ใครจะเป็นแชมป์ 2016 Paris-Roubaix?

ละแล้วมันก็มาถึง…สนามแข่งคลาสสิครายการสุดท้ายของปีนี้ กับสนาม Paris-Roubaix 2016 สนามแข่งคลาสสิควันเดียวที่แข่งในประเทศฝรั่งเศส และจัดว่าเป็นรายการที่ยากที่สุดและทรงเกียรติที่สุดก็ว่าได้ครับ DT พูดถึงประวัติศาสตร์การแข่งสนามนี้ไปหลายครั้งแล้ว คงไม่ต้องพูดถึงอีก ลองอ่านได้ในลิงก์ข้างล่างนี้

Paris-Roubaix: ปีศาจที่ทุกคนหลงรัก

[separator type=”thin”]

114th Paris-Roubaix (ฝรั่งเศส) 

วันที่: 10 เมษายน
ถ่ายทอดสด:
 15:15-22:30 (ลิงก์) ถ่ายทอดสดตั้งแต่ต้นจนจบรายการ!
รายชื่อนักแข่ง: Startlist

[separator type=”thin”]

เส้นทาง

ถึงชื่อรายการจะขึ้นว่า “Paris” แต่สนามนี้ไม่ได้เริ่มในกรุงปารีสมานานมากแล้วครับ จริงๆ เริ่มกันที่ชานเมืองปารีสในเมือง Compiègne และปีนี้แข่งกันร่วม 257.5 กิโลเมตร ช่วงร้อยกิโลแรกเป็นทางราบผสมเนินนิดๆ (สังเกต elevation รายการนี้มีแค่ 33 เมตรเท่านั้น)

จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงถนนหินที่มีทั้งหมด 27 ช่วง รวมระยะทางร่วม 53 กิโลเมตร ถนนหินแต่ละช่วงจะแบ่งความยากตามจำนวน “ดาว” ตามชาร์ทข้างล่างนี้ครับ Screen Shot 2559-04-10 at 1.20.38 AM

แน่นอนว่าดาวยิ่งเยอะก็ยิ่งยาก ถนนหินใน Paris-Roubaix ไม่เหมือนกับถนนหินใน Tour of Flanders และรายการอื่นๆ ในสนามคลาสสิคในเบลเยียม เพราะมันไม่ใช่ถนนหินในเมืองเก่าที่ได้รับการดูแลอย่างดี แต่มันเป็นทางแบบที่เราเรียกว่า ‘farm track’ หรือเส้นทางที่ชาวไร่ชาวนาใช้ทำเกษตรกรรม หินบนถนนรายการนี้จึงมีขนาดใหญ่ แหลมคม ลื่น และไม่เรียบเหมือนหินในเมืองที่นักปั่นเจอสัปดาห์ก่อนๆ

roger_de_vlaeminck_roubaix

แล้วถนนหินมันสำคัญยังไง? เป็นอุปสรรคที่นักปั่นต้องเจอและปั่นข้ามผ่านไปให้ได้ ยิ่งเจอถนนหินมากเข้า ร่างกายก็ยิ่งล้า บอบช้ำและสะเทือน แถมเสี่ยงต่อการล้มบาดเจ็บด้วย นักปั่นทุกคนอยากเข้าสู่ช่วงถนนหินก่อนคนอื่นๆ เพราะงั้นเกมการแข่งขันจะเดือดยิ่งกว่าสปรินต์ลีดเอาท์เมื่อเปโลตองเคลื่อนตัวเข้าใกล้ช่วงถนนหินแต่ละช่วง ใครอยู่หลังก็เสียเปรียบ หากมีคนล้มข้างหน้าหรือมีการโจมตีเบรคอเวย์ออกไปก็ยากจะออกขึ้นไล่ตามทัน

gaumont_roubaix

Jasper Stuyven pedaling over sector 18GoPro and Jasper Stuyven recon sector 8, Trouée d’Arenberg, Thursday, April 7, 2016.

