รีวิว TDF สเตจ 20: ฟรูมเบิ้ลแชมป์ตูร์, พินอท์เก็บสเตจสุดท้าย

เกิดอะไรขึ้นในสเตจ 20?

คริส ฟรูม (Sky) จะเป็นผู้ชนะสนามตูร์ เดอ ฟรองซ์ครั้งที่สองในวันพรุ่งนี้กลางกรุงปารีส หลังจากที่เขารับมือกับการโจมตีคู่แข่งคนสำคัญ ไนโร คินทานา (Movistar) ได้ตลอดในสเตจ 20 คินทานาออกโจมตีฟรูมหลายต่อหลายครั้ง และสุดท้ายกระชากฟรูมจนหลุดบนเขา Alpe d’Huez และเข้าเส้นชัยเป็นอันดับสองและทิ้งห่างผู้นำเวลารวมถึง 1:20 นาที แต่ก็ไม่มากพอจะปลดเสื้อเหลืองจากฟรูม

เกมการแข่งขันเริ่มดุเดือดขึ้นที่ Col de la Croix de Fer เขาสูงชันกลางสเตจ เมื่ออเล็กซานเดอร์ เยียนิซ​ (FDJ) หลุดกลุ่มเปโลตองออกมาทำเวลานำได้หลายนาที มีแนวโน้มที่จะหนีไปคว้าแชมป์สเตจคนเดียว ด้านหลังเยียนิซประกอบด้วยกลุ่มไล่จากหลายทีมแต่เมื่อถึง Alpe d’ Huez กลุ่มไล่ก็เหลือเพียงไรเดอร์ เฮซเชดาล (Cannondale-Garmin), ปิแอร์ โรลองด์ (Europcar) และทิบอต์ พินอท์ (FDJ) พินอท์ที่มีเยียนิซเพื่อนร่วมทีมหนีเดี่ยวอยู่ในกลุ่มข้างหน้า ช่วงสุดท้ายเยียนิซหลุดกลุ่มไป กลายเป็นศึกชิงแชมป์สเตจระหว่างอดีตแชมป์จิโร  2012 และดาวรุ่งจากฝรั่งเศซ เฮซเชดาลพยายามกระชากหนีพินอท์หลายครั้ง แต่ก็เป็นพินอท์ที่ทิ้งห่างได้ในที่สุด ด้านหลังคินทานาที่หนีฟรูมออกมาตั้งแต่ช่วงกลาง Alpe d’Huez ไล่กระชั้นพินอท์จากระยะห่าง 2 นาทีจนเหลือเพียง 30 วินาทีที่หน้าเส้นชัย

View this post on Instagram

A post shared by Tour de France™ (@letourdefrance)

พินอท์เก็บแชมป์สเตจสุดท้ายบนยอด Alpe d’Huez และเป็นนักปั่นชาวฝรั่งเศสคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์การแข่งขันตูร์ เดอ ฟรองซ์ที่คว้าชัยบนยอดเขาชื่อดังลูกนี้

สำหรับ Movistar ทีมวางแผนโจมตีฟรูมตั้งแต่เขาลูกที่สอง Col de la Croix de Fer ด้วยการส่งอเลฮานโดร วาวเวอเด้เปิดเกมกระชากหนีกลุ่ม GC ก่อนถึงยอดเขา คินทานาเร่งหนีตามไปสมทบกับวาวเวอเด้หวังใช้กำลังเอซสองคนหนียาวทิ้งระยะห่างคริส ฟรูม ทว่า Sky ก็ไม่ปล่อยให้หนีง่ายๆ ฟรูมทุ่มลูกทีมทั้งหมดเร่งความเร็วไล่ตาม และสุดท้ายเหลือเพียงเขาคนเดียวที่ไล่ประกบปิดคู่ Movistar ได้ในช่วงทางลง Croix de Fer

เกม GC สงบไปจนถึงตีนเขา Alpe d’Huez เมื่อ Movistar ใช้แผนเดิม ส่งวาวเวอเด้เปิดเกมอีกครั้งและตามด้วยคินทานา ซึ่งทั้งคู่หนีไปได้พักหนึ่ง วาวเวอเด้ก็เครื่องดับหลุดลงมาอยู่กลุ่มกับขบวน Sky ที่มี เวาท์ โพลส์ และริชีย์ พอร์ทคอยตั้งความเร็วให้ฟรูมไล่ตามเอซโคลอมเบีย

