55.250 กิโลเมตร คือระยะทางที่เซอร์ แบรดลีย์ วิกกินส์ ตั้งเป้าไว้ว่าเขาจะปั่นให้ได้ในเวลา 1 ชั่วโมง
ถ้านักปั่นคนอื่นตั้งเป้าไว้ขนาดนี้เราคงนึกว่าฝันไปหรือเปล่า แต่เมื่ออดีตแชมป์ Tour de France ปี 2012, เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก Time Trial และแชมป์โลก Time Trial คนปัจจุบันเป็นคนพูด บางทีมันอาจจะไม่ใช่แค่ความฝันครับ
สถิติ Hour Record ล่าสุดคือ 52.937 กิโลเมตร ซึ่งทำโดยอเล็กซ์ ดาวเซ็ตต์ เพื่อนร่วมชาติ้ชาวอังกฤษ วันพรุ่งนี้ (7 มิถุนายน 6:30pm เวลาอังกฤษ หรือ 8 มิถุนายน 00:30am เวลาไทย) วิกกินส์จะลงสนามหวังทำลายสถิติของดาวเซ็ตต์
ความต่างคือเป้าหมาย
สิ่งที่ทำให้วิกกินส์ต่างจากผู้ท้าชิงสถิติคนอื่นๆ ไม่ใช่แค่พอร์ทโฟลิโอ้ผลงานต่างๆ ของเขา ทุกคนรู้ดีว่าเขาเป็นนักปั่น Time Trial เบอร์หนึ่งของโลก แต่สิ่งที่ต่างจริงๆ คือ “เป้าหมาย” ของเขา
- เยนส์ โว้ก (51.110 km) ตั้งเป้าหวังทำลายสถิติของอองเดร โซเซงก้า (49.700km)
- แมทธิอัส แบรนเดิ้ล (51.852km) หวังทำลายสถิติของโว้ก
- โรฮาน เดนนิส (52.491km), แจ็ค บ็อบบริดจ์ (51.300km), หวังทำลายสถิติของแบรนเดิ้ล
- โทมัส เด็กเกอร์ (52.221km), กัสตาฟ ลาร์สัน (50.016) และอเล็กซ์ ดาวเซ็ตต์ (52.937km) หวังทำลายสถิติของเดนนิส
แต่วิกกินส์ หวังสร้างสถิติใหม่ของตัวเอง นั่นคือเขามั่นใจว่าจะก้าวข้ามระยะทางของดาวเซ็ตต์ได้แน่นอน คำถามคือเขาจะไปได้ไกลขนาดไหน? ว่ากันตามผลงานแล้ว วิกกินส์น่าจะเป็นคนที่มีลุ้นทำระยะทางได้ไกลที่สุดในบรรดานักปั่นจักรยานถนนอาชีพในตอนนี้ เขาได้เปรียบนักปั่นผู้เชี่ยวชาญ Time Trial คนอื่นๆ อย่างโทนี มาร์ตินและเฟเบียน แคนเชอลารา ตรงที่เขาเจนการปั่นสนามลู่
ก็อดคิดไม่ได้ว่าการท้าชิงสถิติของวิกกินส์ในวันพรุ่งนี้น่าจะเป็นแมทช์ Hour Record ที่สนุกที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ตั้งแต่ที่เอ็ดดี้ เมิร์กซ์ทำสถิติหยุดโลกเมื่อปี 1972 ที่ประเทศเม็กซิโกครับ
กำแพงในใจ
สื่อหลายสำนัก รวมถึง DT ด้วยค่อนข้างมั่นใจว่าวิกกินส์จะทำระยะทางได้ตามเป้า 55.250 กิโลเมตร ทำไมน่ะหรือ? ถ้าเราย้อนดูประวัติการแข่งของเขา วิกกินส์มักจะทำผลงานได้ดีเกินคาดเสมอในรายการที่เขา “ตั้งใจ” เตรียมตัวจะเอาชนะจริงๆ เช่น Tour de France 2012, Olympic Time Trial 2012, แม้กระทั่ง Paris-Roubaix ซึ่งไม่ใช่อะไรที่เขาถนัด แต่กลับติด Top 10 ปั่นได้ดีกว่า “ผู้เชี่ยวชาญ” ถนน Cobble ตัวจริงเสียอีก
กลับกัน วิกกินส์ทำผลงานได้เข้าขั้นแย่ ในรายการที่เขาไม่ได้ถนัด ไม่มั่นใจ หรือมีปัญหากวนใจ เช่น Giro d’Italia 2013
เขาเป็นนักปั่นน้อยคนที่มีศักยภาพพร้อมจะชนะรายการแข่งหลายประเภท ข้อจำกัดเดียวของวิกกินส์จึงดูจะเป็นเรื่องจิตใจเสียมากกว่า ซึ่งดูจากการซ้อมของเขาสำหรับ Hour Record วิกกินส์ดูพร้อม 100% สำหรับการทำลายสถิติพรุ่งนี้
อุปสรรค
ถ้าฟอร์มเขาพร้อม อุปกรณ์ก็พร้อม จะมีปัจจัยอะไรที่มีผลต่อระยะทางของวิกกินส์ในวันพรุ่งนี้บ้าง?