Posted by Trek-Segafredo on Thursday, April 7, 2016

หนึ่งในช่วงถนนหินที่ท้าทายและยากที่สุดคือช่วงป่าอาเรนเบิร์ก (Trouée d’Arenberg – ภาพและวิดีโอข้างบนนี้) ถนนที่ตัดผ่านเส้นทางป่าความยาว 2400 เมตร และมักจะเป็นจุดเปลี่ยนของเกมแทบทุกครั้ง หินในถนนช่วงนี้จะลื่นเป็นและใหญ่พิเศษและมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแทบทุกปี แชมป์หรือกลุ่มเบรคอเวย์ของแต่ละปีมักจะเริ่มคัดตัวกันจากเซคเตอร์นี้

เส้นชัยก็จะไปจบใน Roubaix Velodrome เหมือนเดิมซึ่งนักปั่นจะต้องปั่นกันเป็นจำนวนหนึ่งรอบครึ่งถึงจะจบการแข่งขัน การแข่งในเวโลโดรม โดยเฉพาะเมื่อตัวเต็งเข้ามาพร้อมกันหลายคนทำให้เกมการแข่งตื่นเต้นขึ้นหลายเท่า เพราะนอกจากจะต้องดวลสปรินต์กันกันแล้ว ยังมีการชิงไหวชิงพริบในวินาทีสุดท้ายด้วย

Roubaix Rain

สุดท้ายเรื่องสภาพอากาศ เป็นเวลากว่า 14 ปีแล้วที่ฝนไม่ตกระหว่างการแข่งขันสนามนี้ ถ้าฝนตกการแข่งจะยากขึ้นอีกหลายเท่าตัว พยากรณ์ล่าสุดคือฝนตกในคืนก่อนแข่ง แต่ยังไม่แน่ใจว่าระหว่างแข่งจะตกหรือเปล่า

 

ใครจะชนะ?

Fabian Cancellara ★★★★★ 

ถึงจะไม่ได้แชมป์ Flanders แต่ DT เชื่อว่าแคนเชอลาราน่าจะปั่น Roubaix ได้ดีกว่าคู่แข่งคนสำคัญอย่างซากาน เขามีประสบการ์ณมากกว่า เขาเคยได้แชมป์มา 3 ครั้งแล้ว และมากับทีมซัพพอร์ทที่เหนือกว่า Tinkoff อย่างเห็นได้ชัด ลูกทีมหลายคนเป็นชุดที่พาแคนเชอลาราคว้าแชมป์สนามคลาสสิคหลายรายการ คงไม่ต้องวิเคราะห์อะไรกันมากกับยอดมนุษย์คนนี้ ภาวนาอย่างเดียว ไม่ล้ม ไม่คว่ำ ไม่เจ็บ โอกาสชนะสูงครับ

 

Peter Sagan ★★★★

ถึงจะฟอร์มดีที่สุดในชั่วโมงนี้สำหรับสนามคลาสสิค แต่เชื่อหรือไม่ว่าซากานไม่ใช่คนที่มีผลงานดีเท่าไรใน Roubaix… เขาเคยได้ที่ 86 ในปี 2011, ที่ 6 ปี 2014 และที่ 23 ปี 2015 และเลือกไม่ลงแข่งในปี 2012/2013 ผิดกับ Tour of Flanders ที่เขาลงแข่งต่อกัน 5 ปีซ้อน จุดอ่อนอีกอย่างคือทีม Tinkoff ที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญสนามคลาสสิคเท่าไร และรายการนี้เป็นรายการที่แชมป์ต้องการทีมมากกว่าสนามไหนๆ เพราะด้วยเส้นทางสุดโหดนี้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้าทีม ลูกทีมต้องพร้อมช่วย ไม่ว่าจะเป็นการสละให้ยืมจักรยานหรือให้ยืมล้อเวลายางรั่วทันที