ด้านหน้ากลุ่ม – คินทานาไล่ขึ้นไปทันเพื่อนร่วมทีม วินเนอร์ อนาคอนน่า (Movistar) ที่หลุดมาจากกลุ่มเฮซเชดาล รับหน้าที่เป็นแท่นยิงและหัวลากช่วยเขาเร่งความเร็วหนี Sky ได้อีกเล็กน้อย อนาคอนน่าพาคินทานาไปถึง 5 กิโลเมตรสุดท้าย แล้วคินทานาเร่งความเร็วขึ้นไปไล่จับเฮซเชดาล นำห่างฟรูมจาก 30 วินาที กระโดดไปเป็น 1 นาทีเต็ม ข้างหลังคินทานา ฟรูมรู้ดีว่าต่อให้คินทานาเร่งความเร็วแค่ไหนก็ไม่มีทางปลดเสื้อเหลืองจากบ่าเขาได้ ทีม Sky ปั่นอย่างสุขุม ไม่ไล่ตามคินทานาและเลี้ยงความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ ฟรูมเข้าเส้นชัยพร้อมกับวาวเวอเด้ – หลังคินทานา 1’20 นาที ปิดฉากการแข่งขันชิงอันดับโพเดี้ยมตูร์ เดอ ฟรองซ์ปีนี้ และคว้าแชมป์รายการได้เป็นสมัยที่สอง

ผลการแข่งขัน

วิดีโอไฮไลท์

* * *

วาทะนักปั่น

คริส ฟรูม (Sky): “มีความรู้สึกมากมายเต็มไปหมดในช่วงที่ผมปั่นขึ้น Alpe d’Huez ครับ ผมมีเพื่อนตามมาด้วยตลอด และงานที่พวกเขาทำ คอยปิดการโจมตี Movistar ทำให้ผมรักษาเสื้อเหลืองไว้ได้ เราพยายามคุมระยะห่างของคินทานา สเตจวันนี้มันอาจจะยาวแค่ 110 กิโลเมตรแต่มันเหนื่อยไม่ต่างกับการปั่นแบบเต็มที่ 300 กิโลเมตร ผมยังไม่อยากเชื่อว่าจะได้แชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์อีกครั้งครับ”

ไนโร คินทานา (Movistar): “ทีมเรามีแผน เราโจมตี Sky ที่ทางขึ้น Croix de Fer แต่ก็ไม่สำเร็จ แผนสองคือหนีฟรูมให้ได้บน Alpe d’Huez แต่มันก็ไม่มากพอ ทีม Sky ป้องกันได้ดีมากครับ จนถึงวินาทีสุดท้ายผมก็ยังพยายามจะทำเวลาแซงเขาให้ได้ ไม่ได้หวังแค่แชมป์สเตจ ผมทุ่มทุกอย่างที่มีตลอดสัปดาห์นี้แต่มันก็ไม่สำเร็จ แต่ผมก็พอใจกับผลงานของทีมครับ เราลองทุกอย่างในตูร์ปีนี้แล้ว ผมอาจจะไม่ได้แชมป์ปีนี้แต่ความฝันที่จะได้ใส่เสื้อเหลืองก็ยังไม่หายไปไหน ปีหน้าเราจะลองใหม่ครับ”

ทิบอต์ พินอท์ (FDJ): “ผมล้มเหลวหลายครั้งในตูร์ปีนี้ตั้งแต่เสียอันดับ GC และพลาดไม่ได้แชมป์สเตจหลายครั้ง แต่ผมก็ยังพยายาม ผมเสียกำลังใจไปมากตอนที่วิลเลียม โบเนท์ (เพื่อนร่วมทีม) ล้มบาดเจ็บจนต้องถอนตัวไป ใครจะว่ายังไงก็ตาม ดวงและโชคเป็นส่วนสำคัญของการแข่งจักรยานครับ ผมสู้จนวินาทีสุดท้าย เพื่อนร่วมทีมก็เชื่อใจผมจนถึงวันสุดท้ายเช่นกัน และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเยียนิซถึงหนีออกไปตั้งแต่เริ่มสเตจและคอยช่วยผมที่ใกล้เส้นชัย เป้าหมายของผมคือปั่นให้ถึงปารีสโดยไม่เสียใจทีหลัง และผมก็ทำได้สำเร็จแล้ว ได้แชมป์สเตจอาจจะดูด้อยกว่าอันดับ 3 ในตูร์ปีที่แล้วของผม แต่เรายังจะได้กลับมาแข่งอีกหลายปีครับ”

