Tour de France… สนามแข่งแกรนด์ทัวร์ที่เก่าแก่และเป็นความฝันของเหล่านักปั่นทั้งโลก แน่นอนว่างานใหญ่ขนาดนี้ต้องมีการ “เปิดตัว” เส้นทางครับ เหตุผลที่ทางผู้จัดแข่งเขาต้องเปิดตัวกันใหญ่โต ก็เพราะต้องการจะดึงตัวนักปั่นชื่อดังให้มาลงแข่งกัน อย่างที่เราทราบกันการแข่งระดับแกรนด์ทัวร์นั้นนักปั่นต้องเตรียมตัวกันข้ามปี ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแข่งสองสนามแกรนด์ทัวร์ต่อๆ กัน หลายๆ คนก็ต้องเลือกครับว่าปีนี้จะไปลงสนามไหนดี ผู้จัดเขาก็เลยต้องทำเส้นทางให้น่าสนใจทั้งสำหรับนักแข่งเองและสำหรับผู้ชมด้วย หลายอาทิตย์ก่อน DT วิเคราะห์เส้นทาง Giro 2014 ไปแล้ว วันนี้เรามาดูเส้นทาง Tour de France กันบ้าง
Highlight
เส้นทาง Tour 2014 นั้นค่อนข้างน่าสนใจครับไฮไลท์ของงานที่เด่นๆ ก็คือ
- 3 สเตจแรกแข่งในประเทศอังกฤษ
- มีเส้นทาง Cobble ถนนหินโบราณที่ใช้ในสนามคลาสสิคอย่าง Paris-Roubaix กว่า 15 กิโลเมตร
- 9 สเตจทางราบ
- 6 สเตจภูเขา
- 5 เส้นชัยบนยอดเขา
- 1 Individual Time Trial
The English start
Tour ปีหน้าแข่งกันตั้งแต่ 5-27 กรกฏาคม จุดสตาร์ท 3 สเตจแรกของ Tour ปีหน้าจะเริ่มกันในประเทศอังกฤษที่เมือง Yorkshire ในสเตจ 1 ไปจบที่ลอนดอนในสเตจ 3 แล้วข้ามไปฝรั่งเศสครับ ถึงชื่อจะเรียกว่า Tour de France แต่ผู้จัดแข่งนิยมจัดสเตจแรกในประเทศอื่นๆ เพื่อเรียกความสนใจจากผู้ชมต่างประเทศ ผู้จัด ASO เขาเคยใช้ London เป็นจุดสตาร์ท Tour มาแล้วในปี 2007 ที่สำคัญชาวอังกฤษเริ่มหันมาสนใจการปั่นจักรยานกันมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นกีฬาอันดับต้นๆ ของประเทศไปแล้วหลังจากที่ทีม Sky คว้าแชมป์ Tour ได้ถึงสองสมัย ไหนจะรางวัลเหรียญทองโอลิมปิกจาก Bradley Wiggins และทีมจักรยานลู่อีกหลายรายการ รับรองว่าในสเตจ 3 ที่ลอนดอน คนดูน่าจะเข้าหลักแสนหรืออาจจะเป็นล้านก็เป็นได้ครับ
Tour de Roubaix
ไฮไลท์อีกอย่างที่น่าสนใจก็คือในสเตจ 5 นักปั่นจะต้องเจอกับเส้นทางถนนหินโบราณ (cobbled road) กว่า 15 กิโลเมตร ซึ่งเจ้า 15 กิโลเมตรนี้หยิบมาจากสนาม Paris-Roubaix แบบเต็มๆ เส้นทาง Cobble ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกเพราะถ้าใครดู Tour ปี 2010 น่าจะจำได้ว่า Frank Shleck ล้มกลิ้งจนต้องถอนตัวจากการแข่ง และเป็นจุดที่ Andy Shleck ทำเวลานำห่างคู่ต่อสู้ได้ไม่น้อย ถนนหินนี่ดูเหมือนจะง่ายและสั้นๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นจุดตัดสินว่าใครจะอยู่ใครจะไปได้เลยครับ ด้วยเส้นทางที่ขรุขระกระเทือนไปถึงลำไส้ และขนาดถนนที่แคบเป็นพิเศษ รับรองว่ามีล้มคว่ำกันแน่นอน เมื่อนักปั่นต้องเจอถนนห่วยๆ ในประเทศอังกฤษ ประกอบกับถนนหิน Roubaix อาทิตย์แรกของ Tour ปีหน้าผมว่าน่าจะเครียดเป็นพิเศษแน่นอน Chris Froome ถึงกับให้สัมภาษณ์ว่าน่าจะอันตรายไม่น้อย
“It is a risk, more risk having the cobbles in. Anything can go wrong on the cobbles; crashes, punctures, mechanicals,” Froome said Wednesday. “It’s something we’re going to have to train specifically for, get out there, see the cobbles, ride the cobbles.” Chris Froome
