เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้ผลิตหมวกนิรภัย Giro ได้เปิดตัวหมวกรุ่นใหม่ซึ่งอยู่ในตำแหน่งเรือธงแทนที่ Giro Synthe ชื่อว่า Aether MIPS โดยมีคุณสมบัติชูโรงคือเทคโนโลยี MIPS รุ่นล่าสุดซึ่งแทรกชั้นกันกระแทกไว้ระหว่างโฟมแทนที่จะอยู่ติดศีรษะ ทั้งยังเคลมว่าแอโร่กว่าและระบายอากาศได้ดีกว่า Synthe อีกเล็กน้อย
I. MIPS
สำหรับผู้อ่านที่ยังไม่คุ้นเคย MIPS นั้นย่อมาจาก Multidirectional Impact Protection System หรือแปลตรงตัวว่า ระบบป้องกันการกระแทกจากหลายทิศทาง ซึ่งเกิดขึ้นจากประสาทศัลยแพทย์ชาวสวีเดนคนหนึ่งที่สังเกตว่าเขาต้องผ่าตัดระบายเลือดในศีรษะผู้ป่วยอุบัติเหตุทั้ง ๆ ที่สวมหมวกนิรภัยขณะเกิดเหตุ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
นั่นก็เพราะสมองคนเรานั้นไม่ได้เป็นอวัยวะแข็ง ๆ ที่ถูกยึดแน่นฟิตเปรี้ยะอยู่ในกะโหลก แต่เป็นก้อนหยุ่น ๆ เหมือนเต้าหู้ที่ลอยอยู่ในน้ำถั่วเหลืองที่เรียกว่าน้ำไขสันหลังต่างหาก แล้วก้อนเต้าหู้ที่ว่านี้ก็ถูกขึงให้อยู่กับที่ด้วยเส้นเลือดและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่าง ๆ อีกที โดยมีพื้นที่ให้มันขยับไปมาได้นิดหน่อย
เมื่อศีรษะกระแทกอย่างรุนแรง พื้นที่ว่างในกะโหลกจะทำให้สมองเคลื่อนไปข้างหน้าก่อนจะกระแทกเข้ากับกะโหลกอีกที เหมือนเวลารถยนต์ชนแล้วคนขับพุ่งไปอัดพวงมาลัยนั่นเอง การบาดเจ็บเกิดได้สองแบบใหญ่ ๆ คือ ณ ตำแหน่งที่ศีรษะกระแทก และตำแหน่งที่อยู่ตรงข้ามกับจุดกระแทก เพราะเมื่อสมองพุ่งไปหน้า มันจะทำให้เส้นเลือดและเซลล์ประสาทที่อยู่ตรงข้ามฉีกขาดจากการโดนดึงรั้งไปด้วย (contrecoup (คอง-เทรอ-คู) injury ในภาพด้านล่าง)
กลับไปที่ประสาทศัลยแพทย์ชาวสวีเดน เขาและทีมวิศวกรที่ร่วมงานด้วยพบว่าการกระแทกที่มีการถากด้วยเป็นการกระแทกที่พบบ่อยมากในชีวิตจริง บ่อยกว่าการกระแทกแบบตรง ๆ ที่ 90 องศา และการกระแทก+ถากนี้จะทำให้เกิดเลือดออกในสมองได้บ่อย ถึงแม้ว่ากะโหลกจะไม่แตกก็ตาม เขาและทีมวิศวกรจึงได้พยายามหาวิธีป้องกันเลือดออกในสมองให้ได้ดีกว่าหมวกโพลีสไตรีนแบบดั้งเดิม จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า MIPS ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นแผ่นพลาสติกแผ่นหนึ่งที่อยู่ชิดกับศีรษะเรา แล้วตัวมันยึดกับโครงหมวกด้วยโพลีเมอร์หยุ่น ๆ อีกที แนวคิดคือช่วยดูดซับแรงกระแทกชนิดหมุนหรือไถลให้ดีขึ้น
และดูเหมือนว่าทางบริษัท MIPS จะทำการบ้านมาดีทีเดียว เพราะเทคโนโลยี MIPS ถูกเช่าใช้สิทธิบัตรแล้วนำไปใส่กับหมวกนิรภัยหลากหลายรุ่นจากหลากหลายผู้ผลิต และไม่จำกัดเพียงเฉพาะหมวกจักรยาน ยังมีหมวกสกีและหมวกจักรยานยนต์อีกด้วย อีกทั้งมหาวิทยาลัย Virginia Tech ก็ได้ร่วมมือกับ IIHS เพื่อทดสอบความปลอดภัยของหมวกนิรภัยแล้วพบว่าหมวกที่ใช้เทคโนโลยี MIPS หลายใบผ่านการทดสอบด้วยคะแนนสูงสุด