ยิ่งเป็นแชมป์ Flanders มาเชื่อว่าหลายทีมคงไม่ปล่อยให้เขาหนีไปเหมือนใน Omloop, E3 และ Flanders อีกแน่ๆ แต่ก็นั่นหละครับ กับความสามารถอันเหลือล้นของซากาน บางทีปีนี้อาจจะเป็นปีที่ดีของเขาก็ได้

 

Sep Vanmarcke ★★★★

เคยได้อันดับสองในปี 2013 ที่เบรคอเวย์ออกมากับแคนเชอลาราแต่พ่ายให้ลุงไปในการสปรินต์ และน่าจะเป็นคนที่ลุยทางราบๆ อย่าง Roubaix ดีกว่าทางเนินใน Flanders (ซึ่งเราเห็นเขากรอบทุกที) คำถามคือฟานมาร์คจะพีคในรายการนี้มั้ย? เพราะในเบรคอเวย์สนามคลาสสิคปีนี้ที่เขาติดออกมาด้วย เขาเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดทุกครั้ง อีกอย่างคงหวังพึ่งทีม Lotto ให้ช่วยอะไรได้ยาก เข้าสถานการณ์เดียวกับซากาน

 

Etixx-Quickstep ★★★

จะให้สามดาวทีมนี้ก็กะไรอยู่เพราะมีแชมป์เก่าถึงสองคน แต่ถ้าดูจากผลงานปีนี้แล้วก็คงต้องให้แค่สามดาวไว้ก่อน เพราะดู EQS จะแผนพังตลอดทุกสนามที่ลงแข่ง…EQS เป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในรายการคลาสสิค มีลูกทีมที่คุมสถานการณ์ (ได้บ้าง) และเห็นขึ้นนำตลอด แต่ยังขาดกัปตันทีมที่จะทำหน้าที่ปิดเกม (ซึ่งปกติคือโบเน็น) ก็ไม่รู้ว่ารายการนี้จะเป็นยังไง และทีมจะให้โอกาสใครในการทำเกม? เทิร์ปสตร้าแชมป์เก่า 2014 จะได้โอกาสปล่อยฟรีหเบรคอเวย์หนียาวๆ อีกมั้ยหรือจะทำหน้าที่เป็นแค่ผู้ช่วยที่คอยไล่จับกลุ่มหนี? สตีบาร์ก็เช่นกัน

แน่นอนทีมไม่ได้มาแค่สามคนแต่ยังมีตัวแรงอีกเพียบ… โทนี่ มาร์ติน, สไตน์ แวนเดนเบิร์ก, และยังมีแมทเทโอ เทรนทินที่สปรินต์ได้ดีมาก ก็น่าดูว่า EQS จะเก็บแชมป์สุดท้ายเซฟฤดูกาลคลาสสิคเหมือนที่เทิร์ปสตร้าทำได้ในปี 2014 หรือเปล่า (ปีนั้น EQS ก็แพ้ยับในรายการคลาสสิค) ฝีมือและประสบการณ์มีดีกว่าคนอื่น แต่น่าจะอยู่ที่ execution นี่หละครับ

 

Lars Boom ★★★ 

อีกหนึ่งหมาป่าเดียวดาย ที่คงหวังพึ่งลูกทีม Astana ให้ช่วยอะไรได้ไม่มาก เขาอาจจะไม่โดดเด่นนักในสนามคลาสสิคอื่นๆ แต่อย่าลืมว่าบอมคืออดีตแชมป์โลก Cyclocross และเคยได้แชมป์ Tour de France สเตจที่ผ่านเส้นทางถนนหิน Roubaix ด้วย ปีที่แล้วก็ได้อันดับ 4 ในรายการนี้และดูฟอร์มดีด้วยครับ

 