โรเมน บาร์เดต์ (AG2R): “ผมฝันที่จะได้ครองเสื้อลายจุด แต่ก็ไม่เสียใจครับ ผมได้ทั้งสเตจวินและได้อันดับ GC สูงเกินกว่าที่คิดไว้ ชัยชนะของพินอท์วันนี้เป็นเรื่องน่าภูมิใจสำหรับชาวฝรั่งเศส ถึงเราจะอยู่คนละทีมกันแต่เราก็เป็นแรงกระตุ้นให้กันและกัน ยินดีกับพินอท์ครับ”​

อัลเบอร์โต้ คอนทาดอร์ (Tinkoff-Saxo): “ผมเหนื่อย วันนี้หนักจริงๆ แต่ผมก็ยังเชื่อว่าการควบแชมป์ตูร์และจิโร ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถึงมันจะยากแต่ผมก็อยากจะลอง ตูร์อาจจะเป็นสนามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ผมก็ภูมิใจกับชัยชนะแกรนด์ทัวร์อื่นๆ เช่นกัน”

* * *

ฟรูมชนะ Tour de France 2015 ยังไง?

Movistar รู้ดีว่าไม่สามารถเอาชนะฟรูมจากการโจมตีบน Alpe d’Huez เพราะระยะทางมันสั้นเกินกว่าจะทำเวลาห่างฟรูมได้เกิน 2:30 นาที เช่นนั้นแล้วทีมเลยพยายามกระชากฟรูมให้หลุดตั้งแต่ Croix de Fer ที่วาวเวอเด้ชงเกมหนี แล้วให้คินทานาตามขึ้นไปสมทบ แผนนี้เป็นการเดินเกมที่สมบูรณ์แบบครับ เพราะถ้า Movistar หนีไปได้ตั้งแต่กลางสเตจ ฟรูมจะตกอยู่ในที่นั่งลำบากมาก Sky ยอมสละนิโคลาส โรชให้มาเดินเกมไล่ประกบ Movistar ตั้งแต่เขาลูกนี้ แล้วฟรูมก็ปิดงานไล่จับทั้งคู่ได้อยู่ที่ยอดเขาในที่สุด การโจมตีของ Movistar ที่ Croix de Fer เป็นสิ่งที่ควรจะทำ แต่เมื่อมันไม่เด็ดขาดพอ สุดท้ายก็ไม่ได้มีผลอะไรมากนัก อาจจะทำให้ฟรูมกรอบลงบ้างที่ Alpe d’Huez แต่ถึงคินทานาจะหนีเร็วแค่ไหน กับฟรูมที่มีเพื่อนร่วมทีมช่วยทำความเร็วสองคน มันก็ไม่มีทางจะเกินระยะห่างเวลารวมระหว่างทั้งสองคน

สำหรับคินทานาแล้ว ตูร์ปีนี้เป็นความพ่ายแพ้ของเขา เพราะไม่ใช่ทุกปีที่จะมีสเตจภูเขาเยอะแบบนี้ในตูร์ ถ้าปีหน้ามีสเตจ Time Trial ยาวมากกว่านี้ (ปีนี้ถือว่าสเตจ TT สั้นมาก) คินทานาจะเสียเปรียบอีกหลายเท่า

