สัปดาห์นี้เราคลุกเรื่องการโด้ปกันมาเยอะแล้ว ลองมาดูวิธีการโกงการแข่งแบบอื่นกันบ้างครับ เพราะเช้านี้มีข่าวคดีเก่าเรื่องการล็อกผลการแข่งขันระหว่างอดีตแชมป์โอลิมปิกและคู่แข่ง ในสนามคลาสสิครายการใหญ่จนต้องขึ้นศาลกัน
คดีที่ว่าคือการ “ซื้อผลการแข่งขัน” ของอเล็กซานเดอร์ วิโนคูรอฟ อดีตโปรทีม Astana (ตอนนี้เป็นผู้จัดการทีม) ที่ “ซื้อ” ชัยชนะรายการคลาสสิคระดับ Momument Liege-Bastogne-Liege ปี 2010 ในเบลเยียม
ถ้าใครจำไม่ได้ วิโนคูรอฟได้แชมป์เสือหมอบโอลิมปิกปี 2012 ที่ลอนดอน สปรินต์เอาชนะริกโอเบอร์โต้ อูราน และเคยรับโทษแบนเพราะโด้ประหว่างปี 2007-2009
สนาม Liege ปี 2010 นั้น วิโนคูรอฟ ได้แชมป์ อเล็กซานเดรอ์ โคลอบเนฟ (Katusha) ได้ที่สอง และอเลฮานโดร วาวเวอเด้ (Movistar) ได้ที่สาม วิโนและโคลอบเนฟเบรคอเวย์หนีกลุ่มมาด้วยกัน
แต่ดันมีอีเมล์ระหว่างวิโนกับโคลอบเนฟหลุดออกมา เป็นผลงานของนักเขียนนิตยสาร L’Illustre จากสวิส ทั้งสองคนคุยกันหลังแข่งว่า (น่าจะตกลงผลกันระหว่างที่หนีมาด้วยกัน)
KL: คุณก็น่าจะรู้ว่าแชมป์นี้มันสำคัญกับผมมากนะ ผมไม่รู้ว่าทำอย่างนี้สมควรแล้วหรือเปล่า ที่ผมให้คุณชนะมันไม่ใช่เพราะเงินหรอก แต่เป็นความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณและสิ่งทีคุณกำลังเจอ
(ยังกะจดหมายรัก… แต่เหมือนโคลอบเนฟจะสงสารวิโนที่เพิ่งพ้นโทษแบนไปสองปีเต็ม)
KL: ภรรยาผมก็ไม่สบายใจ ไม่ใช่เพราะผมได้ที่สอง แต่เพราะคุณได้ที่หนึ่ง (คนที่เพิ่งพ้นโทษโด้ปได้ที่หนึ่ง)
KL: ถ้าเป็นคนอื่น ผมคงลุยเต็มที่ ทั้งชื่อเสียงเงินโบนัสจากการได้แชมป์ วันนั้นผมรู้สึกแกร่งมาก เพราะงั้นผมหวังว่าการเสียสละครั้งนี้จะไม่สูญเปล่า (จ่ายเงินกรูด้วย) สิ่งเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกดีคือคุณชนะ ไม่ใช่พวกคนพื้นที่ (ชาวเบลเยียม etc. วิโนและโคลอปเนฟมาจากยุโรปตะวันออกเหมือนกัน)
KL: ข้างล่างนี้คือรายละเอียดเลขบัญชีของผม จดไว้แล้วลบทิ้งด้วย ไม่งั้นผมตายแน่
VN: คุณทำทุกอย่างถูกต้องแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก โลกมันกลมและพระเจ้ามองเห็นทุกอย่าง ขอบคุณอีกครั้งนะ ผมเชื่อว่าปีนี้คุณต้องชนะอีกแน่ๆ แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องข้อตกลง ผมโอนให้แน่นอน
KL: ผมชะตาขาดเลยนะ ถ้าเรื่องมันหลุดออกมาว่าผมรับเงินโอนจากคุณ
แน่นอนว่าวิโนปฏิเสธข่าวนี้ทุกอย่างแถมมีขู่จะฟ้องกลับนิตยสารที่เอาอีเมล์มาปล่อยด้วย แต่ล่าสุดทั้งคู่ต้องไปสู้คดีในศาล เพราะศาลเบลเยียมยื่นฟ้องทั้งคู่ในฐานะสมรู้ร่วมคิดล็อกผลการแข่งขันด้วยจำนวนเงิน 150,000 ยูโรหรือประมาณ 5,800,000 บาท ทั้งคู่ต้องไปให้การในวันที่ 13 มีนาคมปี 2018 นี้
ปัจจุบัน วิโนเป็นผู้จัดการทีม Astana ส่วนโคลอบเนฟอำลาวงการไปตั้งแต่สิ้นปี 2016
ที่ผ่านมา นานๆ ทีเราจะเห็นนักปั่นยอมให้คู่แข่งชนะ เพื่อเป็นการสร้างบุญคุณเก็บไว้ทวงในสนามอื่นๆ ข้างหน้า (โดยที่เขาต้องไม่เสียประโยชน์มากนัก เช่นอาจจะนำเวลารวมอยู่ แต่ปล่อยให้คู่เบรคอเวย์ได้แชมป์สเตจ) แต่โดยมากไม่มีการแลกเปลี่ยนเงินกันเหมือนเคสนี้
กฏของ UCI ข้อ 1.2.081 เขียนไว้ว่า
“นักขี่ทั้งหลาย ควรปกป้องโอกาสของตัวเองอย่างมีน้ำใจนักกีฬา การสมรู้ร่วมคิดหรือความประพฤติ เหมือนที่จะทำให้ผลการแข่งขันเป็นโมฆะ หรือต่อต้านผลประโยชน์ของการแข่งขัน ควรจะถูกห้าม”
แต่ว่ากันตามจริงแล้วแข่งจักรยานก็เป็นการฮั้วกันกลายๆ อยู่ตลอดเวลา เวลาคู่แข่งหนีกลุ่มออกมาด้วยกัน ก็ “เต็มใจ” ช่วยกันหนีกลุ่ม หรือแม้แต่ที่เพื่อนร่วมทีมยอมให้เพื่อนอีกคนชนะการแข่งขันถ้าหลุดกลุ่มมาด้วยกัน
ทั้งสองแบบนี้ถามว่ามันผิดกฏมั้ยถ่าว่ากันตามตัวอักษรก็ผิดเพราะเป็นการร่วมมือกันทำให้ผลการแข่งขันเปลี่ยนแปลง ถึงแม้จะมาวัดใจกันหน้าเส้นชัย แต่เกมเบรคอเวย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการแข่งขันจักรยานถนนที่ยอมรับกันทั่วไปครับ แต่เมื่อไรที่มันเกินจากนี้ คือล็อกผลกันแบบซื้อขายมีหลักฐานชัดเจน ก็แน่นอนว่าต้องมีการดำเนินคดีอย่างที่เห็น
ปล. รางวัลผู้ชนะสนาม Liege คือ 20,000 ยูโรหรือประมาณแปดแสนบาทเท่านั้น ที่วิโนอัปมูลค่าไปเกือบ 7x ก็พอจะบ่งบอกได้ว่ามูลค่าของการเป็นตำนานมันมีค่าขนาดไหน
อ้างอิง
Velonews: Vinokurov to face corruption trial for liege win