Alexander Kristoff ★★★

ทางทฤษฏีแล้ว คริสทอฟน่าจะถนัด Roubaix มากกว่า Flanders แต่เจ้าตัวเองก็ทำผลงานในสนามนี้ไม่ดีเท่าไรในปีก่อนๆ โอกาสชนะของคริสทอฟคงไม่ใช่การเบรคอเวย์เก๋ๆ หนีไปคนเดียว แต่น่าจะมาจากการสปรินต์ชนะจากกลุ่มตัวเต็งมากกว่า ฟอร์มดี (อันดับ 4 Flanders) น่าติดตามครับ

 

Luke Rowe ★★★

คือนักปั่นคลาสสิคที่ดีที่สุดของ Sky ตอนนี้ และข่าวดีคือเขาได้เป็น “protected rider” หรือกึ่งๆ หัวหน้าทีมคู่กับเอียน สแตนนาร์ดในรายการนี้แล้ว (ปกติเป็นลูกน้อง) จากปีก่อนที่ได้อันดับ 8 ใน Roubaix (ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมปั่นไม่จบ) น่าดูว่าปีนี้เขาจะทำได้ดีขึ้นขนาดไหน

 

Edvald Boasson Hagen ★★

EBH ออกจะเงียบๆ สักหน่อยในช่วงฤดูกาลคลาสสิคปีนี้ ถึงจะไม่ใช่ตัวเต็งอันดับต้นๆ แต่ก็เป็นนักปั่นที่มีพรสวรรค์พร้อมจะเป็นม้ามืดได้ตลอดเวลา น่าสนใจว่าทีม DD เอามาร์ค คาเวนดิชมาลงแข่งด้วย (ปกติ Cav ไม่ลง Roubaix เลย)

 

Jurgen Roelandts + Tiesj Benoot ★★

ทีมนี้น่าจะมีกัปตันสองคนคือโรแลนท์และเบนูท แต่คนหลังล้มเจ็บมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็อาจจะเดินเกมได้ไม่ท็อปฟอร์ม โรแลนท์เองเจนสนามคลาสสิคอยู่แล้ว คงยังไม่ถึงขั้นซากานหรือแคนเชอลารา แต่ถ้ามีหลุดไปในเบรคอเวย์ทีมอื่นก็ต้องเตรียมไล่ปล่อยไม่ได้เหมือนกัน อ้อทีมพาอังเดร ไกรเปิลมาด้วย อาจจะได้เห็นเขาเบรคอเวย์กดดันคู่แข่งเท่ห์ๆ อีกเหมือนใน Flanders เมื่อวันอาทิตย์ก่อน ถึงจะเป็นสปรินเตอร์สายทางเรียบ แต่อยู่กับทีมเบลเยียมอย่าง Lotto-Soudal ก็ต้องมาแสดงสปิริตกันหน่อย

 

นอกจากตัวเต็งที่พูดถึงข้างบนแล้ว ก็ยังมีม้ามืดอีกหลายคนที่น่าจับตามอง เอาจริงๆ Paris-Roubaix บางทีก็เหมือนแทงหวย มีหลายครั้งที่แชมป์รายการเป็นคนที่เราไม่รู้จักเลย จะด้วยโชค หรือจะด้วยกรรมของตัวเต็งคนอื่นๆ ที่อาจจะล้มหรือมีปัญหาอะไรที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ จับตามอง Daniel Oss (BMC), Arnaud Demare (FDJ), Heinrich Haussler (IAM), Jens Keukeleire (GreenEdge), Sylvain Chavanel (Direct Energie) และ Koen de Kort (Giant-Alpecin) ครับ

อย่าลืม! รายการนี้ถ่ายทอดสดตั้งแต่ต้นจนจบทางช่อง Eurosport ซึ่งสามารถรับชมได้ที่ Duckingtiger.com/live ตั้งแต่ 15:30 ถึง 22:30 ครับ

By เทียนไท สังขพันธานนท์

คูน คือผู้ก่อตั้งดั๊กกิ้งไทเกอร์ และอยากใช้เว็บไซต์นี้ช่วยให้คนไทยอยากขี่จักรยานกันเยอะๆ!

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *