Season Review: BMC Racing Team

พร้อมหน้าพร้อมตา

รีวิวทีมตอนที่สองวันนี้เชื่อว่าเป็นทีมในดวงใจของใครหลายๆ คนแน่นอน BMC Racing Team นั่นเองครับ

The Brief

อันดับ World Tour Ranking: 10th/19
จำนวนชัยชนะ: 30
นักปั่นเด่นประจำปี: Greg Van Avermaet (18th), Cadel Evans (50th), Tejay van Garderen (52nd), Philippe Gilbert (54th).

สำหรับแฟนๆ BMC ปีนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่เราผิดหวังกันครับ BMC เป็นหนึ่งในทีมที่รวยที่สุด มีนักปั่นฝีมือดีที่สุด แต่กลับมีผลงานแค่ 30 ชัยชนะและแค่ 5 ชัยชนะนั้นเป็นผลงานในสนามดิวิชัน 1 (UCI Pro Tour) น้อยกว่าทีมเล็กๆ อย่าง Cannondale และ FDJ ถึงแม้ทีมจะได้แชมป์ประเทศทั้งเสือหมอบและ Time Trial ถึง 4 รายการแต่ก็ไม่มีผลงานในสนามคลาสสิคและแกรนด์ทัวร์ แชมป์โลก Phillipe Gilbert ทำได้แค่ 1 สเตจใน Vuelta เท่านั้น

Gilbert ฟอร์มตกอีกหนึ่งปี
Gilbert ฟอร์มตกอีกหนึ่งปี

คนที่กู้หน้าให้ทีมคงเป็น Tejay Vangarderen และหัวหน้าทีม Cadel Evans อย่างไม่ต้องสงสัย Evans เปิดฤดูกาลด้วยอันดับ 3 ใน Giro d’Italia ถึงแม้อายุจะย่างเข้า 36 ปีแล้วก็ยังสู้เด็กๆ ได้ในขณะที่ Vangarderen กวาดแชมป์ stage race ในอเมริกาเรียบทั้ง Tour of California และ USA Pro Challenge ทว่าทั้งคู่ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมในสนาม Tour de France กลับหลุดอันดับไม่ติดแม้กระทั่ง Top 20 ทั้งๆ ที่ Evans เคยเป็นแชมป์ตูร์ในปี 2011 และ Tejay อันดับ 5 ในปี 2012

ขณะเดียวกันหนึ่งในขาแรงที่ไม่มีสิทธิได้เป็นหัวหน้าทีม Greg Van Avermaet กลับเป็นคนที่ทำผลงานในสนามคลาสสิคได้ดีที่สุด ดีกว่า Hushovd และ Gilbert ด้วยอันดับ 3 Gent-Wevelgem, ที่ 7 ใน Tour of Flanders, ที่ 4 Paris-Roubaix, ที่ 5 Omloop และที่ 6 Strade Bianche! พูดง่ายๆ Van Avermaet ติด Top 10 สนามคลาสสิค “ทุกรายการ” ทั้งๆ ที่เป็นโดเมสติกให้ Hushovd และ Gilbert

The Good

1. Taylor Phinney จอมพลัง
ด้วยผลงานที่ 7 Milan-Sanremo กลางพายุหิมะ, การปั่นเดี่ยวใน Tierrano-Adriatico กลางสายฝนเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้าย และการ breakaway ที่ 2km หน้าเส้นชัยที่ Tour of Poland บ่งบอกถึงความกล้าบ้าบิ่นและใจเด็ดของ Phinney ที่ละม้ายคล้ายคลึง Hardman of the Peloton อย่าง Eddy Merckx และ Francesso Moser ถึงแม้ Phinney จะยังไม่ชนะรายการใหญ่ๆ แต่จิตใจที่แกร่งระดับแชมป์ผมเชื่อว่าเขาต้องพัฒนาไปเป็นนักปั่นคลาสสิคและยอดนัก Time Trial ฝีมือดีคล้ายๆ กับ Fabian Cancellara แน่นอน

Greg Van
GVA จอมโหดประจำทีม

2. Greg Van Avermaet ม้านอกสายตา
ถ้าจะให้บรรยายถึงตำแหน่งของ Van Vermaet ในทีมภาษาอังกฤษเราเรียกว่า Unrealised Potential ครับ หรือเป็นม้านอกสายตา (ที่ทีมไม่สนใจ) เพราะลองดูจากผลงานปีนี้ที่บอกข้างบนแล้วปฏิเสธไม่ได้ว่า Greg ออกลายแชมป์มาเลย ติด Top 10 ตลอดแต่ก็ไปไม่ถึงยอดเพราะไม่มีคนช่วย (ต้องช่วยคนอื่นแทน)​ ในจังหวะที่ Hushovd และ Gilbert ผ่อนแรง Van Avermaet ยังคอยเกาะตัวเต็งได้ตลอดจนถึงเส้นชัย ผมสังเกตว่า BMC ไม่ค่อยให้อิสระ Van Avermaet ในการแข่งสักเท่าไร ปีหน้า BMC ต้องให้โอกาส Van Avermaet มากกว่านี้ ไม่งั้นน้องแกหนีไปซบอกทีมอื่นแน่นอนครับ