แต่ปัญหาของแผ่น MIPS ดั้งเดิมก็ยังมีอยู่บางประการ คือ 1. บางครั้งมันใหญ่จนไปบังช่องรับลม ทำให้ระบายอากาศได้ไม่ดี 2. การเติมชั้นพลาสติกและอีลาสโตเมอร์เข้าไปในหมวกที่ถูกผลิตมาก่อนหน้าทำให้ไซส์เปลี่ยน (ฟิตกว่าเดิม) และ 3. มันกินเส้นผมเวลาถอดออก
ในครั้งนี้ Giro จึงได้ร่วมมือกับ MIPS เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวให้ดีกว่าเดิม โดยย้ายชั้นของโพลีเมอร์หยุ่น ๆ ไปไว้กึ่งกลางระหว่างโครงโฟมโพลีสไตรีนแทน เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า MIPS Spherical เพื่อกำจัดทั้งสามปัญหาที่กล่าวไปก่อนหน้า โดยยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพการกันกระแทกแบบไถลและแบบหมุนอยู่เหมือนเดิม และโครงโพลีสไตรีนชั้นนอกกับชั้นในที่ว่านี้สามารถขยับระหว่างกันได้ประมาณ 15 มม.
II. เปรียบมวยกับ Giro Synthe
ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว Giro Aether MIPS ดูละม้ายคล้าย Synthe มาก ๆ และจะบอกว่าเป็น Synthe ที่ถูกนำมาพัฒนาต่อยอดก็ได้ โดยถูกวางตำแหน่งไว้เป็นหมวกเสือหมอบที่มีฟีเจอร์แอโร่ (แต่ไม่ใช่หมวกแอโร่เพียว อันนั้นคือ Giro Vanquish) สิ่งที่เปลี่ยนไปนอกจากใช้ MIPS Spherical แล้ว ก็ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ อีกเล็กน้อย ได้แก่
- ใช้โครงโพลีคาร์บอเนตโปร่งแสงแทนที่พลาสติกทึบเดิม เพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ อันนี้ผมว่าดูเท่มาก
- โลโก้ Giro เป็นทรงนูนต่ำ เท่อีกเช่นกัน
- มีช่องเก็บแว่นกันแดดเป็นสัดส่วน แถมมีแผ่นยางกันแว่นลื่นหล่นให้ด้วย
- ระบบปรับกระชับ Roc Loc เจเนอเรชั่นที่ 5 ซึ่งบอกว่าสามารถย้ายจุดสัมผัสให้ไม่สมมาตรซ้าย-ขวาได้ เผื่อกะโหลกซ้าย-ขวาที่ไม่สมมาตรกันเป๊ะ ๆ
- ระบายอากาศได้ดีกว่า Synthe 2.5% ลู่ลมกว่า 2.4% และน้ำหนักเบาลง 15 กรัม เหลือ 250 กรัม
- ไม่มีรุ่นที่ไม่มี MIPS เหมือน Synthe ที่มีทั้ง Synthe และ Synthe MIPS เนื่องจากหมวกใบนี้ถูกสร้างขึ้นมาก็เพราะ MIPS Spherical
รีวิวเบื้องต้นจาก CyclingTips บอกว่าใส่สบาย ระบายอากาศดี แต่ต้องระวังหมวกเบี้ยว เพราะสองเลเยอร์มันขยับระหว่างกันได้นิดหน่อย ให้ส่องกระจกก่อนออกจากบ้านด้วย (ฮา)
Giro Aether MIPS จะเริ่มวางจำหน่ายเดือน ส.ค. นี้ ราคาตั้งอยู่ที่ 260 ปอนด์ / 325 ดอลลาร์สหรัฐ / 299 ยูโร ราคาไทยรอประกาศครับ และ Giro Synthe จะถูกปรับลดราคาลง 50 ดอลลาร์สหรัฐแทนเพื่อให้สอดคล้องกัน