ในการปั่นจักรยานลงเขา
อะไรที่ทำให้คนๆ นึงไปได้ไวกว่าคนอื่นๆ?
แน่นอนว่าจะลงเขาได้เร็วคุณต้องมีทักษะที่ดี อ่านไลน์ถนนได้คล่อง
ตัดสินใจได้เฉียบคม ควบคุมรถได้ราวกับเป็นอวัยวะชิ้นหนึ่งในร่างกาย
แต่อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนหนึ่งกำเบรคแน่นในขณะที่อีกคนปล่อยเบรคฟรีจนความเร็วขึ้นไปถึงจุดที่เราคิดว่ามันเกินไปแล้ว?
คำตอบสั้นๆ คือ “ความกลัว”
แล้วถ้าสมมติเรากำจัดความกลัวออกไปได้จนหมดสิ้น มันจะทำให้เราปั่นได้เร็วใจถึงสาดโค้งพริ้วระดับรอซซี่ มาเกวซ หรือขย่มบันไดขณะที่ร่างคร่อมท่อนอนจักรยานด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเหมือนคริส ฟรูม?
ถ้าไม่มีความกลัวเราอาจจะไปได้ไว แตก่็อาจจะตายก่อนเพื่อนได้เช่นกันครับ
*
ย้อนกลับไปปี 1994
หญิงคนหนึ่งถูกขานนามว่า “คนไข้รหัส SM-046” เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาที่ร่าเริง แจ่มใส เป็นแม่วัยสาวมีลูกสามคน แต่สิ่งที่ทำให้เธอต่างไปจากหญิงสาวคนอื่นๆ ก็คือ
เธอไม่มีความกลัวอยู่ในหัวใจ
เมื่อนักวิจัยพยายามให้เธอวาดรูปสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต เธอทำไม่ได้
นักวิจัยพยายามเอาหนังสยองขวัญระดับที่คนดูต้องลุกหนีออกจากโรง เปิดให้เธอรับชมในห้องมืด เธอกลับถามว่า “หนังชื่ออะไร ตื่นเต้นจังเลย อยากไปเช่ามาดูอีก”
เมื่อหลอกด้วยหนังผีไม่สำเร็จ นักวิจัยหาสัตว์น่ากลัวอย่างกิ้งก่ายักษ์และงูมาให้เธอลองจับดู เธอบอกว่า “เท่ห์จัง!” เธอถามพนักงานร้านสัตว์ถึงสิบห้าครั้งเพื่อที่จะได้ลองสัมผัสงูพิษและแมงมุมทารันทูล่า
แม้แต่ความพยายามในการพาเธอไปเดินโรงพยาบาลผีสิงที่น่ากลัวที่สุดในโลก ที่ผู้คนนับร้อยเสียชีวิตคาโรงพยาบาลจากวัณโรคเมื่อร้อยปีก่อนก็คว้าน้ำเหลว เธอเดินเล่นคนเดียวราวกับชมสวนหลังบ้าน
สำหรับ SM 046 เธอไม่มีทางเข้าใจความกลัว เพราะว่าเธอเป็นโรค Urbach-Wiethe Disease ครับ เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้น้อยมากในมนุษย์ ตั้งแต่มีการบันทึกมาพบว่ามีผู้ป่วยโรคนี้แค่ราวๆ 400 คนเท่านั้น ถ้าดูจากภายนอก ผู้ป่วยจะเหมือนคนธรรมดาแทบทุกประการ
แต่สิ่งที่ไม่เหมือนคือ ส่วนหนึ่งในสมองของเธอได้ตายไปแล้วโดยสิ้นเชิง นั่นคืออะมิกดะลา หรือกลุ่มนิวเคลียสรูปทรงคล้ายถั่วอัลมอนด์ ที่ฝังลึกอยู่ในมันสมองกลีบขมับส่วนกลาง (temporal lobe) หน้าที่ของมันคือทำให้เรารู้สึกหวาดกลัวครับ
ฟังดูชีวิตดี๊ดี กับชีวิตที่ไม่กลัวอะไรเลย แต่กลับกันมันก็เป็นเหมือนคำสาป
SM046 เคยเป็นเหยื่ออาชญากรรมหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นการทุบตีจนปางตายจากอดีตสามี การจี้ปล้นแบบมีดจ่อคอหอย ปืนจ่อขมับระหว่างเดินเล่นในสวนเปลี่ยวช่วงดึกดื่น แต่ความกลัวไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักนิดเดียว นักวิจัยกล่าวว่าชีวิตนี้เธออาจจะไม่เคยรู้สึกถึงความกลัวอย่างแท้จริงเลยก็เป็นได้
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมทุกคนจึงเรียกเธอว่าคนไข้หมายเลข SM046 มันดีกว่าที่คนจะไม่รู้จักเธอ เพราะเธอไม่สามารถป้องกันตัวเองได้เลยครับ สิ่งที่ทำให้คนอื่นกลัวกลับเป็นแค่ความตื่นเต้นอย่างหนึ่งสำหรับผู้ป่วยโรคนี้เท่านั้น
*
กลับมาที่คำถามแรก ถ้าให้เธอมาขี่จักรยานลงเขา จริงว่าอาจจะทำความเร็วได้สูงสุด…เพราะไม่กดเบรค
ไม่รู้ว่าจะกดทำไม แต่ก็อาจจะตกเขาตายเลยตั้งแต่โค้งแรก
ความกลัวช่วยให้เรารู้ว่าจุดไหนคือความ “พอดี” โค้งนี้เบรคลึกได้แค่ไหน ต้องเข้าโค้งที่ความเร็วเท่าไรที่เรายังรู้สึกว่าเอาอยู่
คนที่ไปได้เร็วที่สุดนั้นไม่ใช่คนที่ไร้ใจ แต่อาจจะเป็นคนที่ทำความรู้จักกับความกลัวของตัวเองได้สนิทสนมที่สุด ยิ่งเข้าถึงความกลัวตัวเองได้ลึกเท่าไร ยิ่งไปได้ไวเท่านั้น
Dancing with fear. Playing with the devil.
นั่นคือสามารถเข้าถึงขีดจำกัดของจิตใจ
ในขณะที่ยังไม่ก้าวข้ามเส้นบางๆ ที่เรียกว่าสัญชาติญาณการเอาตัวรอด
ยังอยากไปเร็วที่สุด แต่ก็ยังอยากมีชีวิตจนถึงเส้นชัยข้างหน้า
และสำคัญกว่าคือคนที่ยังรอเราอยู่หลังเส้นชัยนั่น
ถ้าใครสนใจโรคสุดลึกลับนี้สามารถอ่านและชมวิดีโอเพิ่มได้จากลิงค์ข้างล่างครับ
- Wired.com: Rare Brain Disorder Prevents All Fear
- Sciencepub: Neuropsychiatric Symptoms of Urbach-Wiethe Disease