ซีรีย์พรีวิว Paris-Roubaix 2017
- นี่คือ 9 ตัวเต็งแชมป์ Paris-Roubaix 2017
- 4 จุดตัดสินแพ้ชนะ Paris-Roubaix 2017
- ปั่นยังไงให้ได้แชมป์ Paris-Roubaix?
- เช็คสเป็ค: Specialized S-Works Roubaix ของ ทอมโบเน็น
- โบเน็น: “มีวันที่คุณเริ่มปั่น, ก็ต้องมีวันที่คุณหยุดปั่น“
- ซากาน: “ถ้าผมไม่ชนะ ผมจะดีใจมากถ้าทอมได้แชมป์”
ทีมอื่นคิดยังไงกับ Paris-Roubaix ครั้งสุดท้ายของทอม โบเน็น?
อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ก็จะเป็นการลงสนามครั้งสุดท้ายของทอม โบเน็น (Quickstep Floors) หนึ่งในนักปั่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันรายการคลาสสิค และถ้าเขาได้แชมป์ Roubaix ปีนี้เขาก็จะเป็นนักปั่นคนแรกของโลกที่ได้แชมป์สนามนี้ถึง 5 สมัยครับ
แน่นอนว่าถ้าโบเน็นจะชนได้นั้นเขาต้องปราบคู่แข่งคนอื่นๆ ซึ่งก็อยากจะชนไม่แพ้กัน แต่เมื่อสำนักข่าวจักรยานไปสัมภาษณ์ทีมอื่นว่ามองยังไงถึงโอกาสที่โบเน็นจะได้คว้าตำนานแห่งวงการ ทุกทีมตอบเหมือนกันว่า “ถ้าทีมเราไม่ได้แชมป์ ก็ขอให้แชมป์ปีนี้เป็นโบเน็น!”
โอลิเวอร์ เนเซ็น (AG2R)
“เราคงพยายามเอาชนะเขานั่นหละครับ ในสนามคลาสสิค ไม่มีการแจกของขวัญให้คู่แข่งหรอก ทุกคนอยากได้แชมป์ Roubaix, แต่ถ้าเราไม่มีลุ้นแชมป์ เราก็หวังว่าเขาจะชนะ”
ปีเตอร์ ซากาน (Bora-Hansgrohe)
“ความทรงจำแรกของผมกับทอม ต้องย้อนไปปี 2005 ครับ มันเป็นปีที่เขาได้แชมป์โลกในมาดริด และผมตะโกนร้องเชียร์อยู่หน้าทีวี”
“แต่ถ้านับไปครั้งแรกที่ผมเจอเขา มันงดงามแต่ก็น่ากลัวครับ ตอนนั้นผมเป็นนีโอโปรกับ Liquigas ผมยังเด็กแล้วก็ปั่นแบบเสี่ยงอันตรายตอนจะสปรินต์ในสเตจ Tour of California ผมรู้เลยว่าตอนนั้นทอมโกรธมาก คืนนั้นทีมเราพักที่โรงแรมเดียวกัน ผมเลยเดินไปขอโทษทอม ซึ่งเขาก็ตอบมาว่า ‘ไม่เป็นไร ในสนามแข่งก็แบบนี้แหละ’
“ทอมเป็นคนที่ทักทายคนอื่นตลอดเวลา ผมเรียนรู้ที่จะทำอย่างเดียวกับเขา แค่พูดสวัสดี มันไม่ได้เสียอะไรเลยครับ”
“โบเน็นเป็นไอดอลของผม ตอนที่ผมลงแข่ง Roubaix ครั้งแรก ผมปั่นไม่เป็นเลย แต่ผมเรียนรู้จากเขาเยอะมาก ถ้าผมไม่ชนะ ผมจะดีใจมากถ้าแชมป์เป็นเขา มันจะเป็นการอำลาวงการที่ดีที่สุดเลย”
เดิร์ค เดอโมล (ผู้จัดการทีม Trek-Segafredo และคนที่ดึงตัวโบเน็นเข้าทีม US Postal Service ตั้งแต่เริ่มฉายแววตอนเข้าวงการ):
“ถ้าเราไม่ชนะ ผมอยากเห็นทอมชนะ ผมรู้จักทอมมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เขาไม่ใช่แค่นักปั่นฝีเท้าดีครับ แต่ยังเป็นคนดีด้วย ผมรู้ว่าเขาจะฟอร์มดีวันอาทิตย์นี้ และเขาก็แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขาพร้อมแค่ไหนใน Flanders ทุกคนจะคิดถึงเขาเมื่อเขาเลิกแข่งครับ”
ส่วนเจ้าตัวเองนั้นก็บอกว่าพร้อมแล้ว: “ทุกคนพูดถึงแต่ผม มันเหมือนมีใครวาดเป้าใหญ่ๆ ไว้บนหลังผมเลยครับ ตอนนี้ผมฟอร์มโอเคนะ ดีกว่าปีที่แล้ว ปีนี้ผมเตรียมตัวได้ดีกว่าปีก่อน ก็ต้องลองดูว่าเป็นยังไง ผมรู้ว่ามันจะไม่ง่ายแน่นอน”
เหตุผลเดียวที่โบเน็นยังไม่ยอมรีไทร์ตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็เพราะเขาอยากคว้าแชมป์ Roubaix ให้ได้อีกหนึ่งครั้ง
Via: Velonews.com