3. Hushovd / Evans แก่แต่ยังมีไฟ
ถึง Hushovd จะสู้ใน Roubaix ไม่ได้อย่างที่เขาตั้งใจ แต่ปีนี้แกเป็นคนที่เก็บชัยชนะได้เยอะที่สุดในทีมครับตั้งแต่แชมป์ Tour de Haut Var, แชมป์สเตจ Tour of Poland และแชมป์ overall Arctic Race of Norway ถึงแม้จะไม่ใช่รายการใหญ่ แต่ชัยชนะก็คือชัยชนะ ส่วนเฒ่า Evans นั้นคู่แข่งเผลอไม่ได้ ไม่มีใครคิดว่าแกจะสู้ตัวเต็งอย่าง Wiggins และ Scarponi ได้ใน Giro แต่จบรายการแกคว้าอันดับ 3 หน้าตาเฉย เรื่องความแน่นอน ความใจสู้และ consistency แล้วเสือเฒ่าคนนี้ประมาทไม่ได้เลยทีเดียว

 

The Bad

1. Tour de France
จากหนึ่งในทีมที่น่ากลัวที่สุดในตูร์ กลายเป็นทีมที่ไม่มีผลงานอะไรเลยในปีนี้ เกิดอะไรขึ้นกับ BMC? Van Garderen ฟอร์มหดหาย เสียเวลาให้คู่แข่งร่วม 20 นาทีในขณะที่ Evans กรอบเกินจะสู้กับคนอื่นหลังจากที่ทุ่มสุดตัวใน Giro ไปแล้ว

Ballan ตัวปัญหา
Ballan ตัวปัญหา

2. Alessandro Ballan
ใครยังจำ Ballan ได้บ้าง? แชมป์โลกเสือหมอบในปี 2008 ย้ายมาอยู่กับ BMC ในปี 2010 และปี 2013 ไม่มีผลงานแม้แต่รายการเดียว ที่เขาบอกว่า BMC เป็นสุสานแชมป์โลกอาจจะไม่ใช่เรื่องเกินจริง ปีนี้ Ballan มีชื่อไปติดโผในเคสการใช้สารกระตุ้นอีกด้วย คดี Mantova นี้ยาวนานมาสามปีเต็มแล้ว เหมือนเป็นเงาตามหลังที่คอยหลอกหลอน Ballan และ BMC ครับ

The Future

ปีนี้ BMC ทำแผนการแข่งผิดไปหลายอย่างโดยเฉพาะใน Tour de France ซึ่งทีมก็ออกมายอมรับและไล่ John Lelange ผู้จัดการทีมออก แล้วจ้างโค้ชจาก Allan Peiper จาก Garmin มาช่วยแทน ซึ่งก็เห็นผลงานดีขึ้นทันทีครับ ที่บอกว่าแผนพังใน Tour de France คือการมีหัวหน้าทีมคู่สองคนระหว่าง Evans และ Vangarderen ซึ่งทั้งสองคนนั้นก็ไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไร และ Evans ก็กรอบเกินกว่าจะแข่ง Tour ได้เต็มที่ ปีหน้า Evans จะลง Giro อย่างเดียวและ Tejay จะได้นำทีม Tour เพียงคนเดียว ซึ่งก็หวังว่าเราจะได้เห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

ทางด้านสนามคลาสสิคนั้น BMC มีอาวุธชั้นดีอย่าง Hushovd, Gilbert, Van Avermaet และ Phinney อยู่แล้ว พร้อมลงได้ตั้งแต่ Paris-Roubaix ยัน Liege-Bastonge-Liege ปัญหาคือจะใช้งานยังไงให้ได้ประสิทธิภาพที่สุด หวังว่าทีมจะปรับแผนคลาสสิคใหม่ด้วย โดยเฉพาะ Gilbert ที่น่าจะทำได้ดีกว่าสองปีที่ผ่านมาครับ

ปีหน้าเอาใหม่
ปีหน้าเอาใหม่

ปีนี้ทีมได้นักปั่นฝีมือดีมาเพิ่มอีกหลายคนไม่ว่าจะเป็น Rick Zabel ลูกชายของสปรินเตอร์พระกาฬ Eric Zabel และแพะภูเขาอย่าง Peter Stetina (Garmin) และ David Aptapuma (Colombia) มาเสริมทัพทีม Tour แต่ขณะเดียวกันก็เสียนักปั่นที่ฟอร์มดีที่สุดในปีนี้อย่าง Matthias Frank (IAM) และเทพ TT Marco Pinotti (รีไทร์) ไป

โดยรวมแล้ว BMC เป็นทีมที่ดูเหมือนจะมีพร้อมทุกอย่าง ทั้งเงิน และนักปั่นฝีเท้าดี สิ่งที่ขาดคือการบริหารนักแข่งครับ ด้วยโค้ชใหม่ที่เคยพาทีม Garmin คว้าแชมป์ Roubaix หวังว่าเราจะได้เห็น BMC ออกโรงมากกว่านี้ในฤดูกาลหน้า

DT ตัดเกรด

B-

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

2 comments

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *