นักปั่นอาชีพชื่อดังหลายๆ คนอาจจะย้ายทีมกันเรียบร้อยแล้ว ไอ้เราก็นึกว่าฤดูกาลนี้คงปิดดีลกันหมดแล้ว แต่ที่ไหนได้ครับ สองสามวันนี้ข่าวย้ายทีมมาเต็ม มากันหลายข่าว และเกี่ยวข้องกับสปรินเตอร์ชื่อดังระดับโปรทัวร์ถึงสองคนที่ดูจะเล่นเก้าอี้ดนตรีหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ นั่นคือ มาร์ค คาเวนดิช และมาร์เซล คิทเทล ถ้าใครตกข่าวแนะนำให้อ่านข่าวข้างล่างนี้ก่อนครับ
- มาร์ค คาเวนดิชย้ายเข้าทีม Dimension Data (Cyclingnews)
- มาร์เซล คิทเทลจะย้ายเข้า Etixx-Quickstep? (Cyclingnews)
- Dimension-Data วางแผนขึ้นดิวิชัน 1 UCI World Tour (Cyclingnews)
1. คิทเทลไปไหน?
พูดถึงข่าวแรกกันก่อนเลย เอซสปรินเตอร์ที่ผลงานกำลังมาแรงในช่วงสองฤดูกาลนี้ มาร์เซล คิทเทล มีข่าวลือ ที่ Cyclingnews ค่อนข้างมั่นใจว่าปิดดีลแล้วแน่นอน ว่าเจ้าตัวจะยอมผิดสัญญากับ Giant-Alpecin (สัญญาหมด 2016) คือยอมจ่ายเงินเพื่ออกจากสัญญาค่าจ้าง เพื่อไปอยู่กับทีมเก่าของคาเวนดิช – Etixx-Quickstep
ว่ากันตามตรงแล้วฤดูกาล 2015 ของคิทเทลจัดว่ายอดแย่ เพราะนอกจากจะไม่ได้แข่งแล้วยังมีผลงานชนะน้อยมาก ส่วนหนึ่งมาจากอาการเจ็บป่วยต่อเนื่อง ติดเชื้อไวรัสที่รักษาหลายเดือนก็ไม่หาย พอไม่มีผลงานทีม Giant-Alpecin ก็เลยไม่จับลงตูร์ เดอ ฟรองซ์ เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นช่วงเวลาที่ “ยากที่สุดในชีวิต” หลังจากตูร์ ถึงคิทเทลจะได้ลงแข่งบ้างแต่ส่วนใหญ่เขาก็ปั่นไม่จบ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับทีมแย่ลง ปีนี้คิทเทลได้ลงแข่งแค่ 33 วันเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับโปรคนอื่นและมีผลงานแค่สเตจวินใน Tour of Poland
คิทเทลผิดหวังที่ทีมไม่เลือกเขาลงแข่งตูร์…และนี่เป็นจุดที่บอส Etixx-Quickstep แพททริค เลอฟีเวียร์เข้ามาแทรกครับ เพราะข่าวรายงานว่า เลอฟีเวียร์ไม่คุยกับคาเวนดิช (ที่สัญญาหมดปีนี้) ตั้งแต่ตูร์ เดอ ฟรองซ์ ให้เหตุผลว่าตกลงกันไม่ได้ และทีมไม่มีเงิน แต่เหตุผลหลักๆ น่าจะมาจากที่ 1.) คาเวนดิชเริ่มผลงานตกลงเมื่อเทียบกับสปรินเตอร์ไฟแรงอย่างคิทเทล….2.) คาเวนดิชบอกว่าอยากทำผลงานในโอลิมปิก 2016 ซึ่งเลอฟีเวียร์ไม่พอใจ อยากให้เขาโฟกัสที่งานสปรินต์ในแกรนด์ทัวร์มากกว่า
ถ้าเราลองสวมบทบาทเป็นบอสทีมเก่าแก่ชื่อดังอย่าง Quickstep การเปลี่ยนตัวสปรินเตอร์ก็ดูสมเหตุสมผล คาเวนดิชเริ่มอายุมากในฐานะสปรินเตอร์และผลงานดรอปลงกว่าสมัยก่อนอย่างเห็นได้ชัด แต่ค่าตัวนั้นไม่เคยถูกลงเลย กลับกัน คิทเทลเป็นดาวรุ่งไฟแรง ถึงฤดูกาลนี้จะไม่มีผลงานแต่ก็เพราะอาการเจ็บป่วย ไม่ใช่เพราะไม่มีความสามารถ อีกทั้งอายุยังแค่ 26 ปีเท่านั้น
Cyclingnews เชื่อว่าเลอฟีเวียร์หาทางเซ็นสัญญาคิทเทลมาหลายปีแล้ว และคาดว่าจะมีการประกาศ Press Confernce จากทีมบ่ายวันนี้ (เวลาไทย)… และมีข่าวว่าทีมกำลังจะเซ็นสัญญากับสปอนเซอร์ใหม่จากเยอรมัน Lidl (ซุปเปอร์มาร์เก็ตแฟรนไชส์รายใหญ่ของประเทศ) ถ้าสปอนเซอร์เยอรมันมาแล้ว ก็ไม่แปลกที่จะจ้างซุปเปอร์สตาร์เยอรมันมาเสริมทัพด้วย…
2. Giant-Alpecin จะอยู่ยังไง?
เอซทีมออกไปทั้งที Giant อาจจะดูลำบาก แต่ก็คงไม่แย่ครับ จอห์น เดเกนโคลบ์ยังคงแรงต่อเนื่องด้วยผลงานโคตรแชมป์คลาสสิค Milan-San Remo + Paris-Roubaix ในปีเดียว และสเตจวินบ้างนิดหน่อยตามความสามารถ จริงว่าเขาไม่ใช่เพียวสปรินเตอร์แบบคิทเทล แต่ก็ใช่ว่าจะสปรินต์ไม่ได้ ทีมยังมีลูคา เมซเก็ตที่น่าจะพอปั้นมาแทนคิทเทลได้ และตอนนี้มีทอม ดูโมลานที่นอกจากจะเซียน Time Trial แล้วยังมีแววจะเป็นนักปั่น GC คนใหม่ของทีมด้วย บางทีอาจจะเป็นจังหวะดีของทีมที่ได้พัฒนานักปั่นคนอื่นบ้าง ไม่ต้องพึ่งคิทเทลคนเดียว
3. MTN เปลี่ยนโฉม
ถ้าอยากดูตัวอย่างการสร้างทีม “ที่ดี” ไม่ต้องมองไปไกลครับ ผมไม่เคยเห็นกระแสทีมม้ามืดที่ดังยังกะพลุแตกในฤดูกาลเดียว จริงว่า MTN ไม่ใช่ทีมที่เพิ่งก่อตั้ง (ตั้งมา 8 ปีแล้ว) แต่ก็ใช้เวลาปั้นนักปั่นและไต่เต้าขึ้นมาจนได้เข้าแข่งรายการสูงสุดอย่างตูร์ เดอ ฟรองซ์ (พร้อมสเตจวินกลับบ้าน!)
ทำดีย่อมได้ดี เพราะถึงแม้ MTN บริษัทโทรคมนาคมใหญ่จะถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์ ทีมก็ได้สปอนเซอร์รายใหญ่เข้ามาแทน ในนามว่า Dimension Data บริษัท IT Big Data รายใหญ่จากแอฟริกาใต้ (มีรายได้ปีละ 6 พันล้าน USD แต่ตอนนี้ถูก NTT จากญี่ปุ่นซื้อไปแล้ว) ขึ้นมาสนับสนุนทีมแทน ล่าสุดมี Deloitte บริษัทบัญชีระดับโลกมาเป็นโคสปอนเซอร์ด้วย
คุณไม่ต้องแคร์ก็ได้ว่าใครเป็นสปอนเซอร์ รู้แค่ว่า รวยมาก และนั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทีมมีเงินจ้าง มาร์ค คาเวนดิช พร้อมโบนัสพ่วงอีกสองคน – มาร์ค เรนชอว์ และเบอร์นาร์ด ไอเซิลที่เข้ามาเป็นบอดี้การ์ดและลีดเอาท์ส่วนตัวให้คาเวนดิช… Cav ก็แทบจะปิดดีลมาเลย ไม่ต้องกลัวว่าสปรินเตอร์คนอื่นในทีม..ซึ่งเป็นโจทย์เก่าทั้งนั้น อย่าง ไทเลอร์ ฟาร์รา, เธโอ บอส, และเอ็ดวาลด์ โบสซัน ฮาเก็น, จะไม่ช่วยงาน คาเวนดิชเซ็นสัญญามา 3 ปีเต็ม…
การเข้ามาของคาเวนดิชก็คงมาแทนที่เจอรัลด์ ชิโอเล็ค (แชมป์ San Remo 2013 ยังจำกันได้มั้ย….) และแมท กอส อดีตเพื่อนร่วมทีม HTC ที่กำลังจะย้ายทีมพอดี ลงตัวเป๊ะ!