ฟรูมเปิดเกมใน 3 สเตจแรกด้วยการทิ้งห่างคินทานาร่วมสองนาทีในสเตจที่เบลเยี่ยมและฮอลแลนด์​ ต้องยอมรับว่าทีม Sky คุมสถานการณ์ได้ดีมากทุกๆ สเตจ ไม่มีสเตจไหนที่ฟรูมไม่อยู่หน้าสุดของกลุ่ม และไม่เคยติดปัญหาเรื่องอุบัติเหตุหรือล้มบาดเจ็บอะไรเลย แม้แต่ในสเตจถนนหิน ฟรูมก็ขึ้นมานำเกมและคุมสถานการณ์เองในแถวหน้าสุด ไม่ปล่อยให้คู่แข่งคนไหนหนีไปได้

ถึงพีรานีส ฟรูมขึ้นคว้าแชมป์สเตจ 10 และทำเวลาห่างคินทานาออกไปอีก 1 นาทีเต็ม รวมเบ็ดเสร็จฟรูมนำเวลารวมร่วม 3 นาทีก่อนเข้าสู่สเตจในเทือกเขาแอลป์ และ 3 นาทีนี้มันก็เยอะพอจะเป็นเกราะป้องกันการโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าของคินทานา

แต่ผลงานของคินทานาปีนี้น่าจะบอกถึงอนาคตของเขาได้ดีครับ ตั้งแต่เริ่มแข่งขันมา คินทานาเคยแพ้ตูร์ให้ฟรูมแค่คนเดียว และเขาลดระยะห่างได้เรื่อยๆ ในสเตจภูเขา ถ้าดูจากความรอบด้านแล้ว แน่นอนว่าฟรูมยังเหนือกว่าในด้านการปั่น Time Trial และการคุมเกมในสเตจทางราบ แต่ในอนาคตถ้าคินทานาพัฒนาเก็บประสบการณ์มากกว่านี้ก็จะเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ที่หาตัวจับยากคนหนึ่งเลยทีเดียว

สำหรับฟรูม ตูร์เดอฟรองซ์ปีนี้พิสูจน์ได้อีกครั้งว่าเขาเป็นนักปั่นที่รอบด้านที่สุดในเปโลตอง ปี 2013 เขาชนะด้วยทักษะ Time Trial และการขึ้นเขา (บ้าง) แต่ปีนี้ที่เขาเยอะและยากเป็นพิเศษ เขาก็ยังไม่แพ้ให้ใคร ไม่เสี่ยง ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ ไม่ปล่อยให้คู่แข่งคนสำคัญหนีเกินระยะรวบจับได้ นอกจากจะได้แชมป์รายการแล้วฟรูมยังเป็นนักปั่นคนแรกในรอบหลายสิบปี ที่คว้าแชมป์ตูร์พร้อมกับรางวัลเสื้อลายจุดเจ้าภูเขา ต่อจากเอ็ดดี้ เมิร์กซ์ (1968)

ฟรูมคงไม่ต้องห่วงเรื่องอนาคตกับทีม Sky เพราะอย่าลืมว่านี่คือทีมที่สร้างแชมป์ตูร์ 3 สมัยใน 4 ปี (และปีที่แล้วที่ไม่ได้แชมป์ก็เพราะโชค ฟรูมยังไม่ทันได้พิสูจน์ฝีเท้า)

สุดท้ายอันดับสามตูร์ ที่ตกเป็นของอเลฮานโดร วาวเวอเด้ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะนี่เป็นโพเดี้ยมตูร์ครั้งแรกในชีวิตของเขา ถึงแม้จะเคยชนะแชมป์ Vuelta และเคยได้อันดับ 4 ในตูร์ (2014) มาก่อนก็ตาม วาวเวอเด้อาจจะบอกว่าตัวเองปั่นช่วยคินทานา แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทีมนี้มีเอซตูร์ที่แกร่งมากถึงสองคน ช่วยกันทำเกมต่อเนื่อง วาวเวอเด้มีเวลานำนิบาลิอันดับสี่ร่วม 3 นาที และไม่บ่อยครับที่เราได้เห็นทีมใช้เอซคู่โดยที่ทั้งสองคนหาผลประโยชน์ร่วมกันได้โดยไม่มีปัญหาขัดใจกัน ถ้านี่จะเป็นผลงานตูร์เดอฟรองซ์ครั้งสุดท้ายของเขา (ตอนนี้อายุ 35 แล้ว) เขาก็สามารถอำลาวงการได้อย่างภาคภูมิใจครับ

* * *