขึ้นเนินชันที่สลักด้วยถนนหินโบราณพร้อมกระแสลมแรงตลอดเส้นทาง อุปสรรคทั้งสองเป็นบททดสอบความแกร่งของนักปั่นอย่างแท้จริงตามสไตล์ Flandrian Hardmen เส้นทางครึ่งแรกเป็นทางโรลลิ่งไม่ชันอะไรมาก แต่ครึ่งหลังนี่เรียกว่านรกภูเขาเลยทีเดียว บวกกับเส้นทางเกิน 250 กิโลเมตรเข้าด้วยแล้ว ผู้ชนะจึงต้องมีทั้งความอึด ความแกร่ง และสามารถต่อกรกับเนินเขาชันได้จนถึงกิโลเมตรสุดท้าย

Liege-Bastogne-Liege (LBL)  รู้จักกันในอีกชื่อว่า “La Doyenne” (ลา โดเยน) แปลเป็นไทยได้ว่า “หญิงแก่” ถึงจะฟังดูเป็นคำต่อว่า แต่จริงๆ แล้วเป็นคำยกย่องครับ เพราะสนามนี้เก่าแก่ที่สุดในบรรดาการแข่งขันจักรยานโปรทัวร์ทั้งหมด ด้วยประวัติศาตร์กว่า 100 ปี! เป็นสนาม “คลาสสิค” อย่างแท้จริง

เส้นทาง

PROFIL

เส้นทางยาว 253 กิโลเมตรพร้อมกับเนินและเขานับสิบลูก ความยากนั้นต้องบอกว่ามากยิ่งกว่าสเตจภูเขายากๆ ใน Tour de France หรือ Giro d’Italia เสียอีก เกมการแข่งขัน 107 กิโลเมตรแรกจาก Liege ไป Bastogne มีเขาให้ปีนหนึ่งลูก แต่จะบอกว่าเป็นทางราบก็ไม่ใช่เพราะดูจากรูปโปรไฟล์แล้วจะเห็นว่าเป็นทางโรลลิ่งเกือบทั้งหมด ขากลับจาก Bastogne ไป Liege นี่แหละครับที่ยากเพราะไม่ได้กลับทางเดิมแต่วนไปทางที่เป็นเนินเขาชันหลายลูกต่อกัน มีอะไรน่ากลัวบ้าง ลองดูโปรไฟล์ข้างล่างนี้

Liege Bastogne Liege Climbs Profiles

เนินสามลูกที่เป็นจุดตัดตัวคือ La Redoute, La Rouche-Aux-Faucons และ Sanit Nicholas ที่อยู่ก่อนเส้นชัยเพียงนิดเดียว LBL ใช้เส้นทางเดิมเกือบทุกปี เพราะฉะนั้นนักปั่นที่มีประสบการณ์มักจะได้เปรียบเพราะรู้ว่าเขาลูกไหนต้องจัดการยังไง ต้องพักตรงไหน ต้องเร่งตรงไหน ที่เส้นชัย 250 เมตรสุดท้ายเป็นทางขึ้นเนินสั้นๆ ก่อนจะตัดเป็นทางราบให้ชิงสปรินต์กันถ้ามีคู่แข่งเกาะมาด้วย


ใครมีลุ้น? (Startlist)

★★★★★ Alejandro Valverde และ Michal Kwiatkowski

วาวเวอเด้ (Movistar) และเควียทคอฟสกี (Etixx-Quickstep) กำลังฟอร์มดีและมีกองหนุนที่ดี โดยเฉพาะ Movistar ที่ขนเอาโดเมสติกนักไต่เขาระดับแกรนด์ทัวร์มาหนุนกัปตันทีมกันเพียบรวมถึงไนโร คินทานาด้วย เควียทคอฟสกีเองก็มีแบ็คหนาเช่นกันครับ ทั้งคู่เพิ่งจะชนะอาร์เดนส์กันมาคนละสนาม ทำให้ DT คิดว่าเป็นคู่ที่ฟอร์มดีที่สุด วาวเวอเด้มีประสบการ์ณมากกว่าเพราะเคยชนะมาแล้วถึงสองรอบในปี 2006 และ 2008 ส่วนเควียทคอฟสกีขึ้นโพเดี้ยมปีที่แล้ว