1. ความกดอากาศ
แม้การทำลายสถิติ Hour Record จะเป็นการปั่นในเวโลโดรม แต่สถานที่ตั้งของเวโลโดรมก็มีผลต่อระยะทางที่นักปั่นจะทำได้ไม่น้อยครับ แรงต้านหลักๆ กว่า 90% ที่นักปั่นต้องก้าวข้ามในการปั่นจักรยานก็คือแรงต้านจากอากาศ (aerodynamic drag) เช่นนั้นแล้วสถานที่ๆ มีความกดอากาศต่ำก็ช่วยให้นักปั่นแหวกอากาศได้ไวกว่าสถานที่ๆ มีความกดอากาศสูง เช่นบนภูเขาสูง อย่างที่เอ็ดดี้ เมิร์กซ์ และโทมัส เด็กเกอร์ไปทำสถิติในเวโลโดรมในเมืองเม็กซิโก ซิตี้ ที่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,300 เมตร
วิกกินส์ให้สัมภาษณ์ Sky Sports ว่า “ถ้าคุณอยู่ในที่ๆ ความกดอากาศต่ำกว่า 1,000 กรัมต่อความจุคิวบิคเมตร คุณสามารถทำระยะทางได้ไกลกว่าที่ความกดอากาศปกติถึง 1 กิโลเมตร ด้วยพลังวัตต์เท่าๆ กัน”
ถึงวิกกินส์จะทำสถิติที่เมืองลอนดอนซึ่งไม่ได้อยู่สูงเหมือนเม็กซิโก ซิตี้ แต่ช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายนก็เป็นเวลาที่ความกดอากาศจะต่ำมากเป็นพิเศษ ซึ่งน่าจะช่วยสถิติเขาได้ไม่น้อย
2. ประสบการณ์การปั่นในลู่
ปัจจัยที่ทำให้วิกกินส์ได้เปรียบผู้ท้าชิงคนอื่นๆ คือประสบการณ์การปั่นสนามลู่ หลายคนอาจจะรู้จักแบรดลีย์ วิกกินส์ในฐานะแชมป์ Tour de France จากทีม Sky แต่ก่อนหน้าที่เขาจะผันอาชีพมาเป็นนักปั่นจักรยานถนน เขาเติบโตมาจากการแข่งขันสนามลู่ ซึ่งเป็นเจ้าของเหรียญโอลิมปิกให้สหราชอาณาจักรถึง 6 เหรียญจากประเภท Individual Pursuit, Team Pursuit และ Madison และครองตำแหน่งแชมป์โลกรายการทั้งหมดที่กล่าวมาใน Track World Championship หลายสมัย
สกิลการปั่นในลู่สำคัญอย่างไร? ต้องยกตัวอย่างกรณีของเยนส์ โว้กครับ นสพ. Gazzetta dello Sport รายงานว่าทุกครั้งที่เยนส์ซ้อมทำสถิติ เขาเสียระยะทางไปร่วม 600 เมตร จากการที่เขาไม่สามารถบังคับรถให้ตรงเส้นดำ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเข้าและออกจากแบงก์กิ้งสนาม แต่จากการฝึกประมาณสองเดือน เขาก็ลดระยะทางที่เสียไปจาก 600 เมตรเหลือประมาณ 250 เมตรในวันทำสถิติจริง
ซึ่งเมื่อเทียบกับประสบการณ์ของวิกกินส์ที่ปั่นสนามลู่ได้ระดับแชมป์โลก เขาไม่น่าจะเสียระยะทางเลย เป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับผู้ท้าชิงคนอื่นๆ
วิกกินส์กล่าวว่า “หัวใจการปั่นทำสถิติ Hour ที่ดีที่สุดก็คือการประคอง power output ให้ได้คงที่ตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้ก็เป็นทักษะที่ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักครับ เพราะทุกครั้งที่เราเข้าแบงก์พาวเวอร์ของเราก็เปลี่ยนได้เยอะถ้าเราคุมกำลังไม่ดี คุณต้องคุมความเร็วและเวลาแต่ละรอบให้นิ่งที่สุด ให้เวลาห่างกันไม่เกินระยะเสี้ยววินาทีเช่น รอบละ 16.1, 16.2 วินาที ไม่ใช่ 15.9 แล้วโดดไป 16.4”
ลิงก์ถ่ายทอดสด
พรุ่งนี้สนาม Lee Valley Velo Park จะอัดแน่นไปด้วยผู้ชมจำนวน 4,600 คน ยังไม่รวมผู้ชมทั่วโลกที่จะติดตามการปั่นของเขาทุกวินาทีจนครบหนึ่งชั่วโมง วิกกินส์จะทำได้เท่าไร อย่าลืมติดตามครับ เริ่มถ่ายทอดสดวันที่ 8 มิถุนายน เวลา 00:30–01:30 (มันคือกลางดึกคืนวันอาทิตย์ครับ ไม่ใช่วันจันทร์นะ)
ชมถ่ายทอดสดได้ที่ www.duckingtiger.com/live หรือทาง Youtube UCI Cycling ครับ
อย่าลืมชมประวัติศาสตร์การทำลายสถิติ Hour Record สั้นๆ 4 นาทีจาก The Guardian ครับ รายละเอียดดีมากเลย
History of Hour Record
***