ไบรอัน สมิท โค้ชประจำทีม MTN (Dimension Data) บอกว่าเราอาจจะได้เห็นคาเวนดิช “V2” ในฤดูกาลหน้า นั่นคือ ทีมไม่ได้กดดันว่าเขาต้องทำผลงานสปรินต์ให้ได้เยอะๆ เหมือนก่อน อยากให้อิสระคาเวนดิชในการเบรคอเวย์ การออกหนีกลุ่ม โดยไม่ต้องห่วงว่าจะจบเกมด้วยการสปรินต์เหมือนทุกครั้ง
หลายคนอาจจะไม่รู้ แต่คาเวนดิชเป็นนักแข่งที่เก่งกาจมากครับ ไม่ใช่แค่สปรินเตอร์ความเร็วสูงอย่างเดียว เขามีสัญชาติญาณการแข่งขันระดับต้นๆ ของเปโลตอง อ่านเกมได้ขาด เราเห็นคาเวนดิชในบทบาทนี้หลายครั้ง เช่นในสนามชิงแชมป์เสือหมอบอังกฤษ และในตูร์เดอฟรองซ์ ในสเตจ 13 ปี 2013 ที่เขากระชากเข้ากลุ่มเบรคอเวย์ตัวเต็งหนียาวไปจนถึงเส้นชัยแถมสปรินต์ชนะแชมป์สเตจด้วย
ดูๆ แล้วในช่วงวัย 30 คาเวนดิชอาจจะผันตัวไปเป็นนักปั่นแบบธอร์ ฮุชชอฟ หรือทอม โบเน็นก็ได้ครับ
4.WORLD TOUR สิครับจะรออะไร!?
โดยปกติ ทีมดิวิชัน 1 จะมีได้ 18 ทีมตามกฏ UCI แต่เมื่อสิ้นฤดูกาลที่แล้ว Canonondale ยุบทีมรวมกับ Garmin-Sharp ก็เลยทำให้เหลือทีมดิวิชัน 1 แค่ 17 ทีมเท่านั้น นั่นแปลว่ายังเหลืออีกหนึ่งช่องว่างให้ Dimension Data ที่ได้สปอนเซอร์รายใหญ่มาเติมเต็ม budget พอดีๆ
ปกติทีมต้องยื่นเรื่องขอไลเซนส์ภายในวันที่ 1 สิงหาคม แต่ UCI ก็เคยอนุโลมให้หลายๆ ทีมยื่นเรื่องย้อนหลังได้ เหมือนกรณีของทีม IAM ในปีที่แล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าทีม Dimension Data จะเลื่อนมาเป็นทีมดิวิชัน 1 เต็มตัวในฤดูกาล 2016 ครับ ปีนี้ MTN เป็นทีมที่มีผลงานดีที่สุดในบรรดาทีมดิวิชัน 2 ได้ลงแข่งสนามคลาสสิครายการใหญ่ครบทั้ง 5 รายการ และได้ลงแกรนด์ทัวร์สองสนาม
2016 น่าจะเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่สนุกไม่น้อยครับ สปรินเตอร์เปลี่ยนทีม, คอนทาดอร์กับฤดูกาลสุดท้ายของเขา และทีม Sky ที่กว้านซื้อซุปเปอร์โดเมสติกหวังพิชิตทุกแกรนด์ทัวร์!
* * *