เปิดตัว: Look 785 Huez RS และ 785 Huez, เฟรม+ตะเกียบ 1kg

ก่อน Tour de France จะเริ่มในอีกไม่กี่วัน บริษัทจักรยานและบันไดสัญชาติฝรั่งเศสก็เปิดตัวจักรยานสายไต่เขาเบาหวิวในชื่อ Look 785 Huez (“อู-เอซ”) RS และ 785 Huez ที่ภูเขา Alpe d’Huez (ก็แน่ล่ะ)

ส่วนเหตุผลที่จักรยานคันนี้ชื่อ Huez ก็เพื่อยกย่อง Look KG 86 จักรยานคาร์บอนคันแรกในประวัติศาสตร์ที่ชนะ Tour de France ในปี 1986 กับเกร็ก เลอมองด์ โดยในปีนั้นเลอมองด์ชนะสเตจที่จบที่ยอดเขา Alpe d’Huez (อัล-เพอะ-ดู-เอซ) ก่อนจะเป็นผู้ชนะรายการในตอนจบการแข่งขัน

Look 785 Huez RS และ 785 Huez เข้ามาเติมช่องว่างในไลน์อัพของบริษัทจักรยานสมัยปัจจุบัน คือต้องมีรถแอโร่ (795) รถไต่เขา (785) และรถเอนดิวรานซ์​ (765)

Look อ้างเทคโนโลยี Optimised Inertia Section ซึ่งได้จากการศึกษารูปทรงท่อ ขนาดท่อ และความยาวของทุก ๆ ท่อที่ประกอบมาเป็นจักรยาน เพื่อให้ได้รถที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เพื่อความเข้าใจศัพท์เทคนิคที่ Look ใช้ ลองดูภาพด้านล่าง

ถ้าสมมุติว่ามีท่อสองท่อ โดยกำหนดให้ทำจากวัสดุเดียวกัน ความหนาเท่ากัน (d) พื้นที่หน้าตัดเท่ากัน (A) และความยาวท่อเท่ากัน (L) แต่รูปทรงหน้าตัด หรือ section ไม่เหมือนกัน เวลาออกแรงกระทำเท่ากัน (F) ท่อทั้งสองจะ “บิด” (angular acceleration) ไม่เท่ากัน โดยท่อที่หน้าตัดกลมจะทนต่อแรงบิดมากกว่ามาก ใน rotational kinematics เราเรียกสิ่งนี้ว่า “moment of inertia” และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจักรยาน all-round กับจักรยานแอโร่ถึงให้ “ฟิลลิ่ง” ที่ต่างกันเวลาเร่งความเร็ว แม้ว่าการทดสอบอิสระบน test jig บอกเราว่าความสติฟที่ห้องกะโหลกของสองคันนั้นเท่ากัน

ดังนั้นสิ่งที่ Look พยายามจะบอกเรา ก็คือเขาเลือก (optimise) ทรงหน้าตัด (section), ความยาว L, ความหนา d, และพื้นที่ A ของท่อทุกท่อ เพื่อให้ได้ moment of inertia หรือการตอบสนองแรงที่ดีที่สุดนั่นเอง

นอกจากรูปทรงแล้ว Look ยังเลือกแผ่นคาร์บอนต่างกัน 5 แบบใน 785 Huez RS และ 4 แบบใน 785 Huez ตั้งแต่ high resistance (ยืดหยุ่นและเหนียว) ไปจน ultra high modulus (แข็งมาก) เพื่อมาประกอบเป็นคัน สิ่งที่น่าสนใจคือ Look บอกกระทั่งว่าใช้คาร์บอนจากบริษัทไหนบ้างเลยทีเดียว คือ Twaron (Teijin Aramid); T700, T1100, M46J (Toray); และ YSH-60A (Nippon Graphite Fiber) (เฉพาะรุ่น RS) แล้วนำคาร์บอนทั้ง 5 ประเภทนี้มาเรียงซ้อนในแบบต่าง ๆ กันและขึ้นรูปให้ได้คาแรคเตอร์ที่ต้องการ สุดท้ายแล้ว Look บอกว่าตัวเฟรมประกอบขึ้นจากแผ่นคาร์บอน 260 ชิ้น ส่วนตะเกียบอีก 90 ชิ้น

สำหรับเฟรมเซ็ท 785 Huez RS นั้นอ้างน้ำหนักเฟรม 730 กรัมในไซส์ S และตะเกียบ 280 กรัม รวมเป็น 1,010 กรัมเท่านั้น คอมพลีตไบค์ที่ทีม Fortuneo-Vital Concept ใช้ซึ่งประกอบด้วยกรุ๊ปเซ็ต SRAM Red eTap และล้อฮาล์ฟ Corima 32mm MCC S+ นั้นหนักแค่ 5.9 กก. และต้องถ่วงตะกั่วอีกเกือบกิโลเพื่อให้อยู่ในลิมิตของ UCI ที่ 6.8 กก. แน่นอนว่าราคาแพงหายห่วงที่ 9,999 ยูโร (เกือบ 400,000 บาท)

ส่วนเฟรมเซ็ท 785 Huez นั้นน้ำหนักเฟรม 990 กรัม และตะเกียบ 350 กรัม ที่ถึงจะหนักขึ้น 3 ขีดแต่ Look ก็มั่นใจว่าคาแรคเตอร์การขี่ไม่ต่างจากเวอร์ชั่น RS และราคาเป็นมิตรกว่ากันมาก

แม้ว่าน้ำหนักเฟรมเซ็ต 1,010 กรัมจะไม่ได้เบาที่สุดในโลก แต่ Look ก็บอกว่า “เราไม่ได้ต้องการเฟรมที่เบาที่สุดในโลก เราต้องการเฟรมที่เบามากโดยที่ยังขี่ได้ปลอดภัย ขี่ได้ทุกวัน และมีประสิทธิภาพ เราทดสอบความแข็งแรงเฟรมของเราให้ได้ตามมาตรฐานยุโรป แล้วบวกไปอีกอย่างน้อย 60%”

Look 785 Huez RS และ 785 Huez จะถูกผลิตในโรงงานของ Look เองในตูนิเซียและในโรงงานพาร์ทเนอร์ในตะวันออกไกล

Look 785 Huez RS Proteam
Look 785 Huez Fluo Red Blue

By ธันยวีร์ ชินสุวรรณ

วี - นักวิจัยลั้ลลา ถ้าไม่เลี้ยงเซลล์อยู่แล็บก็อยู่ร้านกาแฟ ว่างไม่ว่างก็ปั่นจักรยาน หลงรักหมอบทุกคันที่ไม่มีแหวนรองสเต็มและใช้ริมเบรค เป็นแฟนคลับทีม Mitchelton-Scott

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *