ติดตามชีวิตโปรในหนึ่งวัน – ทราวิส เมเยอร์

Travis Meyer

Travis Meyer เป็นดาวรุ่งสัญชาติออซซี่จากทีม Orica-GreenEdge อายุเพียงแค่ 23 ปี (เป็นน้องชายของ Cameron Meyer จากทีมเดียวกัน) เคยเป็นแชมป์เสือหมอบออสเตรเลียในปี 2010 แบคเกราด์มาจากจักรยานลู่ครับ เคยเป็นแชมป์โลก Madison, Team pursit, Individual Sprint และ scratch race ระดับเยาวชนด้วย ฝีไม้ลายแข้งถือว่าไม่ธรรมดา Meyer เป็นเด็กปั้นของสถาบันกีฬาออสเตรเลีย (Australia Sport Institute) ที่ลงทุนสร้างนักกีฬาจักรยานลู่ระดับโลกมานักต่อนัก Meyer เริ่มเทิร์นโปรกับทีม Garmin-Transition ในปี 2009 และกลับบ้านมาเข้าทีม GreenEdge  ในปี 2011 ว่ากันแล้วทีม GreenEdge ก็เป็นความพยายามของออสเตรเลียในการสร้างโปรทีมเสือหมอบเข้าแข่งในระดับโลก สร้างและส่งเด็กปั้นจักรยานลู่เข้าทีมเสือหมอบ เป็นโมเดลเดียวกับทีม Sky จากอังกฤษที่มี British Cycling เป็นสายพานส่งนักกีฬาเข้าทีมครับ

แอดมินชอบทีม GreenEdge เป็นการส่วนตัว เพราะมีลูกฮาเยอะ ชอบถ่ายวิดีโอสนุกๆ มาให้แฟนๆ ดูใน youtube อยู่เรื่อย วันนี้เขาติดตามถ่าย Travis Meyer ที่กำลังแข่ง Tour de Langkawi เสตจ 5 ตั้งแต่ตื่นนอนยันแข่งเสร็จ ได้ดูชีวิตโปรในวันแข่งจริง ลองดูกันว่าเขาทำอะไรบ้าง

ชีวิตโปรเสือหมอบ – Tour de Langkawi stage 5

7 โมงเช้าต้องตื่นทานข้าว เปลี่ยนชุดแข่ง จากนั้นตรวจปัสสวะดูว่าสภาพร่างกายขาดน้ำหรือเปล่า ฝรั่งมาแข่งที่ทางโซนร้อนชื้น ไม่คุ้นกับสภาพอากาศก็จะขาดน้ำได้ง่ายๆ เรียบร้อยแล้วก็ประชุมทีมสั้นๆ วางแผนการแข่งประจำวัน เสร็จแล้วออกจากโรงแรมไปเซ็นชื่อหน้าจุดสตาร์ท เตรียมอาหารเติมพลังระหว่างแข่ง…

วันนี้ทีมตกลงให้ Travis ออกโซโล่ยิงหนีกลุ่มหลัก ซึ่งก็หนีออกไปคนเดียวตั้งแต่ 20 กิโลเมตรแรกและทิ้งระยะห่าง peloton ได้เกือบ 9 นาที หนีไปได้หลายสิบกิโลเมตร แต่ก็โดนรวบเข้ากลุ่มในที่สุดตรงช่วงตีนเขา Genting Highlands.. เส้นชัยบนยอดเขาความชันกว่า 15% ถึงจะโดนรวบก็ถือว่าทำงานเสร็จเรียบร้อย เพราะการยิงหนีออกมาบังคับให้ทีมอื่นต้องทำงานหนักไล่ตาม Travis เพื่อนร่วมทีม GreenEdge ก็แค่เกาะทีมอื่นไม่ต้องขึ้นนำขบวน ซึ่งแผนนี้ก็ดูได้ผลดีเพราะ Pieter Weening เพื่อนร่วมทีมนักไต่เขา เข้าเส้นชัยเป็นอันดับสอง

ส่วน Meyer วันนี้ปั่นแรงจนขาจาน Dura-Ace หัก โอ้วว แรงดีน่าอิจฉาจริงๆ….แข่งเสร็จแล้วก็ให้สัมภาษณ์เล็กน้อย กลับโรงแรม ให้หมอนวดประจำทีมนวดหนึ่งคอร์ส พรุ่งนี้จะได้มีแรงออกไปปั่นต่อ จบไปอีกหนึ่งวัน ชีวิตโปรเหมือนจะไม่ได้มีอะไรยากลำบากแต่นี่คือทีมระดับ World Tour ซัพพอร์ทของทีมย่อมมากว่าโปรทีมจากดิวิชันรองๆ ลงไป แน่นอนว่าแต่ละคนกว่าจะได้มาเป็นโปรระดับนี้ก็ต้องไต่เต้าขึ้นมา สร้างผลงานให้เป็นที่เตะตาของทีมใหญ่ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับอาชีพอื่นๆ ครับ

เห็นแล้วมีใครอยากไปลองใช้ชีวิตอย่างโปรจักรยานกันมั่ง? :D ผมไม่เอาด้วยหละ ขอเป็นคนธรรมดาติดตามการแข่งอยู่ห่างๆ ก็พอ..