ภูเขาน้อย
เมื่อเทียบกับ Tour ปีนี 2014 TDF ถือว่ามีเขาให้ปีนไม่เยอะเท่าไรครับ สู้ Vuelta บ้าพลังไม่ได้แน่ๆ สเตจภูเขาแบบจริงจังสเตจแรกเราจะเริ่มกันที่สเตจ 10 กับเส้นชัย Planche des Belles Filles ที่ๆ Froome ได้แชมป์สเตจในปีนี้ ส่วนภูเขาชื่อดังระดับตำนานอย่าง Galibier, Alpe d’Huez, Ventoux ถูกตัดไป (ก็ปีนี้เล่นจัดเต็มเอามาทุกลูกเลย) สเตจภูเขารวมๆ แล้วมี 6 ลูก ใน 5 สเตจนี้จะเป็นเส้นชัยบนยอดเขาซึ่งน่าจะช่วยจัดอันดับผู้นำเวลารวมได้ดี ถ้าไม่ร่วงเจ็บถอนตัวไปตั้งแต่อาทิตย์แรกเสียก่อน
Time Trial
Tour ปีหน้ามีสเตจ Time Trial แค่สเตจเดียวเท่านั้นครับ ต่างกับปีนี้ที่มีถึง 3 ครั้ง (รวม TTT ด้วย) ซึ่งผมว่าค่อนข้างจะน่าเบื่อไปนิดอย่างน้อยก็น่าจะมี Team Time Trial สักหน่อย แต่ถึงจะมีแค่สเตจเดียว ASO ดันจับมันมาวางไว้สเตจรองสุดท้ายเลยในสเตจที่ 20 หมายความว่าผู้ชนะจะตัดสินกันที่สเตจนี้แน่นอนครับ ระยะทางก็ยาวไม่ใช่เล่นที่ 54 กิโลเมตร ซึ่งผมว่า Chris Froome ได้เปรียบแบบสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะเทียบกับบรรดานักไต่เขาทั้งหลายแล้ว Froome ปั่น TT ได้ดีกว่าหลายขุม มีแค่ Vincenzo Nibali ที่พอจะสู้ได้บ้าง แต่คนอื่นนี่หมดหวังครับ นั่นหมายความว่าคู่แข่งอย่าง Nibali, Rodriguez, Valverde, Quintana และคนอื่นๆ ต้องพยายามแซงทำเวลาเหนือ Froome ให้ได้เยอะที่สุดในทุกสเตจภูเขา ก่อนที่จะเริ่มแข่ง Time Trial กัน ไม่งั้นโดนทิ้งห่างเป็น 5 นาทีเหมือนปีนี้แน่ๆ
สรุป
โดยรวมแล้วเป็น Tour ที่น่าสนใจครับ ตอนนี้เรายังไม่เห็น profile stage ทั้งหมด เว็บ letour เขาเอาขึ้นแค่สเตจภูเขา และสเตจในอังกฤษ อาทิตย์ที่สองนี้ผมเดาว่า (ดูจากแผนที่) น่าจะเป็นทางราบค่อนข้างเยอะ ซึ่งก็อาจจะน่าเบื่อพอสมควร แต่อย่างน้อยก็คงมีการสปรินต์สนุกๆ ให้ดูครับ ทีม Argos หวังส่ง Kittel มาป้องกันแชมป์สเตจ ในขณะที่ OPQS ก็ขนขบวนลากแบบ World Class มาเลยทั้ง Renshaw, Petacchi ส่วน Sagan เองก็คงไม่ยอมปล่อยเสื้อเขียวให้หลุดไปง่ายๆ
สำหรับผู้ชนะนั้นถ้าจะให้คาดเดาแล้วก็คงไม่พ้น Chris Froome ครับ ดู Time Trial สเตจสุดท้ายนี่เหมือนจัดมาให้ Froome โดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ ผมว่าคนที่พอสูสีก็คงเป็น Nibali ที่ทาง Astana ไปจัดหนักซื้อตัวโดเมสติกขั้นเทพมาช่วยแบบเต็มที่ Movistar และ Saxo Bank เองอาจจะพอทำแต้มได้ ม้ามืดที่น่าจับตามองคงเป็น Contador ครับ เพราะปีนี้ฟอร์มไม่ค่อยไหว ปีหน้าจะกลับมาล้างแค้นท่าไหนก็คงต้องรอดูกัน อีกคนที่อย่าพลาดก็คือ Rui Costa ที่จะไปอยู่กับทีม Lampre, Costa ชนะสเตจ Tour ปีนี้ถึงสองครั้ง และเขาเองเป็นแชมป์ Tour de Suisse สองสมัยซ้อน อาจจะสู้ตัวเต็งคนอื่นไม่ได้แต่ถ้าเรื่องสเตจวินบนทางลุ่มๆ ดอนๆ ไม่น่าพลาดนักฉวยโอกาสคนนี้ครับ
Rider Reaction!
Froome
Contador
Voigt – Shut up Cobbles!
ขอบคุณมากครับ
ไปดูที่ไหนดีกว่ากัน
เราต้องหาทางไปดูที่อังกฤษให้ได้ เก็บตังๆๆๆๆๆๆๆ
สุดยอดครับ เป็นแหล่งที่ให้ความรู้ที่หาไม่ได่ง่ายๆ ในประเทศไทย ขอบคุณครับ