★★★★ Vincenzo Nibali และ Joaquim Rodriguez

สังเกตตั้งแต่ Amstel Gold และ Fleche Wallone DT คิดว่านิบาลิ (Astana) อาจจะเป็นม้ามืดที่น่าระวังคนหนึ่งเลยครับ เขาออกโจมตีได้ (เกือบ) เด็ดขาดในทั้งสองสนามแต่เส้นทางบริเวณเส้นชัยของทั้งสองรายการไม่เอื้อให้เขาชนะมากเท่าตัวเต็งคนอื่นๆ ที่ปีนเขาสั้นๆ ได้เร็วกว่า อย่างไรก็ดีใน LBL เส้นทางเหมาะกับนักปั่นแกรนด์ทัวร์อย่างเขาใช้ได้ นิบาลิมีทั้งความอึดและลูกทีมฝีมือดีที่จะชงเกม วัน-ทูได้น่ากลัว (ยาค็อบ ฟูลก์แซง) ถึงจะไม่ใช่คนที่เคยชนะสนามคลาสสิคแต่ก็จะประมาทไม่ได้ทีเดียว

โรดริเกรซ (Katusha) เป็นอีกคนที่น่าสนใจและมีลูกทีมขาแรงเช่นกัน (แดนนี่ โมเรโนและจิอัมโพโล คารูโซ) ที่ดูฟอร์มดีทั้งคู่ ตัวโรดี้เองก็ฟอร์มดีใช้ได้ น่าจะอยากล้างแค้นที่พ่ายให้ แดน มาร์ตินในจังหวะขึ้นเนินน่าเส้นชัยแบบน่าเสียดายในปี 2013 เป็นแน่แท้

Amstel Gold  (5 of 6)
เควียทคอฟสกีจะเก็บแชมป์ให้เสื้อสีรุ้งได้อีกหนึ่งรายการไหม?

★★★ Dan Martin และ Philippe Gilbert

จิลแบร์เจ็บจาก Fleche Wallone ในระดับที่จักรยานหักเกือบทั้งคัน เจ้าตัวบอกว่าออกแรงได้เต็มที่ 450 วัตต์ แต่รู้ว่าถ้าจะชนะเขาต้องจัดได้อย่างน้อย 1200 วัตต์บนเนินลูกสำคัญ​ น่าจะยากเหมือนกันสำหรับแชมป์เก่าปี 2011 คนนี้ แต่ถ้าเขาไม่ไหวทีมยังมีทีเจย์ แวนการ์เดอเรน เอซ GC ที่อาจจะพอทำอะไรได้อยู่

แดน มาร์ติน (Cannondale) กำลังตามหาฟอร์มที่เขาชนะแชมป์รายการในปี 2013 (ซึ่งหลังจากนั้นเขาชนะอีกแค่รายการเดียวเท่านั้นคือ Giro d’Lombardia ในปี 2014) แถมยังล้มใน Fleche เหมือนจิลแบร์ด้วย ถ้าแดนลงไม่ไหวทีมยังมี รามูนัส นาร์วอดัสกัส เจ้าของแชมป์สเตจตูร์ 2014, ทอม เยลท์ สแลกเตอร์ และแอนดรูว์ ทาลานสกี

★★ ม้ามืด

ทีมที่น่าลุ้น (แต่ยังไม่น่ากลัว) คงเป็น Lotto-Soudal ที่มีทิม เวลเลนส์และโทนี่ กาโลแพน คนแรกโชว์เบรคอเวย์ใน Fleche Wallone จนถึงตีนเนินลูกสุดท้าย คนที่สองได้ Top 10 ใน Amstel Gold ทั้งคู่ยังไม่เคยชนะแชมป์รายการคลาสสิค แต่ถามว่ามีโอกาสมั้ยก็มองข้าไม่ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเวลเลนส์ที่น่าจะขึ้นมาเป็นตัวเต็งคลาสสิคของทีมเร็วๆ นี้

สำหรับคนอื่นๆ ลองดู ปิแอร์ โรลองด์ (Europcar), พอซโซวิโว, บาร์เดต์, เบทันเคอร์ (AG2R), คอสต้า (Lampre), อัลบาซินี+คลาร์ค (OGE), ครอยซิเกอร์ (Tinkoff), โมเลมม่า (Trek), เคลเดอร์แมน (LottoNL)

ใครชนะ?

DT แทงข้างวาวเวอเด้ เชื่อไหมครับว่าเขาเป็นชาวสเปนคนเดียวที่เคยชนะรายการนี้ แข่งกันมาเกือบร้อยปี มีวาวเวอเด้คนแรกที่ได้แชมป์ให้สเปน ด้วยฟอร์มและประสบการณ์ DT เชื่อว่าแชมป์รายการไม่ยากเกินไปสำหรับแข้งทองคำจาก Movistar คนนี้

Video Preview

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *